(ชมคลิป) “จอย” ไม่สนดรามา “น็อต” ไม่ร่วมงานด้วย บอกเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ฝ่ายชายโวยคิดไปเอง

“น็อต วรฤทธิ์” โต้ทิ้งบอมบ์ไว้กลางรายการ กลับมาร่วมงานกับ “จอย รินลณี” ไม่ได้ บอกทุกฝ่ายคิดกันไปเอง ยันไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาโจมตีใคร เปิดใจเตรียมแต่ง “แจน” 14 พ.ค. เลือกคนที่อยู่ด้วยโดยไม่ต้องใช้ความอดทน เล็งให้ภรรยาเลิกเป็นแอร์ฯ ด้าน “จอย” เผย ยก “น็อต” เพื่อน แต่ห้ามความรู้สึกอีกฝ่ายไม่ได้



มาร่วมงานเปิดตัว “ease park” The land mark of happiness Community Mall เพื่อคนรามอินทรา นักแสดงหนุ่ม “น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์” เลยขอประกาศข่าวดีจะเข้าพิธีวิวาห์ “แจน” แฟนสาวในวันที่ 14 พ.ค. 60 บอกเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วไม่ต้องใช้ความอดทน

“ฤกษ์แต่งงานเป็นวันที่ 14 พ.ค. 60 จัดงานแค่วันเดียวเป็นงานเล็กๆ จัดที่ จ.เชียงใหม่ จริงๆ เราคุยเรื่องนี้กันไว้นานแล้วเพียงแต่ยังไม่ได้บอกใคร อยากให้เงียบๆ เฉพาะคนในครอบครัวและเพื่อนสนิท ส่วนที่จัดเชียงใหม่ เพราะแฟนผมเป็นคนเชียงใหม่ เลยไปจัดที่นั่นได้สะดวกกับญาติๆ เขา”

“งานวันนั้นจะเป็นพิธีแบบเหนือ จัดเช้าเที่ยงเสร็จ เราไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์เอาไว้ว่าถึงจุดอายุเท่านี้แล้วจะต้องแต่งงาน แต่เราถึงจุดที่เจอคนที่ใช่แล้วมากกว่า รู้สึกว่าคนนี้จะเป็นคนที่สามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิต เป็นคนที่เข้าใจความเป็นเรา ยอมรับในสิ่งที่เราเป็นได้และจะอยู่กับเราไปได้ตลอดโดยที่ไม่ต้องใช้ความอดทน แต่อยู่ด้วยกันด้วยธรรมชาติจริงๆ เรารู้จักกันมาประมาณ 5 - 6 ปี แต่คบกันจริงๆ ประมาณ 2 ปี”

บอกแฟนไม่อยากจัดงานหวั่นสิ้นเปลือง แต่ตนอยากให้เกียรติ ยังไม่คุยกันเรื่องลูก
“เรื่องลูกจริงๆ ผมตั้งใจจะมีเลย แต่พอเห็นพี่แนน ชลิตา มีลูกแล้วเหนื่อย เลยยังไม่คิดดีกว่า และผมกับแฟนยังไม่เคยคุยกันจริงจังเรื่องนี้ ว่า จะมีลูกเลยหรือเปล่า เอาแค่ว่าให้ผ่านวันแต่งไปก่อนดีกว่าเพราะเขาบอกกันว่าคนจะแต่งงานจะทะเลาะกันเยอะช่วงก่อนแต่งงาน”

“แต่ตอนนี้ยังไม่มีปัญหากัน เพราะผมตามใจเขาทุกอย่าง อยากได้อะไรบอกมา แต่โชคดีที่แฟนผมเขาไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย เขามองว่าในยุคของเราไม่ต้องแต่งงานก็ได้เพราะมันสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แต่เพื่อเป็นการให้เกียรติครอบครัวเขา เราก็ต้องจัดทำพิธี ให้ผู้ใหญ่ได้อวยพร เราเลยตัดสินใจว่านั้นจัดเป็นพิธีเล็กๆ ก็แล้วกัน”

“ส่วนเรื่องสินสอดไม่เยอะ ไม่มีตังค์ (หัวเราะ) มีเท่าไหร่ก็เท่านั้น อย่าเอาตัวเงินหรือวัตถุมาเป็นเครื่องวัดความรัก แค่เอาความรู้สึกของเราดีกว่า”

หลังแต่งอยากให้แฟนเลิกเป็นแอร์ฯ พ้องานประจำทำให้ไม่มีเวลาอยู่ด้วย
“ใจผมแต่งงานแล้วก็อยากให้แจนเลิกทำงาน เพราะเวลาเขาไปบินมันเหนื่อย แต่ถ้าเลิกแล้วจะกินอะไรล่ะ (หัวเราะ) เราก็ยังต้องทำงาน แจนเขาก็มีรายได้เสริมขายของออนไลน์ของเขาไป แต่ถ้าวันหนึ่งถึงจุดที่อยู่ตัว ก็อาจจะให้เขาเลิกทำงานประจำเพราะงานของเขาทำให้เราไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน ต้องบินตลอดเวลา อาจะเลิกหรือไม่เลิก ก็ต้องดูก่อน”

“การเตรียมงานแต่งตอนนี้เสร็จหมดแล้ว ไม่มีพรีเวดดิ้ง เหลือแค่เอาตัวเราไปร่วมงานตรงนั้น ส่วนเรือนหอก็ใช้บ้านที่เราอยู่ตอนนี้ ส่วนฮันนีมูนก็คงไม่ไปเพราะเราทำงาน แต่ปีนี้เราแพลนว่าอยากจะเที่ยวในประเทศไทยให้มากที่สุดแต่ต้องรอดูจังหวะและเวลา”

โต้ “กลับมาร่วมงานกันไม่ได้” หมายถึง “จอย รินลณี” ชี้พูดให้รายการสนุก ไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาโจมตีใคร
“ไม่ได้พูดถึงเขาเลย คิดกันไปเอง ก็ไปคิดกันเอาเองเพราะผมไม่ได้พูดนี่ว่าใคร แต่ถามว่ามีคนอื่นมาถามเรื่องนี้กับผมมั้ย ก็ไม่มีหรอก ไม่มีคนมาสนใจเรื่องของผมหรอกเพราะเรื่องมันผ่านไปแล้ว ไม่พูดถึงมันดีกว่า แต่วันนั้นที่ไปออกคลับฟรายเดย์ มันเป็นเรื่องราวมี่ผมพูดเรื่องความรัก ผมก็พูดให้ฟัง แต่โดยส่วนรวมทั้งหมดเราก็พูดเพื่อความสนุกสนานของรายการด้วย ไม่ใช่ว่าเราเอาเรื่องส่วนตัวมาพูด จนกลายเป็นการโจมตีคนอื่น มันไม่ใช่”

“ส่วนที่บอกว่าไม่สามารถร่วมงานกันได้ ก็ไม่ร่วมดีกว่า ไม่เจอดีกว่า กับคุณจอยเองเราไม่รู้เลย เพราะเราไม่ได้เจอเขา แต่เขาคงไม่สนใจหรอก แต่อาจจะมีโอกาสเจอกันบ้างตามงานช่อง แต่ไม่ใช่เจอแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็มีบ้างที่เห็นเขาไกลๆ แต่ถามว่าเจอกันตามงานได้มั้ยก็ได้ครับ”

ด้าน “จอย รินลณี” เปิดใจระหว่างเป็นพิธีกรรายการเดอะวอยซ์ รอบชิงชนะเลิศ ยันห้ามความรู้สึกอีกฝ่ายไม่ได้ แต่ยกเป็นเพื่อนมาตลอด
“เรื่องเขาจะแต่งงานไม่มีโอกาสได้เจอกันเลยค่ะ ไม่ได้เจอเลยจริงๆ ค่ะ เหมือนไม่ได้ถ่ายละครด้วยกัน ไปงานเราก็ไม่ได้เจอค่ะ แต่ก็ได้เห็นข่าวเขาบ้างนะคะ คือ จอยก็ยังตามไอจีเขาอยู่นะคะ ลงอะไรก็ก็ไลก์ให้ตลอดเวลาค่ะ แต่บางเรื่องเราก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้ตามอ่านทุกข่าวค่ะ ถ้าเขาเชิญไปแน่นอนค่ะ จริงๆ ก็ยังรู้สึกดีใจกับเขานะคะที่จะแต่งงานแล้ว เราก็เห็นมาตลอด ก็ดีใจค่ะ”

ยกอีกฝ่ายเพื่อน ยันตนร่วมงานได้ แต่คงห้ามความรู้สึกคนอื่นไม่ได้ ถ้าน็อตจะมีอะไรในใจก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล
“เรื่องที่เขาพูดในรายการ คือ ถ้าถามจอยนะคะ จอยมีความรู้สึกว่าสามารถร่วมงานได้ปกติมาก ไม่ได้รู้สึกว่าเรากดดันหรือมีอะไร แต่มันก็เป็นเรื่องความรู้สึกส่วนบุคคล เราไม่สามารถที่จะห้ามได้ว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง แต่สำหรับจอยก็คือรู้สึกว่าก็ยังคงเป็นเพื่อนเสมอค่ะ”

“เรื่องที่คนมองว่าจบไม่สวย จอยรู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรที่มันไม่สวยนะคะ เรารู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้ว ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไร แต่ว่าถ้าบางคนเขารู้สึกว่ามันมีอะไรในใจ มันก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล เราก็เคารพในสิ่งที่เขาคิดหรือตัดสินใจค่ะ เราไม่มีการคุยกันหลังไมค์ ไลน์คุยกันเลยค่ะ”

“คือ เราก็เฉยๆ นะคะ (หัวเราะ) คือ เราก็รู้สึกว่าแต่ละคนก็อยู่ในจุดของตัวเอง สบายใจที่จะเป็นยังไง ถ้าสมมติว่าไปเริ่มคุย เขาอาจจะอึดอัดก็ได้ เราก็ไม่รู้ว่าจริงๆ เขาอยากจะคุยกับเราหรือเปล่า แต่จอยมั่นใจว่าถ้าเราเจอกันก็ทักทายกันนะคะ ก็เคยเจอกันตามงาน นานมากแล้ว เราก็ทักกันนะคะ เราก็ไม่ได้ดูตอนเขาไปออกรายการ ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ”

สุขภาพกลับมาแข็งแรงไม่น่าเป็นห่วงแล้ว
“ตอนนี้แข็งแรงดีปกติค่ะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ก็ยังมีไปเช็กสุขภาพ 4 - 5 ครั้งค่ะ ต้องเช็กเลือดอยู่ค่ะ คุณหมอก็บอกเรื่องพื้นฐานให้ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย แต่จอยเป็นคนค่อนข้างดูแลตัวเองอยู่แล้ว แต่บางทีบางโรคเราดูแลแค่ไหนมันก็เป็น แต่ตอนนี้จอยกลับมาอยู่ในภาวะที่ปกติมากๆ แข็งแรงเหมือนเดิมค่ะ รับงานได้เต็มร้อยค่ะ”

“ก็ไม่กังวลเลยค่ะ จอยเป็นคนที่ดูแลตัวเองอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว มีลิมิตในการทำงาน และดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอยู่แล้วในชีวิตจอยค่ะ”