“กุ๊บกิ๊บ - บี้” กระเตง “เป่าเปา” ออกงานครั้งแรก ปริ่ม! หมอดูทักจะรวยพันล้าน โต้ค่าตัวลูกสาว 7 หลัก พูดขำๆ สรรพากรไม่ต้องมาตรวจ รอลูกครบ 3 ขวบค่อยกลับมารับละคร เชื่อเวลากับลูกมันย้อนกลับคืนมาไม่ได้ เผยเคล็ดมัดใจสามีให้ลูกเรียกพ่อทุกคืน เมินฉายาครอบครัวดรามาฆ่าไม่ตาย
โต้ค่าตัว “เป่าเปา” 7 หลัก! “กุ๊บกิ๊บ-บี้” ยิ้มรับ หมอดูทักจะรวยพันล้าน เผยเทคนิคมัดใจผัว ให้ลูกเรียกพ่อทุกคืน
มาออกงานอีเวนต์พร้อมหน้าพร้อมตาเป็นครั้งแรก สำหรับ “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์” และ “บี้ เคพีเอ็น” ธรรศภาคย์ ชี งานนี้อุ้มลูกสาว “น้องเป่าเปา” มาด้วย เรียกว่า ทำเอางานแทบแตก เพราะมีแฟนคลับมาชูป้ายไฟเชียร์น้องเป่าเปากันแล้ว โดย กุ๊บกิ๊บ - บี้ ได้เผยถึงการตัดสินใจรับงานให้ลูกเป็นครั้งแรกในงานโรแมนซ์ ออฟ เลิฟ 2017 ณ เทอร์มินอล 21 อโศก บอกอยากให้ลูกได้บุญ เผยลูกสาวทำหน้านิ่งๆ เพราะยังไม่ชินกับอีเวนต์แรก
กุ๊บกิ๊บ : “เป็นอย่างนี้ค่ะ หน้านิ่งอย่างนี้ตลอดทั้งงานเลย ก็สนุกดี ตอนแรกคิดว่าจะงอแงมั้ยเพราะนี่เป็นงานช่วงเย็นๆ แล้ว เผื่อบางทีนางจะง่วงนอน แต่โชคดีที่นางไม่งอแง มียิ้มบ้างประปรายเพื่อโปรยเสน่ห์ แต่ไม่มีการพูดจาใดๆ ออกมา เพิ่งรับงานอีเวนต์ให้ลูกเพราะอะไรที่รัก ทำไมเราถึงเพิ่งรับ (ถามบี้)”
บี้ : “เพราะก่อนหน้านี้ยังเด็กไปเนอะเราก็ยังไม่อยากให้รับ แล้ววันนี้เป็นงานทำบุญด้วยไงครับ ก็อยากจะให้ตัวเล็กได้บุญด้วย งานติดต่อเยอะมาก แล้วเป็นงานบุญด้วยก็เลยปรึกษากิ๊บ”
กุ๊บกิ๊บ : “เอาจริงๆ มีงานติดต่อเป่าเปามาตั้งแต่ยังไม่ครบเดือนเลย มีอีเวนต์ติดต่อมาแล้ว แต่เรารู้สึกถ้าเขายังไม่โตมากพอ มันก็เสี่ยงเพราะคนเยอะ กลัวเขางอแงด้วย”
บี้ : “วันนี้เจอคนเยอะแหละ เขาเลยผิดปกตินิดหนึ่ง ปกติเขาจะเล่นกับเราได้เยอะกว่านี้ แต่วันนี้เขาจะสังเกตอะไรที่เขาไม่เคยเห็น สมมติเวลาเขาไปเมืองนอก ปกติเขาจะไม่ค่อยเห็นหมา พออยู่เมืองนอกเขาเห็นหมาแล้วเขาชอบมากเลย วันนี้เขาเห็นกล้องใหญ่ๆ ที่เขาไม่เคยเห็น เขาก็ดู เขาก็มอง”
กุ๊บกิ๊บ : “เขาจะเป็นเด็กที่ชอบคนเยอะๆ เขาก็จะไม่ตื่นคน ไม่งอแง คนกรี๊ดเรียกนาง นางก็ไม่เป็นไร นางก็แฮปปี้”
เผยค่าตัวเจ๊เปาเยอะกว่าพ่อแม่ แต่คงไม่กระเตงลูกออกอีเวนต์ถี่ๆ
กุ๊บกิ๊บ : “ไม่ค่ะ เราจะเลือกเฉพาะงานที่คิดว่าเหมาะกับเป่าเปา งานที่จำเป็นจริงๆ เราถึงจะออก เพราะเรารู้สึกว่าลูกไม่ได้เป็นนักแสดงเหมือนเรา เราก็เลยคิดว่าพาออกบ้างตามความสมควร ให้คนได้เห็นได้ชื่นชมความน่ารักของเขาบ้าง แต่คงไม่ใช่เดินสายออกอีเวนต์ เราสงสารเขา มันไม่ใช่เรื่องของเขา ค่าตัวน้องก็ต่างหากค่ะ ค่าตัวเจ๊เปาเยอะกว่าพ่อแม่อีกค่ะ เดี๋ยวเอาเข้าบัญชีนางไว้เป็นค่าเทอม”
โต้ค่าตัวลูก 7 หลัก พูดขำๆ สรรพากรไม่ต้องมาตรวจนะคะ!
กุ๊บกิ๊บ : “โอ๊ย...ไม่ถึง ใครจะจ่าย 7 หลัก แพกเกจครอบครัวก็พอสมควรตามเรตของกิ๊บของบี้แล้วก็เป่าเปา จริงๆ ที่เราต้องเยอะต้องเรียกประมาณหนึ่งพอสมควร เพราะว่าเดี๋ยวเราต้องเอาไปเลี้ยงข้าวป้าๆ เลี้ยงญาติที่มากันเกือบ 30 คนด้วยค่ะ น่าจะหมดแล้ว แต่ไม่ถึง 7 หลัก อันนี้ไม่ได้ตอบแบบดารานะ แต่ไม่ถึงจริงๆ สรรพากรไม่ต้องมาตรวจค่ะ ไม่ถึงค่ะ”
บี้ : “งานต่อไปก็คงต้องดูว่างานเป็นลักษณะแบบไหน”
ไม่น้อยใจ “เป่าเปา” ไม่เรียกแม่ ฟุ้งปกติติดแม่ ให้เรียกพ่อกลับบ้าน เป็นเคล็ดลับ ใช้ลูกให้เป็นประโยชน์
กุ๊บกิ๊บ : “พัฒนาการตอนนี้ก็ถือว่าไว เพราะเขาเป็นเด็กที่ช่างสังเกต เขาไม่ถึงกับคลานเก่งมาก แต่เขาอยากยืนและเดินเลย เป่าเปาเป็นเด็กที่พูดได้แล้ว ชอบพูดตาม และเลียนแบบเสียง พูดได้เยอะและเข้าใจสิ่งที่เราสอนเยอะมาก ซึ่งเราก็ดีใจ กิ๊บคิดว่ามันคงเป็นผลดีมาจากตอนที่เราท้องและเราอารมณ์ดี ดูแลตัวเอง เขาเรียกป๊ะป๋า แหม...หน้าบาน (แซวบี้) คุยกับทุกคน”
บี้ : “ดีใจมาก เวลาตอนเช้าเขาตื่นขึ้นมา เขาก็จะเรียกป๊ะป๋าก่อนเลย หลังจากที่เราง่วงๆ งัวเงียไม่อยากตื่น ก็อยากตื่นขึ้นมาเล่นกับเขา”
กุ๊บกิ๊บ : “พอกลางคืนตอนจะนอนนะ ถ้าพ่อนางยังไม่ขึ้นมา นางจะชูคอแล้วก็เรียกปะป๊าๆ ถ้าพ่อนางมาครบ แม่นางมาครบ เช็กอินชื่อครบ นางถึงจะหลับได้ นางเรียกกิ๊บว่ากิ๊บ”
บี้ : “ที่เขารู้ว่าบี้คือปะป๊า คือ ทุกครั้งที่เขาเรียกปะป๊า บี้จะตอบเขาตลอดว่าไงคะ จนเขารู้ว่าเวลาเขาเรียกปะป๊า แล้วผมจะตอบรับ เริ่มรู้แล้วว่านี่คือปะป๊า”
กุ๊บกิ๊บ : “ไม่น้อยใจที่เขาไม่เรียกแม่ นางติดแม่อยู่แล้ว ก็มีบางอย่างให้พ่อนางชื่นใจ เอาไว้เรียกพ่อนางกลับบ้าน เราจะต้องมีเคล็ดลับ มีเทคนิคใช้ลูกให้เป็นประโยชน์ เวลาลูกเรียกก็จะแบบ อุ้ย พ่อ ลูกเรียกอีกแล้ว มาอุ้มลูกเร็ว อย่าไปเลยสงสารลูก ลูกรักมาก อะไรแบบนี้ก็ใช้ได้ผล”
แฮปปี้ผ่านจุดดรามา ย้ำทุกคนแค่ห่วงใย
บี้ : “ลืมไปแล้วช่วงที่มีดรามา ตอนนี้ทุกอย่างมันโอเคมาก มันมีความสุขมาก”
กุ๊บกิ๊บ : “คือจริงๆ กิ๊บว่าอย่าใช้คำว่าดรามาดีกว่า ใช้คำว่าคนเขาเป็นห่วงดีกว่า เพราะกิ๊บว่าคนเขาก็รักเป่าเปาเหมือนลูกเหมือนหลานเนอะ บางทีบางคนเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน มีมุมมองไม่เหมือนกัน เขาก็อาจจะมีติบ้างอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเราเป็นพ่อเป็นแม่เราก็ต้องพิจารณาอยู่แล้วว่าอะไรดีที่สุดสำหรับลูกเรา แต่ถ้าคนเขาจะเป็นห่วงลูกเรา อยากจะช่วยอะไรแบบนี้ ซึ่งเราก็ต้องโอเค เพราะคนเขารักเป่าเปา เราก็ต้องยอมนะ”
“ดรามาล่าสุดที่พาเป่าเปาดูบ่อเต่า ไม่เป็นไรเลย เพราะพ่อเขาก็ยืนอยู่ข้างๆ และที่ญี่ปุ่นต้องรู้อยู่แล้วว่าความปลอดภัยเขาเต็มที่ ถ้าไม่ได้ดีเขาก็ไม่ให้ยืน เด็กคนอื่นๆ ก็ยืนดูกัน มุมกล้องอาจจะดูหวาดเสียว แต่จริงๆ แต่กิ๊บเชื่อว่าไม่มีใครรักและดูแลเป่าเปาได้ดีเท่าแม่อยู่แล้ว ขนาดขึ้นเครื่องบินบางสายการบินยังไม่มีที่คาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับเด็กเลย เพราะเขาบอกอ้อมกอดแม่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด เพราะฉะนั้นมันไม่มีใครจะดูแลเขาได้ดีเท่าแม่อยู่แล้ว อีกอย่างพ่อแม่บี้ก็อยู่ บางคนบอกว่าเดี๋ยวคนมาเยอะจะมาดัน คือ ที่ญี่ปุ่นเขาไม่ได้ให้คนเข้าไปทีละเยอะๆ เวลาดูอะไรแบบนี้เขาจะค่อยๆ ปล่อยทีละครอบครัว ปล่อยทีละนิดๆ ซึ่งไม่มีใครอยู่ข้างหลังเรา และเราก็ล็อกเขาไว้อย่างดี”
ไม่สนใจฉายาดรามาฆ่าไม่ตาย ยันสไตล์ใครก็สไตล์มัน พ่อแม่ที่ดีวัดกันตรงไหน
กุ๊บกิ๊บ: “คือเราไม่ได้สนใจด้วย เรารู้สึกว่าดรามาก็คือคนที่เขาเป็นห่วงเรา คือถ้ากิ๊บใส่ใจดรามาก็คงไม่ได้พาลูกออกไปเที่ยวข้างนอก หรือจะมีพัฒนาการที่เร็วแบบนี้”
“กิ๊บไม่รู้ว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกดีต้องตัดสินว่าเป็นแบบไหน เราไม่ได้ตัดสินว่าถ้าคนอื่นเลี้ยงลูกไม่เหมือนเรานั่นคือไม่ดี ทุกคนมีสไตล์คนละแบบ มีไม่เหมือนกัน เราไม่รู้ว่าเราเลี้ยงเขาดีมั้ย แต่เราเลี้ยงเขาแบบที่เท่าที่เราจะทำได้ดีที่สุดของเราแล้ว และกิ๊บก็เชื่อว่าบนโลกใบนี้ไม่มีใครจะดูแลเป่าเปาไปได้ดีมากกว่ากิ๊บกับบี้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์”
รอลูกครบ 3 ขวบค่อยกลับมารับละคร เชื่อเวลากับลูกมันย้อนกลับคืนมาไม่ได้
กุ๊บกิ๊บ: “กิ๊บว่าจะรอให้เป่าเปาเข้าโรงเรียนก่อนประมาณ 3 ขวบ แล้วค่อยรับงานเยอะขึ้น ตอนนี้เรารู้สึกว่าอยากสอนเขาด้วยตัวเอง อยากเห็นพัฒนาการเขา ซึ่งตอนนี้ก็รับแต่ก็ดู อันไหนที่กินเวลาเรามากๆ เราก็ไม่เอา เพราะเราเลือกว่าอะไรที่สำคัญกับเรามากที่สุด เวลากับลูกมันย้อนกลับคืนมาไม่ได้”
“เราไม่เสียดายเรื่องกระแส เราก็อยู่มาตั้งนานแล้ว กิ๊บไม่ได้รู้สึกว่ากระแสเราจะหายไป กิ๊บว่าแบบกิ๊บน่าจะหายากประมาณหนึ่ง ไม่ได้คิดว่าแบบกิ๊บมันจะมีมาบ่อยๆ นะ เลยไม่ได้รู้สึกว่าต้องเป็นกระแส เพราะเรายังต้องทำงานอยู่ทุกวัน ยังมีรายการตื่นมาคุยอยู่ ส่วนละครจริงๆ จะยังไม่รับ แต่ว่ามีคุยๆ กับผู้ใหญ่ที่ติดต่อมาไว้คนหนึ่ง เราคุยกันไว้ค่อนข้างนานแล้ว จะมีประมาณกลางปีเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราคิดว่าน่าจะนะ แต่ถ้าไม่รับก็คืออยู่กับลูกดีกว่า คือก่อนหน้านี้มีผู้ใหญ่ติดต่อมาเยอะมาก แต่ต้องขอโทษจริงๆ ที่ไม่ได้รับ”
บี้เผยเตรียมบินไปทำงานที่จีน 4 เดือน อาจจะพาเมีย-ลูกไปด้วย
บี้ : “จะบินไปช่วงมีนาคมครับที่จีน ตอนนี้สัญญาที่บริษัทน่าจะเซ็นกันแล้ว น่าจะใช้เวลาทำงานประมาณ 3 - 4 เดือนครับ อาจจะได้กลับมาบ้างแต่น้อย อาจจะเอาเขาไปด้วยครับ เริ่มแรกอาจจะไปคนเดียวก่อน พอถ่ายไปเรื่อยๆ ก็เดี๋ยวลองดู เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ผมก็ยังอยากที่จะทำในสิ่งที่ผมรักอยู่”
“จริงๆ ตัดสินใจไม่นานนะ เราสองคนคุยกันอยู่นานแล้วว่าต่อไปบี้อาจจะมีงานอยู่ต่างประเทศที่แพลนไว้ แล้วเขาก็เข้าใจและเชื่อว่าจะแบ่งเวลาทั้งงานและครอบครัวได้ดี”
ยิ้มกริ่ม หมอดูฟันธงจะรวยพันล้าน รับตั้แต่มีลูกทุกอย่างในชีวิตดีขึ้น
บี้ : “ใช่เนอะ หมอลักษณ์ช่วงนี้แม่นมากเลย ผมก็อยากให้แม่นเรื่องผมด้วยนะ ก็ขอให้เป็นแบบนั้น ตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่ามีเขาก็รู้แล้วว่าเรามีความสุขซึ่งเป็นอีกความสุขหนึ่งที่เราไม่เคยได้สัมผัสและทุกวันนี้เราก็มีครับ”
“การที่มีเขาตั้งแต่วันแรกที่รู้ก็รู้แล้วว่าเรามีความสุข เป็นอีกความสุขที่เราไม่เคยได้สัมผัส มีความสุขที่มีเขา ส่วนสิ่งที่เราห่วงเขามากที่สุดก็เป็นเรื่องสุขภาพ กลัวเขาป่วย ตั้งแต่เกิดมาตอนนี้ยังไม่เคยป่วยเลย มีแค่น้ำมูกเล็กๆ น้อยๆ แต่การที่เขาทานนมแม่อยู่แล้วก็เหมือนยารักษาไปด้วย ตั้งแต่มีเขามาผมก็โตขึ้น ต้องรับผิดชอบครอบครัวให้ได้”