“กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่” รับต้องรีเซตชีวิตใหม่ หลังพ่อน้อยใจฆ่าตัวตาย รับผิดเต็มร้อย - โทษตัวเอง แต่แก้ไขอดีตไม่ได้ ชี้ ทุกอย่างมีกรรม ดึงสติให้เร็ว ต้องเข้มแข็งเพื่อคนที่อยู่
จากเหตุการณ์สะเทือนใจ พ่อของแร็ปเปอร์คนดัง “กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่” หรือ “ณัฐวุฒิ ศรีหมอก” ผูกคอตายภายในคอนโดย่านหัวหมาก เหตุชอบดื่มสุราและถูกลูกชายห้ามปราม ล่าสุด หนุ่มกอล์ฟก็ได้ออกงานเป็นครั้งแรก โดยยอมรับว่า สภาพจิตใจยังย่ำแย่ แต่ต้องรีบดึงสติ ต้องเข้มแข็งเพื่อคนที่ยังอยู่
“ตอนนี้อยู่ในช่วงประกอบเลโก้ เพราะความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนหลุดไปหมดแล้ว ตอนนี้ก็ต้องพยายามกลับมาใช้ชีวิตปกติให้เร็วที่สุด เนื่องจากตอนนี้คนที่ยังอยู่ต้องการความดูแลก็ยังมี ไม่ว่าจะเป็นลูกสาว คุณแม่ ภรรยา ซึ่งเขาก็ยังรอเราอยู่ เพราะเราเองก็เป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัวในตอนนี้ ดังนั้น เราก็ต้องพยายามกลับมามีสติให้เร็วที่สุด เพราะว่าตอนนี้มันอยู่ในช่วงที่เรากำลังมีงานเข้ามาเยอะ และช่วงที่ผ่านมาที่หยุดงานไปก็มีผลกระทบกับหลายฝ่ายเช่นกัน ดังนั้นผมก็ต้องพยายามทำให้ชีวิตประจำวันมันดำเนินหน้าให้ได้ ตอนนี้คนรอบข้างก็ให้กำลังใจเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ทุกคนก็พยายามให้กำลังใจกันอยู่”
“ช่วงที่เบรกงานไป ตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพิ่งจะมารู้สึกโอเคขึ้นก็เมื่อช่วงก่อนที่พาครอบครัวไปทะเล ไปหัวหิน ชะอำมา 2 วัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นช่วงที่ได้รีเซ็ตชีวิตใหม่ เพราะว่าก่อนหน้านี้ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ แต่ถามว่าไปทะเลแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นมั้ย ไปทะเลแล้วเรารู้สึกว่าเราเอาอะไรไปวางไว้ตรงนั้นเยอะมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เราไปลอยอังคารพ่อ เรารู้สึกว่าการกลับสู่ธรรมชาติมันเป็นเรื่องธรรมชาติ”
“เพราะก่อนหน้านั้น ผมเอาแต่เฝ้าโทษตัวเองตั้งคำถามกับตัวเองว่าสิ่งที่เราทำมันคืออะไร จนกระทั่งได้ใคร่ครวญว่าทุกอย่างมันมีกรรมของมัน ทุกคนมีกรรมหมด แม้กระทั่งตัวเราเองก็มีกรรมของเรา เพราะฉะนั้นตอนนี้เราก็ต้องยืนขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับกรรมของตัวเอง และเผชิญหน้ากับสิ่งที่ยังอยู่เพื่อคนที่ยังอยู่ครับ”
สภาพจิตใจย่ำแย่ แต่ต้องคิดถึงครอบครัวที่ยังอยู่
“ในส่วนของงานตอนนี้ทุกคนก็เข้าใจครับ ทุกคนพยายามเบรกงานให้เรา เพราะช่วงที่ผ่านมาผมเองก็หยุดงานไปประมาณ 3 อาทิตย์ เกือบๆ จะครบ 1 เดือน และงานนี้ก็เป็นการรับงานวันแรกของผม”
“สภาพจิตใจของผม ตอนนี้พูดตรงๆ เลยครับว่าแย่ แต่พอได้กลับบ้านไปเจอภาพลูกเมียหลับอยู่ เจอแม่ที่ยังอยู่กับเรา ดังนั้น ผมก็พยายามที่จะเอาครอบครัวเป็นหลักไว้ก่อน”
รับผิดเต็มร้อย แต่แก้ไขอดีตให้กลับคืนมาไม่ได้ ต้องเผชิญหน้าต่อ
“สำหรับกระแสด้านลบมีอยู่แล้วครับ คือเราค่อนข้างเข้าใจ เพราะเราไม่ได้บอกว่าเราถูก แต่ถามว่าผิดมั้ย แน่นอนครับผมรู้สึกกับตัวเองว่าผมผิดเต็มร้อย แต่ว่าสิ่งที่มันทำไปแล้วมันก็ไม่สามารถแก้ไขให้มันกลับคืนมาได้ นอกจากผมจะต้องเผชิญหน้าเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นผลกรรม ผลลัพธ์ หรืออะไรก็ตาม ตอนนี้ผมต้องยืนอยู่ให้ได้เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องท้อ เอาตรงๆ นะครับไม่มีโอกาสให้ท้อ ตอนนี้เราต้องยืนเท่านั้น เนื่องจากว่ามันยังมีงานมีครอบครัวรอเรากลับไป”
ได้แม่ปลอบ บอกให้สวดมนต์ ทำบุญ
“คุณแม่ค่อนข้างเข้าใจเราครับ คุณแม่มีสติมากกว่าเราเยอะเลย เพราะท่านเองก็เจอเรื่องนี้มานาน ดังนั้นท่านก็เลยค่อนข้างโอเคและคอยให้กำลังใจมากกว่า คือแม่จะพยายามบอกอยู่ตลอดว่ามันเป็นคราวของเขา และแม่ก็พยายามที่จะบอกเราว่าไม่วันนี้หรือวันนั้นยังไงเขาก็ต้องไป ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเขาก็ต้องไป แม่จะพยายามบอกแบบนี้ตลอด รวมถึงแนะนำให้เราสวดมนต์ทำบุญเข้าไว้”
ไม่พร้อมแต่งเพลงให้พ่อ บอกชีวิตยังต้องใช้ธรรมะช่วยเยียวยา
“เอาจริงๆ นะครับตอนนี้ยังไม่พร้อมประกอบอะไรเลย พยายามวางเรื่องนี้ไว้อยู่ คือชีวิตตอนนี้เน้นใช้ธรรมะเข้าช่วยเป็นหลัก ยิ่งช่วงที่ไปทะเลแล้วได้อยู่กับธรรมชาติจริงๆ มันยิ่งรู้สึกว่าการกลับคืนสู่ธรรมชาติมันเป็นยังไง สำหรับสภาพจิตใจของผมตอนนี้ก็ถือว่ากลับมาแค่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ได้ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็ต้องพยายามอยู่ต่อให้ได้ ส่วนคุณแม่ตอนนี้ก็ยังอยู่ด้วยกันครับผม”