xs
xsm
sm
md
lg

#RIPThe Mask Singer : เมื่อคนดูถูกทรยศ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online




ต้องบอกว่าตกม้าตายตอน (ใกล้) จบก็ว่าได้ สำหรับรายการที่หลายคนพูดถึงอย่าง “หน้ากากร้องเพลง” (The Mask Singer) รอบชิงชนะเลิศเมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยผลการแข่งขันก็เป็นไปตามคาดหมาย เมื่อเป็นทางด้าน “หน้ากากทุเรียน” ที่เอาชนะ “หน้ากากอีกา” ไปได้ เช่นเดียวกับบุคคลภายใต้หน้ากากอีกาซึ่งก็เป็นไปตามที่หลายคนคิดนั่นก็คือนักร้องหนุ่ม “เอ๊ะ จิรากร” นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวรายการจะสร้างสถิติทั้งทางตัวเลขเรตติ้งทางทีวี รวมถึงการชมผ่านทางแฟนเพจที่มีคนเข้ามาชมถึง 1.6 ล้านคน ซึ่งถือว่าสูงมากๆ แต่กระนั้นสำหรับการถ่ายทอดสดเมื่อคืนที่่ผ่านมา ก็ทำเอาหลายคนหงุดหงิดไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความยืดเยื้อของรายการที่มีความยาวกว่า 3 ชั่วโมง, การทำหน้าที่ของพิธีกรที่สุดจะโอเวอร์แอ็คติ้ง, ดราม่าแตงโม, รูปแบบรายการที่ดูแล้วน่าหงุดหงิดในหลายส่วน (ทั้งที่ทำดีมาโดยตลอด)

และที่สุดๆ ก็คือ การหักมุมไม่ยอมเปิดหน้ากากแชมป์ ซึ่งทั้งหมดก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องของตัวเลขเม็ดเงินจากค่าโฆษณานั่นเอง

ต้องยอมรับว่า การยืดฉากจบของรายการออกไป ถือว่าผู้ผลิตนั้นกล้ามาก เพราะรายการได้เลยจุดพีคสุดไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ที่สำคัญ หากจบลงด้วยหน้ากากทุเรียน คือ คนที่ใครหลายคนคิดไว้ก็จะเป็นการจบที่แทบจะไม่มีอะไรให้น่าจดจำเอาเสียเลยนอกเสียจากเสียงด่าที่เกิดขึ้นในตอนนี้นั่นเอง

อันที่จริงประเด็นเรื่องยังไม่เฉลยจะไม่มีใครว่าอะไรเลยหากทางรายการมีการบอกกล่าวเสียตั้งแต่แรก แต่ที่ผ่านมาทุกคนที่ติดตามรายการต่างก็รับรู้และเข้าใจเหมือนๆ กันว่าคืนนี้ตนจะได้รู้กันเสียทีว่าบุคคลที่อยู่ภายใต้หน้ากากทุเรียนนั้นคือใคร? จะเป็นนักร้องหนุ่มคนที่ทุกคนฟันธงไว้แล้วหรือไม่?

ครั้นพอรายการหักมุมเช่นนี้ นอกจากความเสียอารมณ์แล้ว หลายคนยังรู้สึกว่าตัวเองโดนหลอก หลายคนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองก็เป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งในสายตาของทีมงานผู้ผลิตที่คิดว่าถึงตอนนี้ชั้นจะปั่นหัว ชั้นจะชี้นำ ชั้นจะทำอะไรก็ได้ด้วยเหตุผลที่ว่าเพราะแกชอบชั้น หลงชั้นแล้วนี่

ต่อให้หน้ากากจะร้องเพลงห่วยแค่ไหน แต่พอชั้นให้พิธีกรพูดว่านี่คือเสียงร้องที่มีคุณภาพระดับประเทศ เห็นมั้ยล่ะพวกแกก็ต้องเชื่อชั้น ไม่งั้นแกจะตามดูรายการชั้นหรือ

แน่นอนว่า ถึงตอนนี้จากที่เคยมีเสียงชื่นชมเสียส่วนใหญ่ กลายเป็นว่ากระแสจากคนดูบางส่วนได้ตีกลับไปยังตัวรายการเสียแล้ว โดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างมากมาย ขณะที่ในทวิตเตอร์เองก็ได้มีผู้ใช้ติดแฮชแท็ก #RIPthemasksinger กันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องดูกันว่าสุดท้ายแล้วเสียงวิจารณ์เหล่านี้จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังหรือพฤติกรรมบางอย่างที่สะเทือนถึงตัวรายการ The Mask Singer ในตอนจบของซีซั่นแรกและซีซั่นต่อไปเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับบางรายการของเวิร์คพอยท์เอง เช่น ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซึ่งเรตติ้งในช่วงหลังๆ แทบจะไม่มีคนพูดถึงได้หรือไม่

หรือว่ากระแสบ่นกระแสด่าเหล่านี้จะเป็นเพียงปรากฏการณ์เดิมๆ นั่นก็คือ “ด่าแต่ดู”

เพราะถ้าเป็นเช่นนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่าในฐานะผู้ผลิตรายการเองก็อาจจะรู้สึกต่อท้ายไปว่า...(ด่าแต่ดู) ตรูชอบ...
กำลังโหลดความคิดเห็น