ตั๋วน้องเป็นสาว รุ่นราวเอ๊าะ เอ๊าะ หุ่นฮ่างก็เหม๊าะ บ่าวมาเก๊าะมาต๋อม อี่แม่น้องขาง เปิ้นตึงบ่ยอม ถึงไผมาต๋อม ตึงบ่ฮื้อใกล้ ไผบ่ได้หยุ๊บ ไผบ่ได้ก๋ำ คงบ่ได้หลำไปเป๋นลูกไป๊ น้องแตคนงาม ขอยกอะมือไหว้ บ่าวเหนือบ่าวใต้อ๊ดเอา.....!!!
และอีกหลากหลายบทเพลงฮิต คงบ่งบอกถึงชื่อชั้นและความดังของศิลปินสาวคนนี้ได้เป็นอย่างดี “กระแต อาร์สยาม” หรือ “นิภาพร บุญยะเลี้ยง” ซูเปอร์สตาร์อีกดวงหนึ่งแห่งวงการเพลงลูกทุ่ง
กว่าสิบห้าปีที่ผ่าน นอกจากความสามารถด้านการร้องเพลงซึ่งเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วสำหรับคอลูกทุ่งราชินีแดนซ์ ซึ่งตอนนี้เขาลือกันว่า “กระแต อาร์สยาม” สวยขึ้น น่ารักขึ้น ทำเอาแฟนคลับตื่นตาตื่นใจ
มาไกลในหน้าตา…เมื่อสาวน้อยบ้านนาขอมุ้งมิ้ง
ทุกวันนี้เขาลือกันว่า “กระแต” เดินทางมาไกลมากในเรื่องความสวย เราออกสตาร์ทบทสนทนาแบบเข้าหาคำถามหลักที่ชักนำให้เรามาเจอ เพราะช่วงหลังมานี้ ใครๆ ก็ว่าเธอน่ารักขึ้น สวยอึ้มขาวใสขึ้นเป็นกอง กระทั่งหนุ่มหลายขอจองพื้นที่ในใจ
“เอาตามตรงเลยนะว่าเดี๋ยวนี้มันมีวิธีการยัดเพื่อให้มีทรงนมโตๆ อึ้มๆ แต่จริงๆ ผู้หญิงเขาจะรู้ว่ามีวิธีกินเพื่อเพิ่มขนาดไซต์หน้าอก ซึ่งกระแตก็กินอยู่ กินพวกยาบำรุงภายในของผู้หญิงเพื่อทำให้ดูอึ้มขึ้น อันนี้กระแตยอมรับว่ากินแล้วดูดี หน้าก็ดูสวยสดใสขึ้น และมีวิธีหลายอย่าง การออกกำลังกายก็ช่วยอย่างยกเวทเล่นหน้าอก อันนี้ช่วยได้จริงๆ เพราะกระแตเป็นคนที่เข้าฟิตเนสอยู่แล้ว”
“และหน้าอกของกระแตไม่ได้ใหญ่หรอก (หัวเราะ) ยัดผ้าทั้งนั้น บางทีเรามีมุมถ่ายรูป มันก็ทำให้เราดูใหญ่ เอาจริงๆ นมหนูก็ปกตินะ แล้วที่ดูเราสวยขึ้นก็อยู่ที่การแต่งหน้า ทรงผม และที่หลายคนบอกกระแตไปทำหน้ามาอีกแล้ว คือเราทำแค่จมูกอย่างเดียว หน้าเราก็ยังเหลี่ยมเหมือนเดิม ตา ปาก เรายังเหมือนเดิม คนจะมองว่าเราไปทำมาทั้งหน้าก็แล้วแต่ แต่ยืนยันว่าเราทำแค่จมูกอย่างเดียว”
เราไม่ได้อึ้งกับคำตอบของเธอนัก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมในความเปิดเผยตรงไปตรงมา อย่างที่เราได้รับรู้กันอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งสื่อก็มีการเล่นประเด็นนี้กันอย่างไม่ขาดสาย กรณีหน้าตาที่เปลี่ยนไปเพราะศัลยกรรมของนักร้องลูกทุ่งคนนี้ หากแต่ยังมีอีกหลากหลายนามที่ผ่านการศัลยกรรมมาเหมือนกัน
“ก็ทำจมูกมา 3 ปีแล้วค่ะ กว่าจะตัดสินใจทำจมูกก็นาน ตอนนั้นที่ทำเพราะอยากรู้ว่าทำจมูกแล้วเราจะสวยขึ้นมั้ย เราก็เลยไปฉีดฟิลเลอร์ แต่คุณหมอสมศักดิ์เขาก็บอกไม่น่าฉีดเลย ไม่นั้นมันจะดีกว่านี้ ก็เลยไปทำที่คุณหมอสมศักดิ์ เขาก็ดูแลดี ทุกคนก็ชอบ กระแตทำแบบนิดหน่อย ไม่ได้ทำให้มันดูโด่งมาก คนเขาก็เม้นท์ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเราแค่เปลี่ยนสไตล์การแต่งหน้า มันก็ทำให้เราดูหน้าเปลี่ยนไปได้”
ความฝัน โอกาส และเป้าหมาย
จากเรื่องความสวยความงาม เราขยับข้ามไปเรื่องผลงานเพลง ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปีบนเส้นทางสายนี้ “กระแต อาร์สยาม” มีผลงานมาแล้วเกือบสิบอัลบัม และวันนี้เธอกำลังจะมีซิงเกิ้ลเพลงใหม่ “รอพี่ที่บ้านนอก”
“ตอนนี้ก็ปล่อยออกมาแล้วกับซิงเกิ้ลพิเศษ ซึ่งเป็นเพลงลูกทุ่งที่กระแตกลับมาร้องในรอบ 10 ปี ชื่อเพลงว่า รอพี่ที่บ้านนอก เป็นเพลงลูกทุ่งช้าๆ ซึ้งๆ เพลงนี้ไม่มีเซ็กซี่ เป็นเพลงแนวสาวบ้านนา กระแสตอบรับดีมาก ทุกคนตกใจไม่คิดว่าเราจะกลับมาร้องเพลงลูกทุ่งอีก และกระแตมั่นใจมากว่าเพลงลูกทุ่งแบบนี้หาฟังได้ยากแล้ว”
“และเพลงนี้เราทำเพื่อคอลูกทุ่งที่ตามตั้งแต่อัลบั้มแรกได้กลับมาฟังอีกครั้ง เพราะจริงๆ กระแตเกิดจากแนวเพลงลูกทุ่งมาก่อน แล้วตัวเราเองก็ไม่ได้ร้องลูกทุ่งมานานมาก อีกอย่างเราอยากที่จะอนุลักษณ์เพลงลูกทุ่งด้วย เพราะเดี๋ยวนี้เพลงลูกทุ่งแท้ๆ เริ่มไม่มีให้ฟังแล้ว รวมถึงผลงานเพลงที่ผ่านมาของเราก็ไม่ได้เรียกลูกทุ่ง ตอนนี้มันกลายเป็นลูกทุ่งแดนซ์ เราก็เลยอยากที่กลับมาร้องอีกครั้ง”
“ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องดังเหมือนซิงเกิ้ลที่ผ่านมา เราแค่อยากให้เพลงลูกทุ่งยังคงอยู่ กระแตคิดว่าเพลงลูกทุ่งมันเริ่มจะหายไปจริงๆ เราในฐานะที่เป็นนักร้องลูกทุ่งคนหนึ่ง ถ้าเราได้อนุลักษณ์เพลงลูกทุ่งไว้ อย่างน้อยคนลูกทุ่งหรือคอลูกทุ่งที่เขาชอบฟัง เขาจะได้มีความสุขกับการฟังพลงลูกทุ่งของแท้”
เสียงขับร้องและเนื้อหาของบทเพลงที่ดูเซ็กซี่ขยี้ใจนั้น คือเสน่ห์ตรึงใจและทำให้แฟนคลับติดตามอย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องที่รับรู้กันอยู่แล้ว แต่อีกสิ่งหนึ่งซึ่งศิลปินลูกทุ่งมองว่าเป็นแรงส่งให้เธอมาได้ไกลถึงจุดนี้ เพราะรูปแบบการใช้ชีวิตของตนเองด้วยส่วนหนึ่ง
“กระแตในฐานะศิลปินคนหนึ่ง กระแตมองว่าศิลปินทุกคนทำหน้าที่ในสิ่งที่ตนเองรัก และมอบความสุขให้กับคนดูไม่ว่าจะรับบทบาทไหน สำหรับกระแตในฐานะศิลปินเราเองก็ไม่ได้จำกัดขอบเขตตัวเอง แต่หากได้รับหน้าที่ไหนเราก็ต้องทำหน้าที่นั้นอย่างสุดความสามารถ”
“และการอยู่ในวงการนี้ สิ่งที่เราได้พบอยู่ทุกวัน คือการได้เจอะเจอผู้คนไม่ซ้ำหน้า และคนที่มองว่ากระแตเป็นนักร้องที่ขายควมเซ็กซี่หวือหวา สำหรับกระแตคิดว่าดีเสียอีกที่มองเราแบบนั้น (หัวเราะ) ใครชอบใครชมก็รับมาเพื่อเป็นประสบการณ์ที่ดี ส่วนสิ่งที่เขาด่า ถ้ามันเป็นเรื่องจริงก็ยอมรับ แต่หากไม่ใช่ความจริงก็ปล่อยไป เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องยินดีกับทุกคนชมและคำด่าได้เหมือนกัน”
“ส่วนที่มีคนบอกว่ากระแตดังได้เพราะข่าวฉาว อันนี้ก็แล้วแต่คนจะคิด เรามองว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้น หรือที่เรายืนทำงานอยู่ตรงนี้มันเป็นเส้นทางมายาที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องมีเหตุผลก็ได้ เพราะฉะนั้นอยู่ตรงนี้มันต้องแกร่งมากๆ ในเรื่องของสภาพทางจิตใจ คือกระแตเคยโดนมาแล้ว คือต่อไปนี้อะไรพุ่งชนเราก็รับได้ เพราะการที่เราจะอยู่ในวงการนี้เราต้องรับได้ทุกสิ่ง ถ้าใครว่าอะไรก็ลองมองว่าเราเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า อย่างที่บอกถ้าไม่เป็นเราก็เฉยๆ”
15 ปี ผ่านบทเรียนร้ายดี
นับว่าเป็นหนึ่งศิลปินที่ใช้ชีวิตในวงการมาถึง 15 ปีแล้ว แต่ทว่าตลอดเวลาที่เธออยู่ในวงการก็ล้วนแต่มีเรื่องร้ายดีเข้ามาหาเธออย่างมากมาย
“เยอะมาก ทั้งเรื่องอายุ ทัศนคติ มันเป็นช่วงเวลาค่ะ มนุษย์ทุกคนมีช่วงเวลาในการเติบโตในทุกอย่าง การตัดสินใจทุกอย่างตอนนั้นเรายังเด็ก ทำอะไรผิดพลาดไปมันก็เป็นธรรมดา วันนึงเราโตมาด้วยบทเรียนและสังคมรอบข้าง ถูกตำหนิหลาย มันทำให้เรามีการตัดสินใจในการทำมากขึ้น"
"สำหรับมุมมองที่มีต่อวงการก็เปลี่ยน ตอนแรกที่เข้ามาก็คิดว่ามันสวยงาม แต่จริง ๆ ไม่ใช่เลย วงการบันเทิงเป็นงานที่ฉาบฉวย ไปเร็วมาเร็ว เป็นวงการมายาในที่นี้ไม่ได้แปลว่าหลอกลวง แต่เราต้องอยู่กับความจริงทั้งหน้าม่านและหลังม่าน มันไม่ได้ง่ายอย่างที่ทุกคนอยากเข้ามา แต่เข้ามาแล้วจะทำยังไงให้อยู่ได้นานที่สุด อันนี้ยากกว่าค่ะ”
“และกระแตบอกเลยว่า ตัวเองเป็นนักร้องยุคแรกๆ ของอาร์เอสที่ตอนนั้นมีศิลปินอยู่ 5-6 คนสังกัด ตอนนี้มีเป็น 200 คนแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้กระแตอยู่ในวงารได้นาน แน่นอนคือกำลังใจและความเป็นตัวเอง และเราเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ตลอดเวลา มันเลยได้พัฒนาผลงานมาเรื่อยๆ จนคนยอมรับมากกว่า"
"และกำลังใจสำคัญของเราคือครอบครัว สำคัญกว่าชีวิตแตด้วยซ้ำ เราไม่ได้มองเลยว่าเหนื่อยแค่ไหน แต่มองว่าพวกเขาสบายขึ้นแค่ไหน คือพอเราโตขึ้นก็อยากเลี้ยงพ่อแม่และครอบครัว ซึ่งเราภูมิใจนะที่ได้เลี้ยงปากท้องญาติพี่น้องเรา และการเป็นหัวหน้าครอบครัวมันเหนื่อยมาก 15 ปี เราเหนื่อยทุกวัน แต่เรายิ้มให้ความเหนื่อย เพราะผลตอบรับคือความสุขค่ะ”
ธรรมะช่วยให้มองโลกในแง่ดี
ว่างเว้นจากการทัวร์คอนเสิร์ต ซึ่งมีแทบไม่เว้นแต่ละวัน จากเมืองหลวงถึงต่างจังหวัด ทั่วทุกภูมิภาค แต่ถึงอย่างนั้น มีเวลาว่างเป็นไม่ได้ ต้องรีบสละเวลาขอตัดทางโลกเพื่อปฏิบัติธรรมในการควบคุมกายในใจ
“มันเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปอยู่แล้วของมนุษย์ มันมีท้อบ้าง แต่สิ่งหนึ่งเรามีคนรอบข้างน่ารัก แล้วครอบครัวเขารู้อยู่แล้วว่าตัวกระแตเองเป็นยังไง สองเรามีธรรมะเป็นที่เพิ่ง ซึ่งหลายคนมองในเรื่องของธรรมะผิดไป เราไม่ได้หมายถึงว่าต้องเป็นคนแก่ ต้องเป็นแม่ชี หรือต้องเป็นคนดี ธรรมะไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเป็นแม่พระ ธรรมะคือการไปเรียนรู้ว่าเราจะอยู่ยังไงในเรื่องของธรรมชาติมันต้องเกิดนั้นเอง”
“กระแตชอบไปนั่งปฏิบัติธรรม เพราะเวลาที่เราเจออะไรมา เราก็อยากให้ตัวเองได้พัก อีกอย่างเวลาที่กระแตลงภาพจนคนมองว่าสร้างภาพ อันนี้กระแตเฉยๆ นะเพราะถ้าเขามองเราไม่ดีก็เป็นบาปเขา ตอนนั้นกระแตเองก็เคยคิดเหมือนกันว่าไม่อยากลงรูป แต่หลวงพ่อบอกให้ลง คือท่านบอกว่าทำดีแล้วทำไมไม่ลง แต่เวลาทำไม่ดีกลับลงกันจัง เราก็เลยมองว่าจริง กระแตเลยชอบลงธรรมฐาน คนที่เข้ามาอ่านก็ได้ประโยชน์ อย่างเมื่อก่อนเราไปจ้างเขาพิมพ์หนังสือธรรมะ 500 เล่ม ก็เป็นเงินจำนวนหลายบาท คือตอนนั้นไม่ได้มีโซเชียลเหมือนสมัยนี้ ซึ่งเดี๋ยวนี้สบายเลยมีคนแชร์ไปอ่าน อย่างถ้าไปวางหนังสือธรรมะตามวัดจะมีคนหยิบหรือเปล่าเรายังไม่รู้เลย (หัวเราะ) แต่พอเดี๋ยวนี้เราโพสต์คนเห็นก็ได้บุญแล้ว”
ศึกษาและปฏิบัติธรรมจริงจัง แบบไม่อิงกระแส หรือตามเทรนด์ใดๆ
“อย่างที่บอกว่าที่บ้านชอบทำบุญอยู่แล้ว มันเหมือนเป็นการปลูกฝัง ยิ่งพอเราเริ่มโตก็ยิ่งรู้ว่าถ้าศึกษาพระธรรมของพระพุทธเจ้าช่วยให้เราใช้ชีวิตได้มีความสุขมากขึ้น เราอาจจะต้องเจออะไรอีกมากมายที่ผ่านมา และเราก็ยอมรับว่ามีคนด่าแอนตี้ เราเลยหาวิธีในการศึกษาหนทางต่างๆ ที่ทำให้เราดีขึ้น”
“ตอนนี้กระแตยังยอมรับว่าเรายังมีรัก โลภ โกรธ หลง แต่เราศึกษาธรรมะเพื่อไม่ให้กิเลสหนาไปกว่าเดิม เพราะเรายังต้องเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ เราแค่เอาธรรมะมายึดเหนี่ยวหลักธรรมในการดำเนินชีวิต และยิ่งคนที่อยู่ในวงการยิ่งต้องมีธรรมเป็นอย่างมากเลย เพราะวันดีคืนดีเราไม่รู้ว่าจะโดนข่าวฉาวอะไรหรือเปล่า ถือเป็นการเอาธรรมะเข้ามาป้องกันตัวเองไว้ อย่างที่ผ่านมากระแตเองก็โดนมาเยอะแล้ว เราเองก็ไม่มีวิธีป้องกัน ก็ดิ้นร้องรนจนทุกข์ แต่สุดท้ายเราก็พบว่าธรรมะ และในโลกนี้ถ้าทุกคนมีธรรมในตัว ก็จะไม่มีใครมีความทุกข์เลย”