ราวๆ สองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผมเคยเขียนไว้ในบทความเกี่ยวกับหนังเรื่อง “ลา ลา แลนด์” ซึ่งถือว่าเป็นเต็งจ๋าในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ซึ่งจะมีการประกาศผลในช่วงเดือนมีนาคมนี้ว่า คู่แข่งตัวสำคัญของ “ลา ลา แลนด์” (La La Land) ก็คือเรื่องนี้ “มูนไลท์” ที่เพิ่งคว้าชัยในสายหนังยอดเยี่ยม (สายดราม่า) มาจากเวทีลูกโลกทองคำ
สำหรับในบ้านเรา หนังเรื่องนี้เข้าฉายไปเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน และไม่ค่อยมีโรงมีรอบให้ดูเท่าไหร่นัก ซึ่งตามจริงก็เหมือนกับเมืองนอกที่หนังก็ไม่ได้ฟู่ฟ่าในแง่รอบฉายและโรงฉาย อย่างไรก็ตาม ความน้อยของโรงของรอบ มิอาจลด “ความมาก” และ “มีน้ำหนักทรงพลัง” ของความยอดเยี่ยมในเนื้อหาเรื่องราวของหนังที่มีอยู่อย่างเปี่ยมล้นได้ กำลังใจและเสียงชื่นชมล้นหลามดังมาจากปากของทุกๆ คนที่ได้ยลหนังเรื่องนี้ด้วยตาตัวเอง
ผมเคยเขียนเอาไว้ตั้งแต่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ว่า นี่คือ “เต็งคู่ออสการ์ปีนี้” ร่วมกับ “ลา ลา แลนด์” และเมื่อได้ดู ก็รู้สึกว่าการคาดเดานั้นไม่น้อยไปกว่าความเป็นจริงแต่อย่างใด เพราะความลึกซึ้งแหลมคมที่สามารถฟัดเหวี่ยงกับ “ลา ลา แลนด์” ได้สบายๆ สำหรับคอหนังดราม่า อาจมีน้ำตาร่วงกันได้
แม้จะชื่อ “มูนไลท์” ซึ่งชวนให้นึกถึงอะไรก็ตามที่วาววามสว่างไสว แต่แท้จริงแล้ว แต่นี่คือหนังที่ทั้งมืดหม่นรันทด แต่ก็งดงามซาบซึ้งใจไปด้วยในขณะเดียวกัน มันดัดแปลงมาจากบทละครเรื่อง In Moonlight Black Boys Look Blue ของ “ทาเรลล์ อัลวิน แม็คเครนี่ย์” เล่าถึง “ไชรอน” เด็กหนุ่มผิวดำคนหนึ่งซึ่งต้องดิ้นรนกับชีวิตที่เติบโตมาในครอบครัวที่ผุพัง พร้อมกับการถูกรังแกจากสังคมอันธพาล ความรุนแรงและยาเสพติด ในขณะที่ความรู้สึกส่วนลึก เขาไม่แน่ใจว่าตนเองกำลังคิดเกินเลยกับเพื่อนสนิทที่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก
เราจะพบว่า จากบทละครความยาวราวๆ 60 หน้า ซึ่งกลายมาเป็นภาพยนตร์ความยาว 111 นาทีเรื่องนี้ ได้จัดวางที่ทางให้กับเนื้อหาหลากหลายแง่มุมผสมผสานกันอยู่อย่างกลมกลืน โดยเนื้อหาแต่ละส่วน รวมถึงตัวละครแต่ละตัว ล้วนหนุนส่งกันและกันจนก่อให้เกิดภาพใหญ่ทางความคิดที่นำพาความรู้สึกบาดจิตสะเทือนใจได้ทรงพลัง
หนังแบ่งตัวเองออกเป็นสามส่วนหลักๆ ซึ่งคล้ายดั่งสะท้อนตัวตนอันแตกกระจายของชายคนหนึ่งตั้งแต่วัยเด็กจนถึงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นเส้นทางแห่งชะตากรรมที่ “ถูกกระทำ” ให้เป็นไปโดยสิ่งแวดล้อมรอบข้าง มันทำให้คนคนหนึ่ง “จำต้อง” สลัดปัดทิ้งตัวตนอันแท้จริงของตนเองเพราะแรงเหวี่ยงของสังคม
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่างานชิ้นนี้จะได้หรือไม่ได้รางวัลอะไรจากเวทีออสการ์ที่จะมาถึงในช่วงปลายเดือน แต่ที่แน่ๆ งานชิ้นนี้ได้สั่นสะเทือนจุดที่โศกที่สุดในจิตใจของคนดู และได้ออสการ์จากผู้ชมไปแล้วเรียบร้อย
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม