เรื่องราวเกี่ยวกับ “คนหลายบุคลิก” หรือคนที่มี “หลายตัวตน” อยู่ในคนคนเดียว ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และหนึ่งในนั้น ก็คือต้นตอที่มาของตัวละครสุดหลุดโลกในหนังเรื่องใหม่ของผู้กำกับภาพยนตร์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสยองขวัญแบบมีชั้นเชิง อย่าง “เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน” เรื่องนี้ ... Split ...
Split ในคำแปลตรงตัว ก็คือ “แยก” หรือ “แตกออก” “แบ่งออก” การหยิบยกเอาคำนี้มาใช้กับหนังเรื่องดังกล่าว ก็สะท้อนตัวตนที่เป็นจริงของตัวละครสำคัญในเรื่องได้อย่างตรงไปตรงมา เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน ได้เค้าโครงตัวละครนี้มาจากเรื่องราวของชายคนหนึ่งซึ่งมีนามว่า “บิลลี่ มิลลิแกน”
จากประวัติเท่าที่เปิดเผย นายบิลลี่เป็นชาวรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เขาถูกจับในข้อหาปล้นและข่มขืนผู้หญิงสามคน อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่กำลังจะเข้าสู่กระบวนไต่สวนในชั้นศาล นายบิลลี่ก็สร้างความสับสนให้เกิดแก่ทนายของเขาด้วยการกระซิบบอกว่า เขาไม่ใช่บิลลี่ เพราะจริงๆ แล้ว บิลลี่ มิลลิแกน นั้นนอนหลับอยู่!!
และนั่นก็นำไปสู่การพิสูจน์กันอย่างขนานใหญ่ว่านายบิลลี่เป็นผู้ป่วยทางจิตจริงหรือเปล่า เพราะบ่อยครั้ง ฆาตกรก็มักจะอ้างเหตุผลทำนองนี้เวลาขึ้นศาลเสมอๆ แต่อย่างไรก็ดี เมื่อผลทางการแพทย์ออกมา ก็ยืนยันความจริงที่ว่า นายบิลลี่ ป่วยเป็นโรค “หลายบุคลิก” (MPD : Multiple Personality Disorder) จริงๆ โดยในตัวของนายบิลลี่นั้น มีตัวตนของคนอีก 23 ชีวิตอยู่ในตัวตนของเขา
จากการให้ข้อมูลของนายบิลลี่ เขาเล่าว่า ตัวตนแต่ละตัวในร่างของเขานั้นจะพากันยืมล้อมแสงสปอตไลท์ แล้วจะมีคนคอยตัดสินว่าใครจะได้เข้าไปอยู่ในแสงสปอตไลท์ (แง่มุมนี้ถูกผ่องถ่ายมาเล่นในหนังด้วยเช่นกัน) ซึ่งนั่นหมายถึงการมีโอกาสเปิดเผยตัวตนออกมา และ “คำพูดคำจา” “ท่าทางความคิด” ของนายบิลลี่ที่แสดงออกให้คนทั่วไปเห็น ก็จะเป็นคนคนนั้น
จากข้อมูลที่มี หลังจากถูกวินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรคนี้จริงๆ นายบิลลี่ได้รับการรักษาจากจิตแพทย์นานหลายปีจนหายดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่วายที่จะต้องโดนรุมประณามจากชาวบ้านและสื่อมวลชนจากการที่เขาได้รับการยกเว้นโทษจองจำ (เพราะป่วยทางจิต) แต่ชีวิตของนายบิลลี่ก็ไม่ได้อยู่ปกติสุข และเพราะเหตุนั้น เขาจึงมีการ Split หรือแบ่งแยกตัวเองเพื่อต่อสู้กับสถานการณ์ชีวิตดังกล่าว ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งก่อเกิดเป็นบุคลิกที่ 24 นั่นก็คือ “ศาสตราจารย์” ขึ้นมา ซึ่งเขาบอกว่าเป็นบุคลิกที่เหมาะสมดีงามที่สุดแล้ว
เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน ผู้กำกับที่เคยโด่งดังมากๆ จากหนังเดอะ ซิกซ์ เซ็นส์ คงเล็งเห็นว่าเรื่องราวลักษณะนี้มีมุมให้เล่นน่าสนใจ จึงหยิบมาทำเป็นหนัง และจากผลลัพธ์เท่าที่ปรากฏ ต้องยอมรับว่า เขาทำออกมาได้ดีถึงดีมากๆ มันมีส่วนผสมทั้งลักษณะของความเป็นหนังจิตวิทยา มีแง่มุมของความเป็นปรัชญา หนังสะท้อนปมปัญหาเรื่องความรุนแรงที่แฝงอยู่ในหน่วยสังคมที่เล็กที่สุดอย่างครอบครัว และที่สำคัญที่สุดคือการเป็นหนังตื่นเต้นระทึกใจเขย่าขวัญที่เป็นทางถนัดของชยามาลาน เมื่อได้มวลสารตั้งต้นที่ดีอย่างเรื่องของนายบิลลี่มาเป็นวัตถุดิบ ก็ยิ่งหนุนส่งให้หนังมีมิติที่ลุ่มลึกและน่าติดตามไปด้วยในขณะเดียวกัน
ตัวเรื่องโดยย่อ เล่าถึงชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งลักพาตัววัยรุ่นสาวสามคนไปกักขังไว้ในสถานที่ลึกลับ ซึ่งแม้ว่าหนุ่มคนนี้จะไม่ได้ข่มขืนสาวสามคนเหมือนกับ “ต้นขั้วที่มา” อย่างนายบิลลี่ แต่การที่ได้พบกับชายคนนี้ ก็ไม่ต่างไปจากฝันร้ายของวัยรุ่นทั้งสามคน เพราะพฤติการณ์ของหนุ่มคนดังกล่าวนั้น ชวนให้รู้สึกประหลาดพิกลจนน่าขนลุก และเหลือจะคาดเดาได้ว่า นาทีต่อๆ ไป เขาจะทำอะไร และมันจะเกิดอะไรขึ้น สร้างความอลหม่านหวาดหวั่นระทึกขวัญทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวในห้องเล็กๆ ห้องนั้น
อันดับแรก คงต้องยอมรับว่า ตัวดารานักแสดงอย่าง “เจมส์ แมคอาวอย” นั้น เล่นได้ดีแบบชนะใจขาดลอย กับบทบาทของชายหนุ่มลึกลับที่ไม่มีใครรู้ในความปรารถนาอันแท้จริงของเขา เจมส์ต้องเล่นเป็นคนหลายคนในร่างเดียว น่าสงสัยเหมือนกันว่า ตอนที่เขาแคสติ้งเพื่อรับบทนี้ เขาอาจจะต้องแคสติ้งหรือลองแสดงเป็นหลายคาแร็กเตอร์ บางตัวนุ่มนวลอ่อนโยน บางตัวแข็งกร้าวดุดัน และบางตัวก็อ่อนไหวจนค่อนไปทางอ่อนแอ เป็นหลายๆ บุคลิกที่ต้องสื่อออกมาให้คนเห็นความแตกต่างให้ได้บนใบหน้าของคนคนเดียว การเข้าออกจากบุคลิกหนึ่งไปสู่อีกบุคลิกหนึ่ง เป็นสิ่งที่ต้องสมจริงทั้งสีหน้าท่าทาง น้ำเสียง และการวางตัวทุกอย่าง แต่เจมส์ แมคอาวอย ก็บอกกับคนดูอย่างชัดเจนว่าเขาเป็นมืออาชีพโดยแท้จริงสำหรับบทบาทการแสดงนี้ที่สื่อสารออกมาได้สมจริงทุกบุคลิก
Split ถือเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ผมเห็นว่า มีความเหมาะสมสำหรับใครก็ตามที่ชอบดูหนังตื่นเต้นระทึกใจ มีอะไรให้ลุ้นอยู่ตลอดเวลา ไม่มีช่วงเวลานาทีใดที่เราจะไม่ถูกตรึงอยู่กับเรื่องราว เพราะมันมีความน่าสนใจให้ติดตามอยู่ตลอด นับเป็นผลงานอีกชิ้นซึ่งถือว่าเป็นงานท็อปฟอร์มของผู้กำกับเอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน มันเป็นหนังสนุก เท่าๆ กับที่เป็นหนังซึ่งมีอะไรให้คิดเยอะพอสมควร
คือจะเก็บเกี่ยวเอาความบันเทิงในระยะเวลาราวๆ 2 ชั่วโมง ผมเชื่อว่าก็เต็มอิ่ม หรือถ้าจะไปกอบเก็บเอาเนื้อหามาคิดวิเคราะห์ ก็เหมาะสมดีงามเช่นกัน...
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม