“เบิ้ล ปทุมราช” โต้โชว์แซ่บแหกอ้าบนเก้าอี้ ยันไม่ใช่ตน แต่หลุดชมไซส์พี่เขาก็ได้อยู่! เขินถูกส่องเป้า เลิกเด้งเด้า เลิกใส่ กกน.บาง หันมาใส่บ็อกเซอร์รัดกุมขึ้น โอดมีมุมเผลอลืมจัดระเบียบ ฟุ้งชอบฉายา-ำต่ง
เป็นลูกทุ่งดังที่คนรู้จักเพลงมากกว่าหน้าซะอีก สำหรับ “เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม” เจ้าของเพลงฮิต เฟสก็หายไลน์ก็เงียบ, อ้ายมีเหตุผล ฯลฯ แถมในระยะหลังๆ มานี้ถูกโฟกัสแต่เป้าเวลาขึ้นเวทีคอนเสิร์ต แต่ที่ทำเอาฮือฮาเพราะมีคนปล่อยภาพหลุดอ้างเป็นเจ้าตัวกำลังแหกอ้าซ่าบนเก้าอี้ งานนี้ร้อนถึงลูกทุ่งดังต้องออกมาชี้แจงในพิธีมอบรางวัลศิลปินดาราและสื่อสารมวลชนเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ครั้งที่ 8 ณ ห้องสยามมกุฎราชกุมาร อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี ซ.ศูนย์วิจัย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ยันไม่ใช่ตน แต่ไซส์พี่เขาก็ได้อยู่!
“เพิ่งเห็นภาพเมื่อกี้ ก็ตกใจนะครับ รู้สึกว่าอยากจะยอมรับอยู่ เพราะไซส์มันพอดี ไซส์ตัวนะครับ (หัวเราะ) แต่ไม่ใช่ผมครับ คือ ผู้ชายน่ะเอาตามความจริงนะเด็กวัยรุ่นก็ต้องมีการระบายอารมณ์ตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่สิ่งที่ผิดคือเขาใช้โซเชียลและกล้องถ่ายรูปไม่ถูกต้อง”
“โซเชียลมันมีทั้งดีและร้าย ถ้าเราถ่ายทอดในมุมมองของความดี อย่างถ่ายรูปให้เงินขอทาน คนอาจจะมองว่าสร้างภาพ แต่มันก็คือภาพที่ดี แต่มุมมองของภาพนี้มันเป็นภาพอนาจารมากเกินไป สำหรับผมไม่ค่อยถ่าย ถ้าถ่ายก็เอาไว้ดูคนเดียวในห้องดีกว่า พูดเล่นนะครับ ยืนยันว่า ไม่ใช่ผมครับแน่นอน คือ มันตลกตัวเองนะ ขนาดผมถ่ายตัวเองบางทียังต้องดูหน้าว่ามันได้มั้ย นี่ต้องมาเปลือยด้วยผมว่ามันอนาจารเกินไป”
สะเทือนใจ คนรู้จักเพลงแต่ไม่รู้จักหน้า ฝากบอกหนุ่มในภาพหลุดว่าให้ออกมายอมรับเพราะไซส์ก็ได้อยู่!
“ไม่ค่อยกลัวครับ เพราะเราไปห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ อย่างเช่น เวลาที่ผมเป็นข่าวในโลกออนไลน์ บางคนมาคอมเมนต์ว่า เบิ้ล ปทุมราช คือใคร ทำไมเราไม่รู้จักอะไรอย่างเนี้ย ก็ทำให้เราสะเทือนใจบ้าง ผมเลยรู้สึกว่าทุกคนมีความคิดของเขาต่างๆ นานา ทำไมเราต้องแคร์ความรู้สึกคนที่พูดถึงเราไม่ดีด้วย เราก็แคร์เฉพาะที่ติดตามเราดีกว่า”
“ณ วันหนึ่งถ้าเกิดเราทำความดีจริง และเราไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆ ทุกคนที่ไม่รู้จักก็อาจจะมารู้จักและติดตามเราก็ได้ ภาพนี้ผมก็เลยไม่กลัวครับ ไม่ซีเรียสครับ แต่ก็อยากให้คนที่ถ่ายรูปออกมายอมรับเองดีกว่า (หัวเราะ) คุณก็โอเคอยู่นะ ไซส์อะไรต่างๆ ไม่ต้องมายัดเยียดให้ผมก็ได้ เขาเองก็เพอร์เฟ็กต์อยู่นะเท่าที่ดู (หัวเราะ)”
“แต่ที่พูดนี่ไม่ใช่ว่าผมชอบนะ เพราะมันมีข่าวว่าผมเป็นเก้ง เป็นกวางอะไรบ้าง แต่ผมเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิง แต่ก็ไม่ถึงกับต้องถ่ายรูปอะไรแบบนั้น อาจจะถ่ายใส่เสื้อกล้ามบนคอนเสิร์ต เวลาแฟนเพลงขอเสื้อกล้ามก็อาจจะมีถอดเสื้อโยนให้บ้าง แล้วก็รีบใส่เสื้อแขนยาว แต่ไม่มีถอดเสื้อถ่ายรูปอะไรแบบนั้นครับ นอกจากว่าจะมีซิกแพ็ก แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรให้โชว์ ก็เลยไม่กล้าที่จะถ่ายรูปโชว์”
ชอบฉายา-ำต่ง บอกเป็นคำที่น่ารัก ตั้งเอง-ใช้เอง ยันน่ารัก ไม่ลามก
“นี่ก็เป็นประเด็นเหมือนกัน รู้มาเหมือนกันครับ คือตั้งแต่สมัยเป็นเบิ้ล ปทุมราชปีแรกๆ ก็มีคนตั้งฉายาว่า-ำต่ง ต่ง คือ อยากจะบอกว่าคำนี้ผมใช้เองในโลกออนไลน์ เพราะมันเป็นคำของคนแก่ในภาคอีสาน บักหล่า-ำต่ง บักหล่า-ำน้อย ใหญ่ มันไม่ใช่คำที่ลามก แต่ในมุมมองคนกรุงเทพฯ อาจจะคิดว่าทำไมต้องพูด-ำๆ อะไรอย่างเนี้ย แต่คนอีสานมันเป็นคำที่น่ารักมาก”
เลิกใส่ กกน.บาง หันมาใส่บ็อกเซอร์รัดกุมขึ้น ยอมรับบางครั้งลืมจัดระเบียบ
“แต่พอมาเป็น-ำต่งปุ๊บ ต่งคืออะไร พอรู้ความหมายว่าต่งมันคือใหญ่นี่หว่า สุดท้ายคนก็ซูมแต่ที่เดียว ผมเคยรู้ว่าตัวเองมีภาพหลุดในทวิตเตอร์ด้วย มีคนแคปเป้าผมไปลง ก็ตกใจ ก็เลยเปลี่ยนจากที่เคยใส่กางเกงในบางๆ ก็เลยใส่รัด ใส่บ็อกเซอร์ ก็ระมัดระวังมากขึ้น แต่กางเกงของนักร้องมันก็ต้องใส่รัดๆ อยู่แล้ว แต่มันก็จะมีมุมเผลอไม่ได้จัดระเบียบบ้าง มันเลยมองว่าเป้าตุง แต่มันคือเงาครับ บางกล้องก็ซูมได้ดีมาก ก็กลายเป็นภาพหลุดไป แต่ชื่อนี้มันเป็นเพียงชื่อครับ เป็นฉายาเฉยๆ มันไม่ได้มีอะไรที่ทำให้คุณต้องก้มไปดูหรือติดตามอะไรขนาดนั้น ตอนนี้จัดระเบียบเป็นแล้วครับ (หัวเราะ) จัดระเบียบในการใส่กางเกงในให้มีผ้าหนาๆ แล้วก็ใส่บ็อกเซอร์ครับ”
เลิกเด้งเด้า หันมาโชว์ความสามารถ
“ก็เขินครับ อย่างเวลาที่คนมาถ่ายหน้าเวทีใกล้ๆ ก็ชอบเอาไปทำแคปชั่นว่าไม่ได้มองหน้าเฮียเบิ้ลเลย แล้วก็อมยิ้ม ก็เขินครับ ก็คิดว่าทำไงดีเนี่ยที่จะทำให้ทุกคนโฟกัสอย่างอื่น ก็คือเปลี่ยนแปลงบนคอนเสิร์ต จากที่เราเคยโชว์เด้งเด้าอะไร ก็กลายเป็นการโชว์ความสามารถพิเศษ ทุกวันนี้เบิ้ลก็เลยหยิบพิณมาเล่นบ้าง แต่งลำภูไทยฟ้อนบนคอนเสิร์ตบ้าง แต่ลำกลอนเป่าแคนอะไรบ้าง มันจะเป็นการดึงดูดให้ทุกคนลืมมองตรงนั้นไป แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบมองอยู่แล้วเราก็ห้ามเขาไม่ได้ ก็ถือซะว่าเขามองแต่ก็เอาไปไม่ได้”