“ปอย ตรีชฎา” รับไปเชียร์ “น้ำตาล ชลิตา” ที่ฟิลิปปินส์ ยันอีกฝ่ายทำดีที่สุดแล้ว บอกเป็นเดอะเบสท์ ยากมากจาก 85 เหลือแค่ 6 คนสุดท้าย เผยได้กลับไฟลต์เดียวกันแค่เรื่องบังเอิญ ได้มีโอกาสเป็นคนทำผมให้ก่อนออกมางานแถลงข่าว เล่าความถ่อมตนจากภายในของน้ำตาล ลั่นเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนชีวิต ภูมิใจแทน “ปู ไปรยา” โกอินเตอร์ ย้ำรักเหมือนน้อง วอนอย่าเปรียบใครปังใครแป้ก เป็นพลังงานด้านลบ ไม่ได้ประโยชน์
เป็นอีกหนึ่งคนที่ไปเกาะขอบเวทีเชียร์ “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 แบบสุดตัว สำหรับสาว “ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์” เพราะถึงขนาดบินไปร่วมเชียร์วันประกวดที่ฟิลิปปินส์ด้วย ซึ่งสาวปอยเผยว่าทั้งตื่นเต้นและดีใจแทน ถึงขั้นอยากเข้าไปร่วมเทรนด์ด้วยอย่างใกล้ชิดในฐานะนางงามรุ่นพี่เลยทีเดียว
“ตอนที่ไปเชียร์หัวใจเหมือนจะหลุดออกมาจากอกเลยค่ะ สถานที่จริงมันตื่นเต้นมากๆ บรรยากาศก็ลุ้นตลอดเวลา ได้เห็นโปรดักชันดีๆ ด้วย รูปที่เราถ่ายใส่มงกุฎคนแชร์เยอะอันนี้ยังไม่ทราบเลยค่ะ แต่ว่าก็ดีใจมากถ้ามันมีฟีดแบ็กที่ดี”
“แต่ที่ตัดสินใจไปเชียร์น้อง คือ เคยเจอน้องแล้ว แล้วเราก็เป็นแฟนนางงาม มีอะไรก็อยากเทรนด์น้อง และอีกอย่างคือคุณครูน้ำฝนที่สอนน้อง ก็เป็นครูที่สอนบุคลิกภาพปอยเหมือนกัน เลยมีโอกาสแนะนำผ่านกันไปผ่านกันมา เลยคุยกับครูน้ำฝนว่าทำยังไงจะได้ไปใกล้น้อง เพราะเราเคยประกวดเรารู้แล้วว่าคณะกรรมการที่มีผลต่อคะแนน เขาจะเลือกคนที่อะไร ก็เลยอยากที่จะไปใกล้น้องให้มากที่สุด ให้น้องไปถึงฝันให้มากที่สุด เท่าที่เราจะทำได้”
“ตอนนั้นน้องไม่ทราบค่ะว่าเราไปเชียร์ เพราะเขาจะยุ่งมาก จะติดต่อกับใครไม่ได้ ที่เห็นว่าปอยใส่มงกุฎตอนไปเชียร์ คือ จริงๆ แล้วที่นั่งของปอยถ้าใครซื้อที่นั่งตรงนี้เขาจะแถมมงกุฎให้เลย แบบอย่างดี คนละมง ใส่กันทุกคนสนุกมาก (ยิ้ม)”
“ตอนที่น้องเข้ารอบ 6 คนสุดท้ายเป็นอะไรที่แบบน้องทำได้ดีที่สุดแล้ว เป็นประวัติศาสตร์เลย 6 คนสุดท้ายไม่ได้เข้าง่ายๆ จาก 85 คนทั่วโลกสวยทุกคน ทุกคนเป็นเดอะเบสท์ของประเทศ ลองนึกว่ากรองจาก 85 คนเหลือ 6 คน มันยากมาก เราเห็นเลยว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ เห็นได้เลยว่านางงามแต่ละประเทศก็จะบ่งบอกถึงศักยภาพของประเทศนั้นๆ ด้วย ถ้าเราพรีเซนต์ความเป็นไทยก็ต้องดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ ปอยอยากให้ภาครัฐสนับสนุนในเรื่องตรงนี้ให้นางงามด้วยค่ะ”
เล่าความประทับใจในตัว “น้ำตาล” ลั่นมีความถ่อมตนจากภายใน ชีวิตจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
“ได้คุยกับน้องแล้วค่ะ นั่งเครื่องกลับมาด้วยกัน ไม่ได้เลือกนั่งมาไฟลต์เดียวกัน มันบังเอิญค่ะ ก็บอกน้องว่าต่อจากนี้ไปน้องจะเหนื่อยมากขึ้น ก็ภูมิใจ ชมน้องว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว อีกไม่นานนี้จะเห็นเลยว่าน้องจะมีพัฒนาการที่เหมือนจรวดเลย และความสำเร็จจะมากับความเหนื่อยต้องอดทนเยอะๆ ก็มีทำผมให้ก่อนออกมาแถลงข่าว ทำผมเฉยๆ ไม่ได้อะไรมากเลยค่ะ คือ จะลงเครื่องแล้วผมมันยุ่งนิดหน่อย ซึ่งเราก็ทำผมตัวเองอยู่แล้ว”
“ไม่ถึงขนาดเป็นพี่เลี้ยงนางงาม มันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าค่ะ น้องเป็นคนน่ารัก เชื่อว่าใครที่ได้เจอก็อยากช่วยเหลือเมตตา ปอยมีเรื่องประทับใจเยอะมาก ตอนที่น้องจะลงเครื่องก็ไม่รู้ว่าจะมีคนมารอเยอะขนาดไหน แต่ปอยพอเดาออกแล้วว่าต้องมีคนมารอ น้องก็ยังถ่อมตน คือ ด้วยท่าทางทุกอย่างเขาถ่อมตนจากข้างใน เราก็คิดในใจว่ามันจะเป็นก้าวสำคัญของน้องที่จะเปลี่ยนชีวิตน้องไปตลอดกาล ก็รู้สึกดีใจกับน้องตลอดเวลา แล้ววินาทีที่น้องเอาหวีออกมาให้ปอยหวี เป็นหวีเซเว่นธรรมดาค่ะ เรายิ่งรู้สึกแบบอยากจะให้ คือ จริงๆ น้องจะมีอะไรที่มากกว่านั่นก็ได้ แต่น้องก็ยังถ่อมตนอยู่เสมอ นี่คือ เสน่ห์ของน้องค่ะ เราประทับใจน้องในความถ่อมตน ในการไม่ยอมแพ้ของเขาค่ะ”
ชื่นชม “ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนเบิร์ก” โกอินเตอร์เป็นทูตสันถวไมตรี UNHCR ของประเทศไทยและคนแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกรักเหมือนน้องสาวแท้ๆ วอนอย่าเปรียบเทียบใครปังใครแป้ก ไม่ได้ประโยชน์ แถมเป็นพลังงานด้านลบ
“เราก็เคยคุยกันเรื่องนี้ค่ะ ก็ดีใจมาก ภูมิใจมากๆ เมื่อเช้าเห็นเขาแชร์คลิปของ UNHCR เราปลื้มมาก ชื่นชมเขามากๆ เสมือนว่าเขาเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเรา เขาก็ไม่เชิงมาปรึกษาค่ะ เราคุยกันมากกว่า เรามีอะไรหลายๆ อย่างที่สนิทกัน ช่างแต่งหน้าก็คนเดียวกัน เรามีอะไรหลายอย่างที่คล้ายๆ กัน เวลาเจอกันก็จะคุยกัน ก็มีแชร์ประสบการณ์กันบ้าง และก็เอาใจช่วย”
“คนมองว่าเขาโกอินเตอร์กว่า คือตอนนี้ปอยอยากให้มองในเรื่องของความภาคภูมิใจของน้องที่สุด ปอยคิดว่าการเปรียบเทียบเป็นสิ่งที่เป็นภาพลบ อยากให้ชื่นชมมากกว่า แต่ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้หรอกค่ะ มันเป็นพลังงานลบ มันไม่ควรจะคุยเรื่องแบบนี้ เราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้มากๆ ค่ะ ภูมิใจด้วย”