“ชัค เบอร์รี” หนึ่งในผู้ร่วมสร้างสรรค์ดนตรีแนว “ร็อกแอนด์โรลล์” ที่ไต่เต้าขึ้นมาในยุคที่สังคมอเมริกาเต็มไปด้วยการเหยียดผิว ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 90 ปี
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจของเซนต์หลุยส์ บ้านเกิดของ ชัค เบอร์รี ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันผ่านทาง Facebook ของสำนักงานว่า “ชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ด แอนเดอร์สัน เบอร์รี ซีเนียร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ ชัค เบอร์รี ได้เสียชีวิตลงแล้ว” โดยขณะนี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าเขาได้เสียชีวิตลงจากสาเหตุใด
เบอร์รี มีบิดาเป็นช่างไม้ ส่วนมารดาเป็นครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยม โดยเขาเติบโตขึ้นมาในสมัยสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุคที่เรียกกันว่า “เบบีบูม” เป็นช่วงที่สังคมอเมริกันเจริญก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ และวัฒนธรรม แต่ในเวลาเดียวกันปัญหาการเหยียดผิวในประเทศก็รุนแรงมาก
ในช่วงสร้างชื่อ เบอร์รี จึงต้องพบกับปัญหาเมื่อดนตรีของเขาได้รับความสนใจจากคนผิวขาวมากกว่าจะเป็นคนผิวดำด้วยกันเอง
เบอร์รี สามารถผสมดนตรีไฟฟ้าเข้ากับสไตล์เพลงแบบคนดำ ยังมีการลีลาการแสดงที่น่าตื่นเต้น จนทำให้เขาถูกยกย่องว่าเป็นต้นแบบแห่งดนตรีที่ต่อมาได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่ตัวของ เบอร์รี กลับออกตัวว่าตนเองคงไม่ได้เป็นผู้สร้างสรรค์ “ร็อกแอนด์โรลล์” ขึ้นมา
“ก่อนหน้านี้ เพลงแบบนี้เค้าเรียกว่า บูกี-วูกี บางครั้งก็เรียกว่า บลูส์, บางครั้งก็บอกว่าเป็น ริทึม แอนด์ บลูส์” เบอร์รี กล่าวเอาไว้ “ตอนนี้เรียกกันว่า ร็อก”
แต่ไม่ว่าดนตรีของ เบอร์รี จะเรียกว่าอะไรก็ตาม นักดนตรีมากมาย ก็พร้อมใจกันยกย่องเขา รวมถึง “เดอะ บอสส์” บรูซ สปริงทีน ที่บอกว่า “ชัค เบอร์รี คือ ศิลปินเพลงร็อกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด, เป็นมือกีตาร์ และนักเขียนเพลงร็อกแอนด์โรลล์ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา”
ซึ่งผลงานเพลงฮิต Johnny B. Goode เมื่อปี 1958 ของ เบอร์รี ได้ถูกยกย่องให้เป็นเพลงร็อกที่สำคัญที่สุดเพลงหนึ่งของประวัติศาสตร์ดนตรีกันเลยทีเดียว
เบอร์รี เริ่มเป็นที่รู้จักจากการสนับสนุนของ เลนเนิร์ด เชสส์ แห่ง Chess Record โดยศิลปินดังแห่งค่ายอย่าง มัดดี วอเตอร์ส เป็นผู้แนะนำ เบอร์รี ให้กับทาง เลนเนิร์ด เชสส์ รู้จัก จนทำให้ เบอร์รี มีชื่อเสียงโด่งดังสุดขีดอยู่ในยุค 50s แต่ในช่วงหลังของชีวิต เบอร์รี เลือกที่จะอยู่อย่างเงียบๆ ที่ เซนต์ หลุยส์ และเล่นดนตรีกับลูกชายที่ Blueberry Club
Roll Over Beethoven หนึ่งในผลงานฮิตเมื่อปี 1956 ของ เบอร์รี ได้รับการยกย่องว่าเป็นเหมือน “คำแถลงอุดมการณ์” ของดนตรีร็อกแอนด์โรลล์ กับการประกาศก้องเรียกร้องให้ “ดีเจ” เปลี่ยนจากการเล่นเพลงคลาสสิกไปเปิดเพลงร็อก ที่เป็นดนตรีของคนรุ่นใหม่แทน ส่วน Maybellene กับ Sweet Little Sixteen ก็เป็นเพลงฮิตที่โด่งดังไปทั่วสหรัฐอเมริกา
เบอร์รี ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินแอฟริกันอเมริกันคนแรกที่ได้รับการยอมรับจากคนฟังเพลงผิวขาว ด้วยท่าทีสุภาพ และเนื้อเพลงที่ไม่ค่อยมีพิษมีภัย ซึ่งก็ทำให้ เบอร์รี ไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนผิวสี ซึ่งตอนนั้นกระแสต่อต้านการเหยียดผิวกำลังรุนแรง คนผิวดำซึ่งคนผิวสีชื่นชอบอย่าง เบอร์รี จึงถูกตั้งคำถามจากพวกเดียวกันไปด้วย
แต่แล้วชื่อเสียงของ เบอร์รี ก็เริ่มมัวหมอง จากเหตุการณ์ที่เขาถูกแฟนเพลงคนผิวขาวที่ เมอริเดียน มิสซิซิปปี ต่อต้านอย่างหนัก จน เบอร์รี ต้องหลบออกจากสถานที่ทำการคอนเสิร์ตไปทางประตูด้านข้าง เพราะเขาไปจูบกับหญิงสาวผิวขาวที่เป็นแฟนเพลง … “สาวคนหนึ่งยื่นมือมากอดคอผมแล้วก็จูบ ซึ่งผมอาจจะจูบกับเธอนานไปหน่อย” เบอร์รี อธิบาย โดยในตอนนั้นเขาถูกจับข้อหาก่อกวนความสงบ และถูกปรับ ก่อนจะได้รับการปล่อยตัว
ต่อมาอาชีพที่กำลังรุ่งสุดๆ ของ เบอร์รี ก็ถึงคราวสะดุดอีกครั้ง เมื่อเขาถูกจับในปี 1959 ด้วยข้อหามีพฤติกรรมผิดทำนองคลองธรรม จากการที่เขาพาหญิงสาววัย 14 ปีคนหนึ่งเดินทางข้ามรัฐไปด้วย แม้ เบอร์รี จะยืนยันว่าตนเองกับหญิงสาวที่เป็นสาวเสิร์ฟคนนี้จะไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกัน แต่สุดท้าย เบอร์รี ก็ยอมรับโทษจำคุก 1 ปีครึ่งเพื่อให้คดีจบ
ระหว่างที่ เบอร์รี ถูกจำคุก แนวดนตรีที่เขาเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นกลับโด่งดังกลายเป็นกระแสไปทั่วโลก โดยเฉพาะจากผลงานของศิลปินชาวอังกฤษที่ได้รับอิทธิพลมาจากงานของเขา ไม่ว่าจะเป็น The Beatles และ The Rolling Stones … “เขาทำให้วัยรุ่นของเราสว่างไสว และทำให้เรามีความฝันอยากจะเป็นศิลปิน และนักดนตรี” มิค แจ็คเกอร์ แห่งวง The Rolling Stones กล่าว
หลังต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำ คนรอบตัวต่างพูดตรงกันว่า เบอร์รี ที่ก่อนหน้านั้นเป็นคนง่ายๆ สนุกสนาน แทบจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคน นอกจากนั้นภาพลักษณ์ของเขาในสายตาของคนผิวสีด้วยกันก็ยังเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ระยะหลัง เบอร์รี แทบจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะชนเลย และยังเอ่ยปากอยู่เสมอว่าเขาไม่ได้เป็น “บิดาของ ร็อกแอนด์โรลล์” และเป็นว่าตนเองรวมถึง เอลวิส เพรสลี, แฟตส์ โดมิโน และ ลิตเติล ริชาร์ด “ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของฟันเฟืองที่หมุมไปเท่านั้น”
โดยเมื่อปีก่อน เบอร์รี เพิ่งจะได้ออกผลงานอัลบั้มแรกในรอบ 38 ปี ในชื่อชุดสั้นๆ ง่ายๆ ว่า Chuck ซึ่งเขาบอกว่าเป็นผลงานที่ขออุทิศให้กับ เทอเม็ตตา เบอร์รี ผู้เป็นภรรยา