แค่ดาราคนเดียว อย่าทำให้เป็นเรื่อง! “บอย ถกลเกียรติ” เปิดใจไม่สน “หนิง ปณิตา” วิจารณ์รายการท็อปเชฟใช้คำไม่สุภาพ ยันกรรมการมีเครดิต อินเตอร์เนชั่นแนล ตอกกลับคนด่าให้ย้อนกลับไปดูคอมเมนต์ของตัวเองซะก่อน
กำลังเดือดเลยทีเดียว สำหรับรายการ “ท็อป เชฟ ไทยแลนด์” หลังจากที่ “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ออกมาวิจารณ์ว่ากรรมการใช้คำพูดไม่สุภาพ และดูถูกคน ถ้าอยากจะแรง ต้องให้เกียรติคนอื่นด้วย ล่าสุด “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ออกมาเปิดใจถึงกรณีดังกล่าว ยันถูกวิจารณ์เป็นเรื่องปกติ ก่อนย้อนคนวิจารณ์ให้กลับไปอ่านคอมเมนต์ของตัวเองซะก่อน
“ผมว่าก็เป็นปกติครับ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วถ้าเกิดใครจำได้ เพชร-ม้า-โจ้ จากรายการเดอะสตาร์ ก็โดนด่าเละเลยนะครับในปีแรกของเดอะสตาร์ คนก็ว่าเป็นใคร แล้วทำไมต้องมาด่ากันแรงขนาดนี้ ถ้าคุณไปทานร้านอาหารแล้วจ่ายเงินแพงๆ แล้วอยากได้อาหารดีๆ แล้วถ้ามันเกิดอะไรขึ้น ผมว่าคุณด่าแรงกว่านี้อีกนะ”
“ถามว่ากรรมการเหล่านั้นเป็นใคร กรรมการเหล่านั้นมีเครดิตสูงมาก เขาเป็นเชฟที่ฝึกฝนเชฟไทยให้ไปแข่งโอลิมปิกแล้วได้เหรียญทองกลับมา การทำอาหารมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มันไม่ใช่แค่การทำอาหาร มันคือการทำอาหารสำหรับเชฟที่จะต้องเป็นท็อปเชฟ ไม่ใช่แค่พ่อครัวแม่ครัว มันแสดงให้เห็นว่าถ้าคุณไปทานอาหารร้านนี้แล้วอร่อยกว่าอีกร้านหนึ่ง มันมีความพิเศษอะไรมากกว่าอีกร้านหนึ่ง เราก็ต้องทำความเข้าใจกันไป”
“ผมคิดว่ามันก็เป็นการสะท้อนอะไรบางอย่าง สิ่งที่กรรมการพูดหรือวิจารณ์ ผมว่ามันก็สะท้อนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ ถ้าคุณบอกว่ากรรมการใช้คำไม่สุภาพ แหม ลองอ่านข้อความที่คุณโพสต์กันสิ ถ้าจะบอกว่ามันเป็นการออกอากาศทางทีวี ผมว่ามันไม่ได้หยาบไปกว่าละครที่ออกอากาศทุกวันนี้หรอก ผมว่ารายการมันไม่ได้มีความหยาบคายอะไรนะ”
“ท็อปเชฟถ่ายทำไว้เกินครึ่งหนึ่งแล้ว ก็ต้องดูว่าสิ่งที่ดำเนินไปนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมคิดว่าสิ่งที่เราได้จากการดูรายการนี้ต่างหาก ได้รู้ว่าเมนูนี้ทำอย่างไรมีรายละเอียดยังไง ทำยังไงถึงจะอร่อย ผมไม่ได้เป็นคนทำอาหารเก่งแต่ชอบทำอาหาร ผมสนุกและได้เรียนรู้เยอะมาก สิ่งที่เราดูจากรายการนี้แล้วนำไปใช้ ไปพัฒนากับสิ่งที่เราทำอยู่ในสังคมนี้ มองในสิ่งที่เราได้ดีกว่ามองในสิ่งที่เราหงุดหงิด ทุกอย่างมีหลายมุมในสังคมในโลกนี้”
บอกแค่คอมเมนต์ดาราคนเดียว ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่อง ยันกรรมการมีเครดิต อินเตอร์เนชั่นแนล
“ถามว่าเห็นคอมเมนต์ดาราคนนั้นแล้วมั้ย คุณกำลังพูดถึงดาราคนเดียวแล้วทำไมต้องเป็นเรื่องล่ะครับ ผมก็จะถามว่าแล้วเขาเป็นใคร ที่มันเป็นประเด็นเพราะเลือกไปจับมันขึ้นมาเป็นประเด็นก็แค่นั้น ก็พูดถึงดาราคนเดียว อย่าจับแพะชนแกะกันแบบนี้”
“จุดขายของรายการคือการถกกัน เพราะคนเหล่านี้มีอาชีพเป็นพ่อครัวแม่ครัวแต่เรามาแข่งขันกันว่าใครจะเป็นท็อป แต่ในขณะเดียวกันกรรมการเขาก็มีเครดิตที่สูงกว่าจริงๆ แต่ละคนเชี่ยวชาญในด้านการทำอาหาร มีเครดิตอินเตอร์เนชั่นแนล ผมว่ามันมีหลายมุมมองสิ่งที่เราจะได้จากตรงนี้มันคือรายละเอียดที่เราอาจจะลืมนึกถึงจุดๆ นี้ไป หรืออะไรที่จะทำให้เราพัฒนามากขึ้น”
“ผมว่ารายการมันก็สะท้อนสังคมอยู่ มันมีสิ่งดีๆ เยอะมาก เชฟก้อยต้องเดินไปทำอาหารทุกวัน พ่อแม่ไม่เคยสนับสนุน ตอนนี้เขาอายุสี่สิบกว่าจะห้าสิบแล้ว เขาประสบความสำเร็จมาขนาดนี้ได้มันต้องใช้แรงบันดาลใจและความพยายาม ผมให้ลูกดูว่าเห็นมั้ยเขาต้องทำอะไรบ้างกว่าจะเป็นเชฟที่ประสบความสำเร็จ ทุกคนต้องเรียนรู้อย่าหยุดพัฒนา ผมก็สอนลูกแบบนี้ ถ้าหนูอยากเป็นเชฟที่ประสบความสำเร็จ เขาต้องฝึกกันมาหนักขนาดไหน พ่อแม่ไม่สนับสนุนแต่เขามีแรงขับและฝึกๆ ให้ได้ ผมว่าผมได้จากตรงนี้นะเยอะมาก”
“เชฟแต่ละคนที่มาแข่งก็มีองค์ไง มันสะท้อนให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ถกกันสิว่าเป็นยังไง คนไทยทุกวันนี้เปลี่ยนไป พูดมากขึ้นมีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้น พูดไปเถอะมันเป็นความคิดเห็น ทุกคนมีความคิดเห็น นี่คือโลกใหม่ที่สังคมเดินไป เขาพูดให้เห็นหน้านะ แต่บางคนพูดไม่เห็นหน้า”
ปัดฝุ่น “สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล” ลั่นละครเวทีจะไม่มีวันตาย
“สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล จะกลับมาแสดงในเดือนสิงหาคมนี้ จะเป็นสี่แผ่นดินสำหรับคนไทยในปี พ.ศ. 2560 จะแตกต่างจาก สี่แผ่นดิน 2555 ปีนี้กับเมื่อห้าปีที่แล้วบ้านเมืองก็ต่างกัน แต่สี่แผ่นดินก็ยังคงเป็นสี่แผ่นดินแหละครับ แต่มันต้องมีความต่างบ้างเล็กน้อยให้กับคนในปี 2560 ผมอยู่ในคณะกรรมการมูลนิธิคึกฤทธิ์ ปราโมช คนที่ได้ร่วมงานกับท่านหรือว่าเป็นลูกศิษย์ของท่านก็จะพูดเสมอว่า ท่านคึกฤทธิ์จะชอบคุยกับเด็กรุ่นใหม่ ทำให้มีมุมมองใหม่ตลอดเวลา ท่านจะให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม เพราะฉะนั้นในการที่เรานำสี่แผ่นดินกลับมาทำแล้วทำให้มันเป็นแมสเสจสำหรับคนไทยในปี พ.ศ. 2560 ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่านี่ก็น่าเป็นสิ่งที่ท่านอยากเห็น”
“จะมีการปรับเพิ่มเนื้อหาแน่นอนครับ มันคือการตีความรายละเอียดต่างๆ แต่สี่แผ่นดินก็ยังคงเป็นสี่แผ่นดิน แม่พลอยยังคงเป็นแม่พลอย แม่พลอยยังแต่งงานกับคุณเปรม มีลูกสี่คน (หัวเราะ) แต่การตีความรายละเอียดอะไรบางอย่าง เรามองเห็นแล้วว่ามันจะมีความแตกต่าง เราจะมีการหาอะไรใหม่ๆเพื่อมานำเสนอให้กับคนดูในปี พ.ศ. นี้”
“จะเพิ่มเติมเรื่องความรู้สึกสูญเสียของคนไทยด้วยหรือไม่ ก็ต้องรอดูกันว่าจะเป็นยังไง ละครเวทีเป็นสิ่งที่ไม่ตาย ยิ่งเรื่องนี้มันพูดได้กับคนทุกยุคสมัยแต่ว่ามันอยู่ที่วิธีพูดจะพูดยังไงกับคนยุคไหนยังไง”