“แอน อังคณา” รับสภาพตัวเองไม่ได้ ถูกใครไม่รู้ถ่ายรูปผอมหน้าผีลงโซเชียล เผยไม่กล้ามองตัวเองกระจก บอกอาการป่วยเป็นโรคภูมิแพ้เลือดตัวเองดีขึ้น 80 เปอร์เซ็นต์ รอดตายราวปาฏิหาริย์ หมดค่ารักษาหลายแสน สาเหตุไม่กินแป้ง เครียด ซึมเศร้า เพราะไม่มีงาน ซึ้งคนในวงการช่วยเหลือ “เสก โลโซ - บิลลี่ โอแกน” ก็ช่วย เผยเคยมีเงิน 16 ล้าน แต่เอาไปลงทุนจนเจ๊งหมดตูด เตรียมกลับมาเขย่าบัลลังก์เซ็กซี่ ถ่ายหวิวทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้าย
ทำแฟนคลับเซ็กซี่สตาร์ “แอน อังคณา ทิมดี” พากันเป็นห่วง หลังมีภาพหลุดเจ้าตัวผอมซูบ ผิดเป็นคนละคน หมดสภาพสาวเซ็กซ์ซิมโบล ต่อมาแอนยังถูกส่งรักษาตัวที่ รพ. แพทย์ตรวจพบภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด และเป็นโรคภูมิแพ้เลือดตัวเอง ทำให้ตับอักเสบ บอกอาการโคม่ามีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน แต่ล่าสุดเพราะเจ้าตัวมีกำลังใจที่ดี ทำให้รักษาเนื้อรักษาตัว จนสุขภาพดีขึ้น 80 เปอร์เซ็นต์ และออกจากรพ.เรียบร้อยแล้ว โดยแอนเผยระหว่างมาร่วมบันทึกเทปรายการ “ปากโป้ง” ช่อง 8 เผยทุกวันนี้ยังรับสภาพตัวเองไม่ได้ ไม่กล้ามองกระจก
“ออกจาก รพ. อาทิตย์กว่าๆ เกือบสองอาทิตย์แล้วค่ะ หายเกือบ 80% ค่ะ ขายังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แต่ทุกอย่างโอเคหมดแล้วค่ะ ขาไม่แข็งแรงเพราะเลือดมันไม่ไปหล่อเลี้ยงและที่สมองด้วย ต้องกลับไปเช็กอีก ต้องไปเจาะเลือดตรวจตลอด เพิ่งไปมาเมื่อเร็วๆ นี้เอง ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าห่วงค่ะ หมอห้ามทานเค็ม ห้ามทานมันๆ”
“โรงพยาบาลแรกวินิจฉัยไม่ได้ว่าเป็นอะไร โรงพยาบาลที่สองก็หาไม่เจอ (หัวเราะ) พอมาโรงพยาบาลเลิดสินถึงเจอ ก็เลยรู้ว่าเราเป็นโรคเลือดค่ะ ติดเชื้อในกระแสเลือดของตัวเอง เราเป็นภูมิแพ้เลือดตัวเองค่ะ แล้วก็ทำให้ตับมันอักเสบ เรื่องตับเป็นอะไรที่รักษายากมาก แต่กำลังใจดี หมอดี ตับก็เลยหายก่อนเลย แล้วก็เจาะท้อง พุงป่องเหมือนคนท้อง 8 เดือนเลย ก็เจาะน้ำออก”
รอดปาฏิหาริย์ ทั้งที่อาการหนัก จะมีชีวิตไม่เกิน 3 เดือน
“ปาฏิหาริย์เลยค่ะ เพราะก่อนหน้านี้น่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน แต่ไม่ค่อยมีคนบอกหรอก พอสักพักถึงมีคนมาบอก แต่วันแรกที่แอดมิดบอกหมอไม่ให้กลับ เพราะถ้าช้าไปวันหนึ่งแอนตายแล้ว เพราะแอนเดินไม่ได้เลย ตัวซีดไปหมด ขาดเลือดอย่างแรง คนเราปกติมีเลือด 38% ในร่างกาย แต่ของแอนมีแค่ 15% เดินไม่ได้เลย ขาชา ซีดไปหมด วันแรกไปก็เลือด 4 ถุงเลยค่ะ”
“หมอบอกว่าสาเหตุเกิดจากความเครียดค่ะ แอนเป็นโรคซึมเศร้า ขาดสารอาหารด้วย เพราะแอนเป็นคนไม่ทานแป้งเลย ข้าวเหนียว เส้นก๋วยเตี๋ยว สปาเก็ตตี้ พวกแป้งเนี่ยแอนไม่ทานเลย เพราะแอนกลัวมันจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล กลัวจะอ้วน เพราะปกติแอนก็จะอยู่ 47- 48 ประมาณนี้ แต่ตอนนั้นประมาณ 44 มันผอมมาก แล้วหน้าก็ตอบเยอะมาก คนคิดว่าแอนไปทำอะไรกับหน้ามา แต่ไม่เคยไปทำอะไรมาเลย ของจริงหมดค่ะ ไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น (หัวเราะ)”
บอกเป็นโรคซึมเศร้าที่ ไม่มีงานทำ ลงทุนทำธุรกิจก็เจ๊ง โดนโกง อาการหนักเดินไม่ได้ต้องคลานเข้าห้องน้ำ
“มันก็มีส่วนด้วยค่ะ แต่จริงๆ แล้วแอนเครียด เป็นโรคซึมเศร้า ไม่มีงานทำ ไม่มีใคร ไม่อยากเจอผู้คน ไม่อยากไปไหนเลย อยู่แต่บ้าน จริงๆ อาการเป็นมานานแล้วนะคะ แต่ไม่เคยบอกใคร เดินไม่ได้ เข้าห้องน้ำก็ต้องคลานเอา ลื่นในห้องน้ำบ้าง เพราะตอนนั้นเราแย่ ไม่อยากรับอะไรแล้ว มันเครียด ไม่มีงานทำด้วย ลงทุนทำโน่นนี่ก็โดนโกงบ้าง เจ๊งบ้าง ทำอะไรก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ ต้องเป็นลูกจ้างเขาอย่างเดียวน่ะค่ะ แต่ตอนนี้ไหวแล้วนะคะ ใครอยากได้เล่นละครก็โอเคนะคะ ตอนนี้พร้อมรับงานแล้วค่ะ สมองก็โอเคแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ยังไม่ค่อยเท่าไหร่
“รักษาตัวประมาณเกือบ 3 เดือนค่ะ ที่บอกว่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือนคุณหมอบอกค่ะ แต่ตอนแรกแอนไม่รู้เรื่องนะ คืออาการแอนหนักมาก ตอนแรกแอนไม่อยากสนใจ เป็นอะไรก็เป็นไปเถอะ เพราะตรวจกี่ทีๆ ก็ไม่ยอมบอกว่าเราเป็นอะไร โรงพยาบาลนี้ก็ไม่รู้ อีกโรงพยาบาลก็ไม่รู้ จนมารู้นี่แหละ มิน่าทำไมเพื่อนมามองแต่ตา มองแขนเรา เพราะแขนเหลือแต่กระดูก มันซีดไปหมดเพราะขาดเลือด”
ฮึดสู้เพราะกำลังใจจากทุกคนที่ห่วงใย บอก “เสก โลโซ - บิลลี่ โอแกน” ก็ช่วย
“ก็มาฮึดสู้ตอนหลัง เพราะเพื่อนๆ ให้กำลังใจดี ก็คิดว่าใครๆ ก็ยังเป็นห่วงเรา เราจะไม่ห่วงตัวเองได้ยังไง แล้วตอนนั้นแอนก็ไม่มีเงิน ค่ารักษาก็แพง ถ้าเกิดแอนผ่าตัดตับ ตอนแรกที่กลัวที่สุดคือตับ เพราะหมอบอกว่าจะต้องนอน 3 เดือน ต้องหาตับให้เจอว่าใครที่เขาบริจาคแล้วเข้ากับเราได้มั้ย ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เลย”
“กลัวมาก ต้องพยายาม ก็แป๊บเดียวหายเลย เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมา 40 ปีก็มากันหมดเลย เพื่อนนักเรียนตั้งแต่สมัยมัธยม อาจารย์ แอนดีใจมากค่ะ ดาราน้องๆ หลายๆ คนที่แอนไม่รู้จักเลยก็มาเยี่ยม แอนต้องขอบคุณทุกคนเลยนะคะ แล้วก็มาช่วยบริจาค พี่ๆ ก็ไปเล่นคอนเสิร์ตหาเงินให้เรา พี่เสก โลโซน่ะค่ะ แอนไม่รู้จักเขาเลยนะ เขาน่ารักมาก โทร.มาบอกเขาจะจัดคอนเสิร์ตแล้วก็จะเอาเงินส่วนหนึ่งมาช่วยเหลือแอน แล้วก็มีบิลลี่ โอแกนด้วยค่ะ มาหาถึงโรงพยาบาลเลยนะคะ ตอนนั้นที่นักข่าวจะเข้าไปสัมภาษณ์ก็ต้องขอโทษด้วย เพราะหมอเขาสกรีนคนมากเลย ไม่ให้เข้า กลัวเราติดเชื้อ”
ไม่ได้ “บี วัลวิภา - เฮเลน” ก็คงแย่ ทนเห็นสภาพตัวเองไม่ไหวหลังใครไม่รู้แอบถ่ายรูปตอนหน้าผีไปลงโซเชียล
“วันที่แอนเข้าไปแอนไม่มีเงินเลยนะ ถ้าไม่ได้บี (วัลวิภา โยคะกุล) กับ เฮเลน (ปวรา ศิริสาร) แอนก็แย่เหมือนกันนะ เพราะวันนั้นเขานัดแอนออกไปทานข้าว แอนก็ไม่อยากไป เดินไม่ไหว แต่เฮเลนบอกพี่แอนต้องมา ไม่เจอกันเป็น 10 ปีแล้ว บีก็บอกว่าต้องมา เพราะใครไม่รู้ถ่ายหน้าแอนตอนหน้าผีไปลง แอนไม่เคยรู้เลยนะ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรมก็เล่นไม่เป็น เพื่อนก็ไปส่งต่อๆ กัน บีก็เลยบอกว่าให้มาเดี๋ยวจะเลี้ยงข้าว กินได้ไม่กี่คำมันจะอ้วก พอลุกขึ้นจะนั่งแท็กซี่กลับบ้านก็ล้มตรงนั้นเลยค่ะ หงายท้อง ล้มหัวฟาดพื้นเลย หลายคนในร้านออกมาช่วยหามแอนขึ้นรถเฮเลนมาที่ทหารผ่านศึก หมอก็แอดมิดแอนเลย บอกถ้ากลับไปก็ตาย ถ้ามาช้าอีกวันเดียวแอนแย่แล้ว ปกติแต่งหน้าไม่ได้นะ นี่วันแรกนะเนี่ย หมอไม่ให้เจอสารเคมี แต่ทาปากได้ แต่รองพื้นไม่ค่อยได้”
“ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ คนช่วยเหลือแอนเยอะมาก เพื่อนดารา บางคนก็ไม่รู้จัก ค่ารักษาก็เยอะค่ะ ก็หลายแสนอยู่ค่ะ ก็มีมูลนิธิหนึ่งที่เข้ามาช่วย มีหลายคน หลายทางมาช่วยแอนเยอะมาก พี่ๆ ดีไซเนอร์ เพราะสมัยก่อนแอนเดินแฟชั่นโชว์ไง แอนไม่อยากเชื่อ ทุกคนใส่ซองมาให้เป็นหมื่นๆ นะ แต่ค่าโรงพยาบาลก็เคลียร์ไปหมดแล้ว จริงๆ แอนมีบัตร 30 บาทด้วย ก็โชคดีตรงนี้ แต่ยาบางตัวต้องซื้อเอง ค่าห้องต้องจ่ายเอง แอนก็ได้จากพวกพี่ๆ เพื่อนๆ นี่แหละช่วย”
เผยเคยมีเงินเก็บเป็น 16 ล้านแต่เอาไปลงทุนจนเจ๊งหมดตูด
“ภาระแอนเยอะค่ะ และแอนชอบลงทุนเปิดร้านอาหาร เปิดผับ เปิดร้านเสื้อผ้า เปิดร้านเสริมสวยโน่นนี่ ทำทุกอย่าง จัดแฟชั่นโชว์ก็ทำ แอนทำงานเยอะค่ะ แต่เก็บเงินไม่ค่อยเป็น พี่น้องก็เยอะ อยากได้อะไรเราก็ให้ เคยมีเงินเป็น 16 ล้านหายไปไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน ไปซื้อบ้านมั้ง ซื้อโน่นซื้อนี่ มันก็ใช้ไป เพราะตอนนั้นละคร โฆษณาก็เยอะ เล่นหนังก็เยอะ ร้องเพลงด้วย ทำงานเยอะมาก แต่เวลาที่แอนจะไปลงทุนทำอะไรมักไม่ประสบความสำเร็จสักครั้ง ทุกครั้ง ทำรายการก็หมดไปเป็นล้านๆ รายการเกี่ยวกับสุขภาพน่ะค่ะ งานสุดท้ายนั่นแหละที่แอนหมดตูดเลย”
“ครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดสำหรับแอนแล้วค่ะ ถึงขนาดไปหาผู้ใหญ่นะ บอกว่าถ้ามีงานอะไรแอนก็ฝากเนื้อฝากตัวนะคะ แล้วเราก็อ้วนด้วย มีอยู่ช่วงหนึ่ง อยู่ๆ มันก็อ้วนขึ้นมา อาจจะเป็นวัยทองหรือเปล่าไม่แน่ใจ อ้วนมาก แต่ไม่มีพุง แล้วอยู่ๆ ก็ผอมลงๆ ก็ไม่รู้มันเป็นอะไรเหมือนกัน”
“ตอนไม่มีเงิน รถก็ขาย เครื่องประดับ กระเป๋าที่เคยมีก็หมดค่ะ บ้านยังอยู่ แต่ก็โดนยึดค่ะ ก็ยังคุยอยู่ แต่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล งานมันก็ยังไม่มี ก็มาช่วยเพื่อนทำร้านสปากระเป๋าแล้วก็ทำเล็บ คือมันต้องออกจากบ้านบ้าง อยู่บ้านอย่างเดียวเดี๋ยวก็จะเป็นโรคซึมเศร้าไปอีก”
ไม่กล้าดูตัวเองในกระจก หวั่นรับตัวเองไม่ได้ ลั่นของแท้ตราช้างกลับมาแล้ว เตรียมทิ้งทวนถ่ายชุดว่ายน้ำเป็นเล่มสุดท้าย
“ไม่เคยดูกระจกเลย กลัวตัวเอง เพราะแอนเป็นคนดูแลตัวเองมาก รูปร่างแอนไม่เคยเปลี่ยนเลย 40 กว่ายังเขียนหนังสืออยู่เลย ล่าสุดที่เขียนเรื่องเกี่ยวกับนม เป็นครีมบำรุงเกี่ยวกับหน้าอก แล้วเขาก็ให้แอนเป็นพรีเซนเตอร์ แอนก็ได้ค่าพรีเซนเตอร์ ก็เอามาลงทุนทำหนังสือ แรกๆ ได้สปอนเซอร์เยอะมาก แล้วก็มาทำรายการก็เจ๊งหมดเลย (หัวเราะ) 6 เดือนแรกมีสปอนเซอร์ แต่ 6 เดือนหลังไม่มีเลย ทำมาได้เกือบ 3 ปีหมดตูดเลย แล้วเปิดบริษัทเองด้วย ก็โดนภาษีย้อนหลังอีก แต่พอผ่านมาแล้วแอนจะไม่ท้อแล้วค่ะ จะสู้ต่อไป เพราะทุกคนให้กำลังใจเยอะมาก และคิดว่าน่าจะมีอีกสักเล่มหนึ่ง และจะมีน้องๆ นางแบบหลายๆ คนที่เขาอยากจะมาถ่ายกับแอน มีดาราหลายคนมาก เป็นอัลบั้มรูปภาพ ตอนนี้มีประมาณ 3 คนแล้วล่ะที่จะมาถ่ายด้วย คอยติดตามแล้วกัน เล่มสุดท้ายที่แอนจะถ่าย”
“ก็เป็นชุดว่ายน้ำ ไม่ถึงกับมาเปลือย เป็นชุดว่ายน้ำสวยๆ โชว์หุ่น นี่ของแท้ตราช้างกลับมาแล้วค่ะ (หัวเราะ) แล้วก็มีเพื่อนนางแบบอีกหลายคน เพื่อนดาราที่เคยถ่ายมาก่อนด้วย แอนบอกไม่ได้ว่าเป็นใคร”
ผันตัวเป็นลูกจ้าง ส่วนเรื่องสุขภาพห้ามกินเค็ม ห้ามล้มเด็ดขาด รับสภาพพุงป่องคิดว่าเป็นมะเร็ง
“ก็ต้องค่อยๆ ไปก่อนค่ะ เพราะตอนนี้ยังไม่มีการลงทุนใดๆ ทั้งสิ้น เป็นลูกจ้างเขาดีกว่าค่ะ ง่ายดี ก็คงจะไปช่วยร้านเพื่อนๆ นี่แหละค่ะ แต่จริงๆ แอนมีร้านอยู่ที่สยามสแควร์ ซอย6 ที่ทำผมก็ยังอยู่ แต่ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ก็ยังพอมีรายได้จากร้านนั้นด้วยค่ะ แล้วก็มีเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องสำอางค์ แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำแล้ว”
“สุขภาพก็ต้องดูแลค่ะ ไม่ดูแลก็คงไม่ได้อย่างนี้เนอะ แป๊บเดียวเองนะที่ออกมา จากพุงป่องมาก นี่ก็ยังมีนิดๆ หน่อยๆ นะ แต่มันก็โอเคขึ้น ตอนแรกคนคิดว่าท้อง คิดว่าเป็นมะเร็ง วินิจฉัยกันไปเรื่อยเปื่อย เป็นไตบ้าง เพราะแอนเป็นคนกินเค็มมาก หมอบอกกลัวจะเป็นเบาหวาน เพราะข้าวถ้ากินมากๆ จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล เราคิดอย่างนี้ไงก็เลยไม่ค่อยได้กิน แต่เดี๋ยวนี้หมอให้กินแต่น้ำหวานค่ะ น้ำหวานอย่างเดียว เพราะตับต้องการน้ำหวาน ตอนนี้ก็ต้องหยุดเค็มไปเลย กลับมาทานข้าว ทานแป้งแล้ว แต่ว่าไม่ได้ทานเยอะ ทานแค่พอดี”
“ตอนนี้ดูแลตัวเองได้ปกติค่ะ แต่เวลาเดินก็ต้องค่อยๆ ล้มมานี่ไปเลยนะ หมอบอกห้ามล้มเด็ดขาด ล้มไม่ได้ เพราะเรายังไม่แข็งแรง ถ้าล้มมีสิทธิจะไปกระทบสมองด้วย ทุกอย่างจะไปหมด แต่ขาก็มีแรงแล้ว แต่ใส่ส้นสูงไม่ได้ แต่ไม่มีกายภาพค่ะ เดินเอง ทำเอง”
ซึ้งใจเพื่อนคอยดูแล แฟนไม่มี เห็นหน้าผีแบบนี้คงไม่มีใครเอาแล้ว
“มีค่ะ เป็นเพื่อนที่อยู่กันมา 40 กว่าปีแล้วค่ะ แต่เขาตัวเล็ก ดูแลเราไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่หรอก แฟนก็ไม่มีค่ะ อยู่ตัวคนเดียว แต่มีเพื่อนเยอะ ไม่เหงาหรอกค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีใครมาจีบนะ มี แต่ดูๆ อยู่ แต่เราก็ดันมาป่วยซะก่อน เขาเห็นหน้าผีก็คงไม่เอาแล้วมั้ง”
“ตอนนี้ก็กลับมาเหมือนเดิมแล้วนะคะ ถ้าใครขาดนักแสดง แอนเล่นได้หมดค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยแล้วกันนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ”