“ปราโมทย์ แสงศร” ยันคำเดิม “หญิงก็ได้ ชายก็ดี” เผยช่วงเวลาที่เฮิร์ตที่สุดในชีวิต ถูกคนรักที่เคยประกาศเปิดตัวเมื่อ 2 ปีก่อนเท จับได้นอกใจ ช็อกถึงขั้นป่วย เจ็บหนัก ใช้ชีวิตเละเทะ เกือบเอาชีวิตไม่รอด ขอบคุณพ่อแม่ช่วยดึงสติกลับมา ยันหัวใจไร้รูปแบบ บอกไม่ได้ว่าคบเพศไหน
เคยออกมาประกาศชนิดช็อกวงการไปเลย สำหรับอดีตนักแสดงขวัญใจทีนไอดอล ยุค 90 “ปราโมทย์ แสงศร” ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนได้ออกมายอมรับว่ามีแฟนแล้ว รักได้ทั้งชายและหญิง ล่าสุด เจ้าตัวหวนกลับมาเล่นซีรีส์เรื่อง “ตี๋ใหญ่ 2 ดับเครื่องชน” ช่องโมโน และออกมายอมรับว่า ได้เลิกรากับแฟนไปแล้ว 1 ปี และเป็นประสบการณ์ที่เฮิร์ตที่สุดในชีวิต เจ็บหนักจนเกือบตาย!
“พอหลังจากพูดไปครั้งนั้น มีรายการติดต่อมาให้พูดเรื่องส่วนตัวเยอะมากเลย ตอนนี้คือโสดนะ ก็เลิกกันแล้ว กับคนที่เล่าให้ฟังตอนนั้น ผมใช้ชีวิตเป็นหนุ่มโสดปกติ (ยิ้ม) พอมาตอนนี้ผมมีเวลากลับมาคิดเรื่องงานมากขึ้น เพราะว่าตอนนั้นจริงๆ แล้ว รู้สึกเรื่องความรักมาก่อนเรื่องงาน ผมเป็นอย่างนั้นเลยนะตั้งแต่เด็กๆ ตอนนีี้รู้สึกแล้วเราควรทำงานบ้าง”
“ตอนอกหักชีวิตเละเทะมากเลย เขาไปเจอคนใหม่ที่ต่างประเทศ ใช้ได้เลย (ความผิดหวังทำให้ฝังใจมาถึงตอนนี้มั้ย?) ก็ (นึก) มีบ้างนะ (หัวเราะหึหึ) แต่ก็ทำให้เราแข็งแรงขึ้นเหมือนกันนะ ก็ช็อกนะที่รู้ว่าเขามีคนใหม่ แต่ผมไม่ได้รู้จากตัวเขานะ ผมรู้จักคนอื่น แล้วมันห่างกัน คือ มันอึดอัดที่เราไม่สามารถขับรถไปเจอได้เลย เขาไปอเมริกา แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกว่ามีใครอยู่ข้างเราบ้าง”
“ตอนนั้นมันแย่มาก เป็นเคสที่แย่ที่สุดในชีวิตเลยนะ เลิกกันมาปีหนึ่งแล้ว (ชีวิตตอนนั้นแย่นานไหม) ขนาดขับรถผมยังรู้สึกอึดอัดเลย อยู่ในที่แคบๆ คือ ผมต้องเปิดกระจกอยู่ตลอดเวลา ถ้าอยู่บ้านก็ต้องออกไปข้างนอก ผมไม่เคยเจอะสภาวะแบบนั้นมาก่อนเลยนะ ก็ทำให้เรารู้สึกว่าพยายามว่าอ่อนไหวมากและพยายามเข้าใจที่จะปกป้องตัวเองบ้าง”
เผยสภาพไม่น่ารอด ขอบคุณพ่อแม่ช่วยดึงสติกลับมา
“ถามว่าเข็ดกับความรักมั้ยก็มีอยู่เหมือนกันนะ พอมาเจอเองพวกคนที่เขามีกำแพงนี้ก็น่าจะมาจากสถานการณ์แบบนี้ แต่เคสนี้ทำให้ผมรู้สึกเข้าใจแม่มากขึ้น คุยกับแม่มากขึ้น คือ สภาพผมตอนนั้นไม่น่ารอด และได้เห็นมุมมองของคุณแม่ สุดท้ายแล้วคุณแม่คุณพ่อช่วยดึงสติกับมาได้มากที่สุด ถามว่าซึมเศร้ามั้ยก็ป่วยระดับหนึ่งนะ”
ยังบอกไม่ได้จะคบเพศไหน บอกหัวใจยังไร้รูปแบบ ขอดูแลหัวใจและความรู้สึกตัวเองไปก่อน
“(นึก) ก็ดีนะ ถ้าตอนนี้ยังไม่ได้คุย ตอนนี้นึกถึงเรื่องงานและยังไม่นึกถึงการใช้ชีวิตคู่ เมื่อก่อนคิดมาก ตอนนี้เอาไว้ก่อน คือ มีคนคุยนะ แต่ว่าเป็นแบบเพื่อน เราจะไม่กระโดดหรือทุ่มลงไปขนาดนั้น พักๆ ก่อน ดูตัวเอง ดูหัวใจและความรู้สึกของตัวเองมากกว่านะ ให้มันมากขึ้น แต่จริงๆ หัวใจของผมไม่มีรูปแบบ แล้วแต่ว่าจะเจออย่างไร ตอนนี้ยังบอกไม่ได้นะ ผมไม่ได้กลัวความรัก เพราะความรักไม่ได้ผิด เขาอยู่ตรงนั้นของเขา แต่เราเองจะจัดการตัวเองอย่างไร”