วิบากกรรมที่ต้องข้ามผ่าน เป็นกำลังใจให้เธอ “แพท-ณปภา”

เป็นข่าวดังชั่วข้ามคืน เมื่อปรากฏว่ามีชื่อของ “นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช” หรือ “เบนซ์ เรซซิ่ง” สามีของนางเอก “แพท-ณปภา ตันตระกูล” เข้าไปมีส่วนร่วมเกี่ยวกับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี 60/1” ปิดล้อมจับกุมตัว “นายไซซะนะ แก้วพิมพา” ผู้ต้องหาชาวลาวตามหมายจับศาลอาญา คาสนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ในข้อหาเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ โดยเบื้องต้นยึดทรัพย์สินได้ 74 รายการ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

โดยมีการนำกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้น “ร้าน area 51” ภายในซอยอินทามระ 51 ซึ่งเป็นร้านแต่งรถของเบนซ์ โดยมี “สารวัตรหมี พ.ต.ต.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์” เป็นหัวหน้าตรวจค้น ตามปฏิบัติการที่ทาง บช.ปส.ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจอายัดทรัพย์สิน เพราะจากข้อมูลเบื้องต้น พบว่ารถยนต์หรูยี่ห้อลัมบอร์กินี กัลลาร์โด (Lamborghini Gallardo) รุ่น Super Leggera LP 570-4 สีเทาดำ ที่มีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ ของเบนซ์ ซึ่งประกอบไปด้วยแมนชั่นย่านอินทมาระ, บิ๊กไบก์ มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญของท้าวไซซะนะ เพราะมีการให้ปากคำซัดทอดว่าทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดนั้น นำไปซื้อรถยนต์หรูยี่ห้อต่างๆ และหนึ่งในรถยนต์หรูถูกขายต่อมาให้กับเบนซ์

แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย และสามารถที่จะนำหลักฐานเอกสารการซื้อขายครอบครองมาแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเจ้าหน้าที่ได้

โดยในวันทีเกิดเรื่องนั้น แพทถึงกับยกเลิกการจัดรายการสด “ผู้หญิงถึงผู้หญิง” ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจได้ว่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใคร ก็คงมีอาการเดียวกัน คือตื่นตระหนก และต้องการเวลาในการปรับสภาพจิตใจ

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต และกระทบกระเทือนความรู้สึกของคนที่เป็นภรรยาไม่น้อย และก็ไม่แน่ใจว่าจะลุกลามบานปลายไปกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของครอบครัวหรือไม่ ? อย่างไร ? นั่นเป็นเรื่องของอนาคต

แต่ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ดังกล่าว ก็ทำให้คะแนนความเห็นใจ และกำลังใจทั้งหลายทั้งปวง ทั้งจากบรรดาแฟนละคร และแม้กระทั่งสื่อมวลชน ไหลบ่าไปที่แพท ซึ่ง ณ ขณะนี้กำลังท้องแก่ และมีกำหนดที่จะคลอดในอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์

หลายคนเชื่อมั่นว่าแพทเข้มแข็งพอที่จะก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้ เหมือนกับเรื่องร้ายๆ หลายๆ เรื่องที่ผ่านเข้ามาให้เรียนรู้ ต่อสู้ และเอาชนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว ที่ตัวเองต้องทำหน้าที่เป็นเสาหลักของบ้าน เรื่องของความรัก ที่ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างที่คนที่ติดตามข่าวคงได้รู้ได้เห็นมาตลอด

ตอนที่แพทประกาศว่าจะแต่งงานกับเบนซ์ หลายคนอดไม่ได้ที่จะร่วมแสดงดีใจที่มรสุมร้ายในชีวิตของเธอจะได้พัดผ่านเลยไป ชีวิตที่เคยล้มเหลวมาหลายครั้งหลายครา จะได้สมหวังเสียที กระทั่งเรื่องที่เธอเองก็ยอมรับว่า “ท้องก่อนแต่ง” ที่แม้จะผิดจารีตประเพณี แต่ด้วยความดีงาม และคุณค่าในตัวเธอ ทำให้ทุกคนมองข้ามเรื่องนี้

สำหรับเรื่องคดีความที่ยังไม่มีการฟันธงว่าเบนซ์มีความผิดจริงหรือไม่ เพราะต้องรอผลพิสูจน์ตามกระบวนการ แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ไม่ได้โยงใยว่าแพทมีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้อง แม้จะเป็นสามี-ภรรยากันก็ตาม เพราะก็ไม่จำเป็นที่ภรรยาจะต้องไปรู้เรื่องทุกเรื่องของสามี โดยเฉพาะเรื่องของสินทรัพย์ ว่าจะมีที่มาที่ไปอย่างไร ?

เอาเข้าจริงๆ โดยส่วนตัวรู้สึกว่าแพทเองคงไม่ได้สนใจเรื่องทรัพย์สินของสามีมากไปกว่าการอยากมีคู่คิด คู่ชีวิตที่พร้อมจะจับมือเดินร่วมทางกันไปด้วยซ้ำ เพราะที่ผ่านมา ชีวิตของเธอก็ต่อสู้ ดิ้นรน หาเงินด้วยตัวเองมาตลอด ฐานะแม้ไม่ได้ร่ำรวยล้นฟ้า แต่ก็อยู่ในระดับที่สามารถเลี้ยงดูตัวเอง และดูแลครอบครัวได้ จากประสบการณ์ความรักครั้งก่อนๆ ก็พอจะพิสูจน์ได้แล้วว่า แพทไม่ได้คบคนที่เงิน ไม่ได้มองคนที่สถานะทางสังคม ไม่สนใจว่าใครจะยากดีมีจนอย่างไร จะเป็นเด็กแว้น หรือเจ้าของธุรกิจหรู ถ้าคบหาแล้วสบายใจเธอก็คบ ไปด้วยกันไมได้ ก็จบ นี่คือแพท-ณปภา ที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว หรือใครจะเถียง ?

ว่าไปแล้วกรณีของแพท ก็ทำให้หวนนึกถึงเรื่องของ “อุ้ม-ลักขณา” กับแฟนหนุ่ม “บอล-กฤษณะ” ที่มีข่าวคราวคึกโครมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

ถามว่าอุ้มต้องไปรู้ทุกเรื่องของบอลหรือเปล่า ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นอย่างไร ? มีปูมหลังอะไรที่บิดปังซ่อนเร้น หรือบิดเบือนความจริงมาก-น้อยขนาดไหน?

คำตอบก็คือไม่ !! จะรู้ก็เท่าที่เขาบอก ไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปขุดคุ้ย หรือตามล่าหาความจริงอะไรกันมากมาย ส่วนถ้ารู้แล้ว จะจบ หรือจะคบต่อ ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละบุคคล

เช่นเดียวกับกรณีของแพท !!

ถ้าสมมติว่ามีการตัดสินแล้วว่าเบนซ์มีความผิดจริง แพทก็ต้องตัดสินใจเองว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร ? เพียงแต่การตัดสินใจของเธอ จะใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นที่ตั้งอย่างเดียวไม่ได้ แต่จะต้องคำนึงให้จงหนัก เพราะมีลูกที่เป็นความรับผิดชอบร่วม ระหว่างเธอกับเบนซ์รวมอยู่ในกระบวนการตัดสินใจครั้งนี้ด้วย

เอาเป็นว่า ณ วันนี้ ขอเป็นหนึ่งในแรงใจ และขอเอาใจช่วยให้เธอพ้นผ่านจากวิบากกรรมร้ายๆ ในชีวิตได้โดยเร็ว เพื่อจะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อมแบบพ่อ-แม่-ลูก อย่างที่เธอวาดหวัง

เป็นกำลังใจให้เธอ …..

“แพท-ณปภา ตันตระกูล”

ที่มา นิตยสาร ผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 377 4-10 กุมภาพันธ์ 2560