ชาวเน็ตถามทำไมไม่พูดถึงธุรกิจสีเทา หลัง “เพชรจ้า” เผยเส้นทางรวย

น่าสนใจไม่น้อยหลังจากวันวานที่ผ่านมาดีเจชื่อดัง “เพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย” ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม ตอบข้อสงสัยของใครหลายคนว่าทำไมเจ้าตัวถึงได้รวยนัก? ในทำนองแนะนำเคล็ดลับโดยระบุว่าแม้จะขยันแต่ถ้าคนๆ นั้น ทำงานประจำอย่างเดียวรับรองว่าไม่รวยแน่นอน

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การกล้าที่จะหันมาทำธุรกิจเสริม หรือกล้าที่จะลงทุนในช่องทางที่จะได้เงิน เช่น ตนเองที่ชอบสะสมนาฬิกา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกคนต้องกล้าที่จะเสี่ยงและขยัน เพราะเรื่องนี้ไม่มีทางลัดแต่อย่างใด (อ่านข่าวไขข้อข้องใจ “เพชรจ้า” เผยหมดเปลือก เคล็ดลับรวยๆๆประกอบ)

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าตัวได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกมาก็ได้มีชาวเน็ตบางส่วนตั้งขอสงสัยว่า ทางฟากของหนุ่มเพชรจ้านั้น พูดถึงเส้นทางร่ำรวยของตนเองไม่หมดหรือเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทาที่ครอบครัวรวมถึงเจ้าตัวเคยทำมานั่นเอง

โดยที่ผ่านมาทางด้านผู้เป็นบิดาของหนุ่มเพชรจ้านั้น มีธุรกิจและหุ้นในบ่อนกาสิโนที่มาเก๊ามาก่อน นอกจากนี้ ในอดีตหนุ่มเพชรจ้าเองก็เคยเปิดผับโดยที่พี่ชายลงทุนให้มาแล้วเช่นกัน ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เจ้าตัวก็ยอมรับอย่างไม่มีปิดบังด้วยการเปิดเผยผ่านรายการ “ตีสิบเดย์” ทางช่อง 3 ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมานี้เองโดยระบุว่า...

“ตอนอายุ 20 ปี เหมือนเป็นปมเล็กๆ ของเด็กผู้ชายที่มีความทะเยอทะยานด้วยการเห็นคุณพ่อขับรถเบนซ์เราเห็นตั้งแต่เด็ก ซึ่งเรามีความวาดฝันว่าคุณพ่อต้องซื้อรถแบบนี้ให้แน่นอน ถ้าย้อนกลับไปตอนนั้นคุณพ่อมีธุรกิจและมีหุ้นเล็กๆ มีบ่อนกาสิโนอยู่ที่มาเก๊า เราเลยมีความฝันว่าเราต้องทำได้อย่างคุณพ่อ”

“ซึ่งตอนนั้นผมเป็นเด็กที่เที่ยวทุกวัน เมาทุกวัน เที่ยวจนรู้เลยว่าโซดาร้านนี้ขวดเท่าไหร่ เขาได้กำไรเท่าไหร่ เหล้าขวดเท่าไหร่ และเด็กเสิร์ฟจ่ายเท่าไหร่ ค่าเช่าร้านเท่าไหร่ ซึ่งเขาได้กำไรต่อเดือนเท่าไหร่ ทุกครั้งที่ผมไปเที่ยวผมสังเกตหมด ผมเลยมีความฝันจะต้องทำเงินจากการเปิดผับให้ได้”

“ตอนนั้นเลยไปบอกกับพี่ชายว่าอยากเปิดผับ ช่วงนั้นอายุ 20 ปี พี่ชายเลยบอกโอเคเดี๋ยวลงทุนให้ และผมก็ไปดูทำเลกับพี่ชาย แล้วบอกว่าร้านทั้งหมดเดี๋ยวผมดูเอง สุดท้ายพอเราเปิดร้าน ปรากฏว่าร้านดังคนเต็มร้าน เราเริ่มมีรายได้ พี่ชายเริ่มให้เงินเดือน”

“รายได้ตอนนั้นเป็นผับแรกตกวันละประมาณ 20,000 บาท ซึ่งตอนหลังเรามาสังเกตว่าร้านเราขายโซดาได้วันขวดละ 15 บาท แต่อาร์ซีเอ กับทองหล่อ ขายโซดาขวดละ 70 บาท น้ำแข็งร้านเรา 10 บาท แต่ทองหล่อ 100 บาท และร้านนั้นเราเปิดได้ประมาณ 20 ปี ผมบอกกับพี่ชายเลยว่า เราต้องย้ายร้านไปขายโซดาได้ขวดละ 60 - 70 บาท ไม่ได้มาขายขวดละ 15 บาท เหมือนตรงนี้ ผมเลยวางแผนเซ้งร้านแล้วโยกย้ายไปอยู่ที่ทองหล่อ”

“ก็ประสบความสำเร็จเหมือนตอนที่เปิดอยู่หอการค้า วันหนึ่งมีเงินเข้า 70,000 บาท เราก็รู้สึกสบายแล้ว และผมก็มีพี่สาว เขามองว่า การเปิดผับชีวิตมันไม่ยาวยั่งยืน เขาเลยบอกให้ผมไปเรียนต่อปริญญาโท ผมก็ฟังเขาและตัดใจขายร้าน ผมก็ขายหุ้นทั้งหมดและแพลนว่าจะไปเรียนที่ต่างประเทศ...”