“กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์” งงดรามาใช้ลูกมาหากิน ซัดจะเอาอะไรมาดรามากับเด็กอายุแค่ 8 เดือน ต่อไปไม่ต้องมีใครมาท้าลูกเรียกชื่อ ปลื้มลูกหาเงินเองได้ตั้งแต่เด็ก แบ่งบางส่วนช่วยเด็กยากไร้ เปิดใจอีเวนต์ - พรีเซนเตอร์ ติดต่อพรึ่บ อยากจ้างต้องสู้ราคา เพราะตนตั้งค่าตัวไว้สูง เผยลูกยังติดเต้า ของดเล่นละคร 2 ปี เบรกผัวอยากมีลูก 5 คน
เป็นลูกดาราสุดฮอตที่สุดในตอนนี้จริงๆ สำหรับ “เจ๊เปาบางพลี” หรือ “น้องเป่าเปา” ลูกสาววัย 8 เดือนของคุณแม่ “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์” แต่ก็ไม่วายมีประเด็นดรามามาถึงตัวตลอด ล่าสุด ที่ได้เงินสดๆ 2 แสนบาทจาก “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ก็กลายเป็นประเด็นดรามาว่าสาวกุ๊บกิ๊บใช้ลูกเป็นเครื่องมือทำมาหากิน โดยกุ๊บกิ๊บได้ชี้แจงในงานเปิดอาณาจักรความงามแห่งใหม่ เอเพ็กซ์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ ณ เอเพ็กซ์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ (APEX Medical Center) สาขาเพลินจิต เจ้าตัวก็เผยว่าไม่ได้ซีเรียสเลย ดีซะอีกที่ลูกหาเงินให้ตัวเองได้แล้ว
“ตอนนี้ 8 เดือนกับ 10 กว่าวันแล้วค่ะ คือ นางเป็นนักล่าเงิน รู้จักการหาเงินเลี้ยงดูตัวเอง แม่ก็ดีใจที่นางสามารถหาเงินเลี้ยงดูตัวเองได้ คือ จริงๆ กิ๊บว่ามันเป็นเรื่องตลกๆ ขำๆ กันในบ้านและผู้ใหญ่ที่เอ็นดูเขา อย่างพี่วู้ดดี้เนี่ยเราก็ไม่คิดหรอกว่าเป่าเปาจะเรียกชื่อเขาได้ เพราะปกติเด็ก 8 เดือน เขาก็ยังไม่พูดกัน ก็ต้องสักขวบหนึ่ง แต่เป่าเปาก็ไม่รู้ยังไง สงสัยแม่คงพูดทั้งวัน นางก็เลยอิน นางก็เลยพูดได้ พูดเก่ง นางเป็นเด็กพูดเก่ง แต่เราได้เงินมาเราก็เอาไปช่วยคนอื่นด้วย ของพี่วู้ดดี้เราก็แบ่งครึ่งหนึ่งไปทำบุญ เพราะเราก็อยากให้เด็กๆ หลายๆ คนมีโอกาสอย่างเป่าเปา และเราก็อยากสอนเขาว่าถ้าสมมติเราได้เงินมาง่ายๆ เราก็ต้องรู้จักที่จะแบ่งปันคนอื่นด้วย”
“เอาจริงๆ กิ๊บไม่รู้ว่าดรามาคืออะไร ทำไมถึงต้องดรามากับเด็ก 8 เดือน คือ กิ๊บไม่รู้ว่ามีดรามาอะไรบ้าง เพราะตรงโลกที่กิ๊บอยู่มันไม่มีใครดรามาไง กิ๊บก็เลยไม่รู้ว่าโลกข้างนอกเขาดรามาอะไรกัน กระแสว่าเราเอาลูกมาหากิน อ้าว แล้วแม่คนอื่นไม่เหรอ ไม่รู้ (หัวเราะ) แล้วเอาลูกหากินยังไงล่ะ เราไม่ได้ไปบังคับเขาทำอะไรนี่ เขาทำของเขาเอง เป็นพัฒนาการของเขา แล้วหาเงินสำหรับเขาไม่ดีตรงไหน เด็กไม่ต้องใช้เงินเหรอ ต่อไปนางก็ต้องเรียนหนังสือนะ นางต้องเติบโต ทั้งหมดเป็นเงินของนาง เราก็เอาเข้าบัญชีให้เขา มันเป็นเงินของเขา เขาหาเงินได้ตั้งแต่เด็ก เขารู้จักทำงานหาเงิน รู้จักทำอะไรในสิ่งที่ทำแล้วได้เงินมา มันก็เป็นสิ่งที่ดี”
“กิ๊บไม่เคยซีเรียสกับเรื่องดรามาอะไรอยู่แล้ว กิ๊บว่าบางทีมีดรามาคนก็อาจจะห่วงเขามากกว่าว่าเขาเหนื่อยหรือเปล่า แต่นางมีความสุขมากค่ะ ไม่ต้องห่วง จริงๆ กิ๊บว่าเขารับทรัพย์เอง ไม่ได้เกี่ยวกับเรา แต่ก็คงจะไม่ได้โกยทรัพย์ขนาดนั้น แต่เราก็ต้องยอมรับว่าคนเอ็นดูเขาจริงๆ ซึ่งก็ถือว่าเป็นบุญของเขา ถ้าบอกว่าเขาเป็นอภิชาตบุตร กิ๊บว่าลูกทุกคนเป็นอภิชาตบุตรของพ่อของแม่ทุกครอบครัวนะ อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นความสามารถของเขาด้านไหน หรือเราจะชื่นชมกับเขาในด้านไหน ซึ่งสำหรับกิ๊บต่อให้วันนี้เป่าเปาไม่ได้ดัง ไม่ได้มีชื่อเสียง หรือว่าไม่ได้มีใครชอบเยอะ เราก็ยังรู้สึกดีใจที่มีเขาและเขาก็เป็นของขวัญที่พิเศษสำหรับเราอยู่ดี”
ขำๆ เดินข้างถนนมีคนมาท้าให้เป่าเปาเรียก เรียกได้จะให้หนึ่งแสน
“จริงๆ ตอนนี้จะบอกทุกคนว่าไม่ต้องท้าแล้ว เราไม่อยากให้เป่าเปาพูดอะไรแล้ว เราสอนเขาสวัสดี ยกมือไหว้อยู่ ไม่ต้องท้าแล้วเดี๋ยวหมดตังค์ (หัวเราะ) แต่มีบางทีเดินไปข้างนอกถนนก็จะมีมาบอกว่าเรียกอาอี๊สิ เรียกได้ให้แสนหนึ่ง กิ๊บบอกว่าอี๊คะ อี๊ไม่ได้กดเงินมาใช่มั้ยคะ ฉะนั้นอี๊ไม่ต้องท้า ถ้าอี๊ท้าเดี๋ยวอี๊ต้องจ่ายตังค์ (หัวเราะ) แต่นางมีงานติดต่อมาเยอะมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพรีเซนเตอร์ ถ่ายแบบ เราก็เลือกบ้าง แต่เรารู้สึกว่าอันไหนที่ไม่ใช่เขาหรือมันไม่จำเป็นต้องทำเราก็ไม่ได้ให้เขาทำ เพราะเราไม่ได้อยากจะทุกวันออกไปทำงาน ไปถ่ายแบบ มันไม่ใช่อาชีพเขาน่ะ เราก็แค่อยากจะนานๆ ทีไปสนุกทีบ้าง ให้เขาไปเจอผู้คนเขาจะได้ชินกับการเจอคนเยอะๆ เจอกล้องบ้าง เพราะต้องยอมรับว่าพ่อแม่เป็นดารานักแสดงเป็นนักร้อง เราอยู่ตรงนี้เขาก็ต้องคุ้นเคยกับโลกของเรา ไม่ใช่ว่าเราปิดเขา เก็บตัวเขา กิ๊บอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ”
“ถ้าจะรับก็อย่างงานที่ไม่เหนื่อยเกินไป อะไรที่เขาไม่ต้องทำอะไรเยอะ เสียงไม่ดังเกิน ไม่ร้อนเกินและเหมาะกับเด็ก มีงานติดต่อมาเยอะมากเลย แต่บางอันเรารู้สึกว่าเด็ก 8 เดือนหรือจะไปทำ แต่เราก็เข้าใจว่าคนเอ็นดู เขาก็อยากเจอเป่าเปาเขาก็เลยจ้าง ซึ่งเราก็ยินดีที่เขาอยากจะร่วมงานด้วย แต่เราต้องขออภัยด้วยที่บางอย่างมันไม่เหมาะกับลูกจริงๆ นี่ก็เพิ่งรับโฆษณาไปชิ้นหนึ่ง เดี๋ยวอื่นๆ ค่อยว่ากัน (หัวเราะ) แต่ถ่ายโฆษณามันเหนื่อยนะ เราก็ต้องดูว่ามันเหมาะกับเขามั้ย แล้วเขาจะโอเคหรือเปล่า”
อยากจ้างต้องสู้ราคา รับตั้งค่าตัวเป่าเปาไว้สูง เพราะต้องใช้เงินเยอะ
“ถึง 10 ชิ้นมั้ยเหรอ คือมันเยอะมาก แต่พ่อแม่ก็ไม่ค่อยมีเวลาด้วย เราก็ต้องค่อยๆ ดูเลือกไป เราก็ไม่อยากบังคับให้ลูกต้องทำอะไรเยอะแยะ แต่เราก็ห่วงนะ พ่อแม่ทุกคนห่วงลูกอยู่แล้ว แต่เราก็เลี้ยงเขาแบบธรรมชาติ ไม่ใช่อันนี้ก็ห้าม อันนั้นก็ห้าม แต่เราต้องดูว่าอันไหนเหมาะสมกับลูก ค่าตัวบอกเลยว่าแพง เพราะดูจากสมาชิกที่บ้านสิคะ เวลาไปทียกกันไปทั้งโคตรขนาดนั้นมันต้องแพงค่ะ เพราะต้องเลี้ยงทุกคนค่ะ เราต้องแจกจ่ายให้ทั่วถึง เป่าเปาออกอีเวนต์ทีไปกัน 20 คน ค่าตัวก็ต้องแพงหน่อย และเราก็ตั้งไว้แหละ ถ้าเขาอยากให้ไปเราก็ไป เพราะมันต้องใช้เยอะน่ะ แต่ถ้าเขาไม่เอาก็ไม่เป็นไร เราก็ตั้งไว้ขำๆ”
“ไม่ถึง 7 หลัก ใครจะบ้าไปจ้างเด็ก 8 เดือนขนาดนั้น แต่บอกเลยว่าค่าตัวแพงกว่าพ่อแม่ค่ะ เพราะทุกวันนี้เดินไปไหนพ่อแม่เหมือนเป็นเงา ทุกคนบอกเป่าเปาอยู่ไหนคะ บางทีบี้บอกว่านี่เขาเห็นมั้ยว่ากูอยู่ตรงนี้ด้วย นี่เขารู้รึเปล่าว่ากูเป็นดารานักร้อง (หัวเราะ)”
“ตอนนี้เปิดบัญชีไว้ให้เขาแล้วค่ะ ทุกอย่างที่เขาได้ไม่ว่าจะเป็นใครให้เราก็เอาเข้าบัญชีเขา อย่างเงินที่เอาไปทำบุญเราก็เอาจากบัญชีเขาไปทำ เพราะเราอยากให้เขารู้ว่านี่เราได้ทำบุญตั้งแต่อายุแค่นี้ รู้จักแบ่งปัน รู้จักให้ เพราะเราอยากให้เด็กคนอื่นๆ ได้มีโอกาสมีความสุขแบบเขาบ้าง เพราะเวลาเราไลฟ์คนก็จะมาบอกว่ายังมีเด็กๆ ที่อยากจะมีความสุขเหมือนเป่าเปาบ้าง เราก็ช่วยไปค่ะ”
บอกยังไม่พร้อมรับงานละคร ลูกยังติดเต้า รอให้อายุ 2 ขวบก่อนค่อยปั้มลูกอีกคน
“กิ๊บก็ยังทำงานค่ะ แต่ว่าไม่หนักมาก เป็นงานที่คุณแม่อยากทำ แต่ละครคงยังค่ะ พักก่อน เพราะเราอยากอยู่กับลูก อยากใช้เวลากับลูกมากๆ คือ ตอนนี้กิ๊บไม่สามารถรับอะไรที่กลับดึกได้เลย เพราะนางกินนมเต้าตลอด กิ๊บเลี้ยงเองตลอด นางเลยจะติดแม่มาก พ่อก็งอนนะ พ่อบอกว่าบางทีนางมองเหมือนนี่ไม่ใช่พ่อ นางจะติดพ่อเฉพาะเวลานางอยากเล่น อยากออกไปข้างนอก พ่อนางจะพาว่ายน้ำ พาขี่จักรยาน แต่พอนางจะนอนนางจะอ้อนมาที่แม่”
“รอเป่าเปาสัก 2 ขวบก่อนแล้วกันค่ะ ให้นางเข้าโรงเรียนพอดี แล้วเราค่อยมีน้องออกมาอีกคน เขาจะได้รู้จักช่วยเลี้ยง แต่จะมีอีกแน่ค่ะ ตอนแรกผัวจะเอา 5 คน ไหวมั้ย เปาไป๋ เปาปุ่ย ก็ตั้งชื่อไปเรื่อย เราก็บอกไม่ไหว ลองอีกคนหนึ่งก่อนนะ ถ้าเป็นผู้ชายก็พอแล้วมั้ยล่ะ ถ้า 5 คนนี่ต้องพับเลย ไม่ไหว”
บอกเพิ่งฉลองครบรอบแต่งงาน 1 ปี ชีวิตไม่ต้องการอะไร มีความสุขและเรียบง่าย
“เพิ่งครบรอบ 1 ปีมา ยังไงเราก็ต้องไม่ลืมสามี สามีก็ไม่ลืมเรา ครั้งนี้สามีไม่ให้อะไรค่ะ เพราะเราก็ไม่ได้ให้อะไร เราเพิ่งให้กันมาตอนวันวาเลนไทน์เต็มที่แล้ว ก็เก็บตังค์เพราะเรากระเป๋าตังค์เดียวกันแล้ว คือบอกเลยว่าไม่ได้อยากได้อะไรแล้ว รู้สึกว่าทุกวันที่เรามีมันพอแล้ว มีความสุขมากแล้ว ไปดินเนอร์กันก็มีลูกนั่งเคาะโต๊ะ ไปถ่ายรูปสวีตกันลูกก็นอนหลับอ้าปากหวออยู่ตรงกลาง เราก็รู้สึกว่ามันมีความสุขดีและเป็นชีวิตที่เรียบง่าย”