ปัจจัยบ่งชี้ หรือ “อสมท” กำลังจะเจ๊งจริง!?

ช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าอาการสาหัสทีเดียวสำหรับบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ “สื่อ” ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ ที่ต่างก็พากันดิ้นรนหนีตายกันเต็มที่ ขณะที่บางส่วนก็จำต้องโบกมือลาจากกันไป

โดยหนึ่งในองค์กรที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในตอนนี้ก็เห็นจะเป็นในส่วนของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ที่มีกระแสข่าวลืออย่างหนักทำนองว่า “ใกล้จะเจ๊ง” แล้วนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม หากมองไปถึงข่าวคราวที่เกิดขึ้นกับ อสมท ในช่วงที่ผ่านมา ก็ต้องถือว่าเรื่องนี้หาใช่การมโนไปเองแต่อย่างใด หากแต่มีมูลอยู่ไม่น้อยทีเดียว

ตัวเลขชี้ชัดขาดทุนยับ!
สำหรับรายได้ของ บมจ. อสมท นั้น หลักๆ จะมาจาก 4 ทางด้วยกัน คือ ทีวี (โมเดิร์นไนน์ ทีวี), วิทยุ, ธุรกิจนิวมีเดีย ประเภททีวีดาวเทียมและออนไลน์ รวมถึงธุรกิจสัมปทานจาก True Visions และช่อง 3

ทั้งนี้ จากการแจ้งผลประกอบการของบริษัทย้อนหลังไป 5 ปีนั้น พบว่า ในส่วนรายจ่ายของ อสมท นั้นแทบจะไม่ได้ลดลงเลยหากแต่รายได้นั้นกลับสวนทางกัน ส่งผลให้ อสมท มีตัวเลขกำไรที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

กล่าวคือ ปี 2555 แจ้งผลกำไรที่ 1,758.87 ล้านบาท, ปี 2556 มีกำไร 1,526.93 ล้านบาท, ปี 2557 แจ้งตัวเลขมีกำไร 503.79 ล้านบาท, ปี 2558 แจ้งตัวเลขมีกำไร 57.81 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2559 ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป บริษัท บมจ.อสมท นั้น แจ้งผลตัวเลขขาดทุนที่สูงถึง 784.89 ล้านบาทเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ถ้าลองพิจารณาแยกเฉพาะส่วนจะพบว่าธุรกิจอย่างทีวี นั้นมีการขาดทุนที่หนักมาก, ส่วนธุรกิจนิวมีเดีย และรายได้จากสัมปทานจากทรูส์และช่อง 3 ต่างก็มีตัวเลขที่ตกลงอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง มีเพียงธุรกิจคลื่นวิทยุเท่านั้นที่ถือว่ายังคงเสมอตัวและปรับตัวไม่มากนัก

ปิดตัว “ซี้ด” - “วู้ดดี้” ประกาศลา
ย้อนไปในสมัยที่ “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” นั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการ บมจ.อสมท ได้มีการก่อตั้งบริษัท ซี้ดเอ็มคอท จำกัด เพื่อผลิตรายการทางวิทยุกระจายเสียง จัดกิจกรรมบันเทิง ผลิตสื่อวีดิทัศน์และดนตรี รวมถึงธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง โดย อสมท มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ร้อยละ 49.0 ส่วนผู้ที่ถูกเรียกมาดูแลตรงนี้ ก็คือ “ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล”

อย่างไรก็ตาม หลังออกอากาศมานานกว่า 12 ปี ปลายปี 2559 ก็มีข่าวช็อกวงการวิทยุกับการปิดตัวลงของคลื่นซี้ด เรดิโอ เอฟเอ็ม 97.5 FM และบริษัท ซี้ดเอ็มคอท จำกัด ด้วยเหตุผลที่ว่าธุรกิจนี้มีการแข่งขันที่สูงขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป และธุรกิจไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ พูดง่ายๆ ก็คือ มีขาดทุนและไม่มองไม่เห็นอนาคตนั่นเอง

อีกหนึ่งคนที่เตรียมจะโบกมือลา บมจ.อสมท ก็คือ ในรายของ “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ที่ออกมาประกาศเตรียมยุบ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” และ “เช้าดูวู้ดดี้ (ตื่นมาคุย)” ที่ออกอากาศผ่านช่องโมเดิร์นไนน์ ทีวี มานานร่วม 9 ปี โดยหลังจากไปดูตัวเลขรายได้ในปี 2558 ของบริษัท วู้ดดี้เวิลด์ จำกัด ที่ผลิต 2 รายการดังกล่าวก็พบว่ามีตัวเลขที่น่าสนใจมาก กล่าวคือ มีการขาดทุนถึง 29,328,175 บาท ทั้งที่ในปีก่อนหน้านั้นบริษัทมีกำไรถึง 10,722,304 บาท

การเมืองภายใน
ว่ากันว่า มูลเหตุหนึ่งที่ทำให้ บมจ.อสมท ไม่สามารถปรับตัวได้คล่องตัวนักเหมือนกับบริษัทเอกชนทั่วไป กระทั่งนำมาสู่ผลการขาดทุนในวันนี้ ก็เห็นจะเป็นเรื่องของความเป็น “รัฐวิสาหกิจ” และมีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ต่างอะไรจากไปรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการบินไทย หรือ ทีโอที นั่นเอง

ที่ผ่านมา แม้ อสมท เองจะไม่มีการบรรจุพนักงานใหม่ แต่ใช้การเลือกจ้างแบบลูกจ้างชั่วคราว ทว่า ตรงนี้ก็เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถจะช่วยอะไรได้มากมายเท่าไหร่

ขณะที่เรื่องราวการเมืองภายใน ของ อสมท เองก็ดูจะมีไม่น้อยทีเดียว จากข่าวคราวการถูกแขวนเก้าอี้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ของ “ศิวะพร ชมสุวรรณ” ในข้อหา “ขาดคุณสมบัติ” ทั้งที่เจ้าตัวได้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวมาร่วม 2 ปีท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าเจ้าตัวนั้นไปขัดใจขาใหญ่แดนสนธยานั่นเอง

อันที่จริงเงินสดในการบริหารของ บมจ.อสมท นั้น ก็ยังมีอยู่ไม่น้อย ซึ่งก็คงจะต้องดูกันต่อไปว่า (ว่าที่) กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อย่าง “ใหญ่ เขมทัตต์ พลเดช” อดีตผู้บริหารพีพีทีวี และเคยเป็นลูกหม้อ อสมท จะสามารถนำพาให้ดินแดนแห่งนี้ที่กลับมาอึมครึมเป็นแดนสนธยาอีกครั้งพ้นจากวิกฤตที่หนักหนาสาหัสในครั้งนี้ไปไปในทิศทางใด...