“เบิร์ด ธงไชย” ยันเสียงสูง ค่าตัวพรีเซนเตอร์ไม่ถึง 50 ล้าน แต่ยอมรับราคาเท่ากับบ้านหนึ่งหลัง ขำๆ ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เผย มีผู้จัดติดต่อเล่นละครพรึ่บ แต่เลือก แซวถ้าให้เล่นละครคู่ “แดง สุรางค์” ถึงจะยอมเล่น เปรี้ยวปากอยากเล่นบทตบจูบ ฟุ้งไม่ยอมแก่ เรียนแดนซ์เพื่ออัลบัมใหม่ รับภูมิใจแพทย์-พยาบาลคนไทย ช่วยเหลือเด็กต่างชาติช็อกบนเครื่องบิน
นานๆ ทีซูเปอร์สตาร์ระดับประเทศอย่าง “เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์” จะรับงานพรีเซนเตอร์สักชิ้นหนึ่ง ซึ่งล่าสุดก็โดดมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับแคมเปญ สบาย สบาย แบบสตรอง สตรอง ของโครงการ “สวอนเลค เขาใหญ่” ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย ชั้น 6 สยามพารากอน โดยมีข่าวว่างานนี้ฟาดค่าตัวไปกว่า 50 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งเบิร์ดได้ปฏิเสธทันควัน บอกว่าไม่ถึง แต่แค่ราคาเท่ากับบ้านหนึ่งหลังเท่านั้น
“ไม่จริงครับ น้อยกว่านั้น (หัวเราะ) เอาเป็นว่าเขาก็มีค่าขนมให้ แต่ค่าขนมของเขาก็คือค่าบ้านของเราได้เลย ก็ประมาณนี้ครับ ก็นานๆ ทำทีน่ะครับก็ให้สมกับสิ่งที่เราทำไปและสิ่งที่เขาจะได้ครับ ก็หวังว่าจะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพราะเบิร์ดอยู่ไหน เบิร์ดอยู่ตึกแกรมมี่ทุกคนก็รู้ ถ้าเบิร์ดไปโฆษณาสินค้ามากมาย อะไรไม่ดีเขาก็เอามาขว้างหัวเราได้ แต่อะไรดีก็มาชมกันได้ครับ เพราะว่าไม่หนีแน่นอน เพราะอันนี้ของดีจริงๆ ครับ เรียกว่า รับทรัพย์ตั้งแต่ต้นปีก็ได้ครับ ก็ไม่ได้ก้อนโตเท่าไหร่ ไม่ถึง 50 ล้าน (เสียงสูง) อยากจะให้เขามาได้ยินจริงๆ คุณค่าเบิร์ดน่ะเยอะนะครับ (ได้ค่าตัวพร้อมบ้าน?) ไม่ได้ๆ ครับ ก็คงจะให้สักโครงการนะเบิร์ดว่า”
“คือ ตอนนี้เรื่องเยอะมาก มันอินน่ะครับ มีความสุขอยู่ที่นั่น ไปอยู่ที่นั่นมาหนึ่งอาทิตย์มันดีจริงๆ อยากให้ได้ไปกัน เราอยากจะทำอะไรก็ได้ มันเหมือนในภาพวาดเลย เห็นปลา ขี่จักรยาน ดีต่อตัว ดีต่อใจ ดีต่อโลกใบนี้ด้วย อยากส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสได้อยู่กับธรรมชาติ ถ้าอย่างกรุงเทพฯ ก็จะเป็นสวนลุมฯ ที่มีที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ ตอนนี้เขาใหญ่ก็มีอยู่ที่เดียวเท่านั้นเองครับที่มีต้นไม้มากมายขนาดนี้ นอกนั้นก็จะลดหมดแล้ว และที่เบิร์ดสัมผัสมาตั้งแต่ตี 4 ยันพระอาทิตย์ตกทุกวันเนี่ยมันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ที่ควรจะได้ไปกัน”
“คือ อยากจะบอกทุกคนนะครับ เราอยู่บนพื้นที่สี่เหลี่ยม เราขี่จักรยานในกรุงเทพฯ เราก็หายใจไปแล้วมันไม่ได้กับตัวเราน่ะครับ ขี่จักรยานในกรุงเทพฯ เดี๋ยวก็จะไปนอนใต้ถุนรถสิบล้อซะ ไปที่นี่ เบิร์ดอยากให้ให้โอกาสกับตัวเองนะครับ ถึงแม้เราไม่มีเงินเป็นถุงเป็นถัง ลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ไปเห็นสิ่งที่ดีๆ แล้วมันจะเกิดเป็นแรงบันดาลใจที่อยากจะอยู่แบบนี้ ทำแบบนี้ ยังไงก็ได้ขอให้ไปดูครับ”
“งานที่รับต้องดีจริงครับ คือ เบิร์ดไม่ได้มีอาชีพทางด้านเป็นพรีเซนเตอร์ เบิร์ดมีอาชีพเป็นนักร้อง ฉะนั้น การที่เราจะบอกกับแฟนเพลงที่รักเรามา 30 ปี เบิร์ดต้องรู้ว่าของอันนั้นดียังไงถึงเขาจะเชื่อเรา ฉะนั้น ถ้าเบิร์ดจับอะไรแสดงว่าอันนั้นน่ะใช่ มีติดต่อมาเยอะมั้ยก็ไม่บอก ผ่าน (หัวเราะ) ปีนี้ไม่ใช่แค่ชิ้นเดียวมั้ยก็ผ่าน (หัวเราะ) ยังครับ ยังหาของดีๆ ไม่ได้ครับ หาของดีได้แล้วจะบอกครับ”
โวไม่ยอมแก่ เรียนเต้นเพิ่มทำอัลบัมใหม่
“กำลังเรียนเต้นครับ เพราะว่ากำลังจะทำอัลบั้ม ก็ต้องเข้าโครงการนี้ใหม่ เพราะว่ายังเด็กอยู่ก็เลยต้องเรียนเพิ่มครับ (หัวเราะ) เป็นอัลบัมเต็มครับ เป็นซิงเกิลไม่เอาแล้ว เอาเต็มเลยครับ มี 11 - 12 เพลง ก็จะได้แบ่งๆ กันชอบไป มีเอ็มวีเหมือนเมื่อก่อนนี้เลยครับ เพลงใหม่ทั้งหมด มีทั้งเพลงเร็วเพลงช้าแน่นอนครับ เรียนเต้นอังคารถึงพฤหัสบดี เรียนตลอดเวลาครับ 2 - 3 ปีที่ผ่านมา เพราะเวลาเราจะใช้งานเขา เราจะได้สั่งเขาได้ พวกกล้ามเนื้อเล็กๆ เนี่ย ถ้าเราไม่ใช้เขาเลยเขาจะงง ก็เรียนทั้งร้องทั้งเต้นตลอดเวลาครับ”
“เบิร์ดเติบโตมาจากอัลบั้มและแฟนเพลงของเบิร์ดเขาก็มีสิทธิเลือกด้วย 11 - 12 เพลง ใครชอบเพลงไหนก็เลือกได้ แต่ถ้าเกิดออกเป็นเพลงเดียวเบิร์ดว่ามันจะเป็นการบังคับให้เขาชอบอยู่เพลงเดียว แล้วแฟนเพลงเบิร์ดมีตั้งแต่ 2 ขวบ จน 80 นะครับ คือการมีอัลบัมมันก็มีทั้งเอ็มวี มีทั้งคอนเสิร์ตที่เราจะต่อยอดสนุกกับแฟนของเราได้ ก็คืบหน้าไปเยอะแล้วครับ จริงๆ ก็ใกล้แล้ว แต่ต้องให้เพอร์เฟกต์จริงๆ ถึงจะออกครับ ก็น่าจะกลางปีครับ ก็มีทีมแต่งเพลงหลายทีมนะครับ แต่พี่นิ่ม สีฟ้า กับพี่ดี้ (นิติพงษ์ ห่อนาค) เขาก็คอยคุมอยู่ ตื่นเต้นครับ นอนไม่หลับเลย กี่ปีแล้วไม่ได้ออกอัลบั้มก็ไม่นับได้มั้ย ผ่านเลย (หัวเราะ)”
เปรี้ยวปากอยากเล่นบทตบจูบ ขำๆ “คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ติดต่อให้ไปเล่นละคร บอกถ้าเล่นคู่กันถึงจะยอมเล่น!
“ละครอาจจะมีครับ ของคนใกล้ๆ นี่แหละครับ (หัวเราะ) มีมาทุกช่องเลยครับ แต่เบิร์ดต้องขอเวลาเท่านั้นเอง เพราะอย่างบางทีถ่าย 6 - 7 เดือน เหมือนตอนกลกิโมโนน่ะ เล่นซะดำเชียว (หัวเราะ) (คุณแดง สุรางค์ อยากได้ไปเล่นละคร?) ขอบคุณมากครับคุณแดง ถ้าเล่นคู่กับคุณแดง เบิร์ดจะไปเล่น (หัวเราะ) การเลือกบทของเบิร์ดก็คือต้องดี ต้องเด่น ไม่ใช่เอาใจเรา แต่ต้องเอาใจคนดูว่ามันดีพอมั้ยที่เราอยู่กันมานาน และจะรับงานต่างๆ คิดถึงเขาหรือเปล่า”
“เรื่องกลัวผู้จัดคนอื่นจะน้อยใจที่เล่นไม่ทั่วถึง โอ้โห ผ่าน (หัวเราะ) ก็อยากเล่นกับทุกคนเลยครับ แต่ต้องดูว่าบทไหนที่น่าสนุก เบิร์ดเป็นคนชอบทำงานอยู่แล้วครับ ถ้ามีอะไรดีๆ ก็เสนอมาเลย จริงๆ เบิร์ดอยากได้บทตลกนะ เพราะเบิร์ดเป็นคนขรึม อยากได้ตรงกันข้าม (หัวเราะ) ก็เป็นโรแมนติกคอมเมดี้เนอะ มีอะไรกันแล้วก็ทำ (หัวเราะ) มันเซ็กซีไง แต่เบิร์ดไม่ค่อยมีซีนแบบนี้ไง อยากตบจูบ”
เผยเจอเหตุการณ์ระทึกบนเครื่องบิน และภูมิใจที่เห็นหมอพยาบาลคนไทยช่วยเหลือคนป่วยต่างชาติ ขำๆ แอร์ฯ ส่งสายตากำราบห้ามยุ่ง
“ก็อย่างที่เราได้อ่านที่พี่น้อยได้เขียนไปมันเป็นความจริง เบิร์ดภูมิใจในความเป็นคนไทยกับการเป็นไทยมากๆ ที่เขาดูแลคนป่วยที่ไม่ใช่คนไทยด้วยนะครับ เบิร์ดเห็นกับตาเลยกำลังจะทานข้าวคือเหมือนในหนังเลย We need the doctor. Who is the doctor. แล้วคนข้างๆ เบิร์ดก็ยกมือ เหมือนในหนังเป๊ะ เราดูขั้นตอนที่เขาดูแลคนไข้บนเครื่องบินเรายังตื่นเต้นเลย คือเราถ่ายรูปตั้งแต่ข้างล่างจนขึ้นเครื่อง กำลังเซลฟีกับคนนั้นอยู่ เขาผละจากเบิร์ดไปโดยสิ้นเชิง คือมีเด็กป่วยครับ เขาก็ทิ้งไปเลย ไปดูแลเด็กจนเด็กไม่ช็อกแล้วครับ ฉะนั้นเราภูมิใจในไทยของเรา”
“ตอนนั้นก็ทั้งตกใจ ทั้งตื่นเต้นเพราะมันเหมือนในหนังน่ะครับ เห็นเด็กกำลังช็อก คนก็ตะโกนขอช้อนๆ แล้วพยาบาลก็บอกไม่ต้องๆ ค่ะ ขอน้ำเย็นค่ะ เบิร์ดก็โดนแอร์ฯ ส่งสายตามากำราบว่านั่งที่ พี่เบิร์ดอย่ายุ่ง (หัวเราะ) คือแอร์รู้จักกันน่ะครับ เราก็นั่งลุ้น พอเสร็จเบิร์ดก็บอกว่าเบิร์ดขอขอบคุณแทนทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณคุณหมอ ขอบคุณพยาบาล ขอบคุณที่ดูแล ถ้าเกิดมีอะไรไม่ดีเดี๋ยวเบิร์ดเป็นพยานให้เลย”