“ปุยฝ้าย เอเอฟ” แฮปปี้ “แม็ค เอเอฟ” พาทัวร์ยุโรปสองต่อสอง 14 วัน ทำข้อตกลงห้ามฝ่ายชายออกเงินให้ เปิดใจหมดเงินตะลอนทัวร์ 5 ประเทศ ไม่ถึงแสน เผย แม็คบอกรักในทุกๆ ที่ รีเทิร์นครั้งนี้แฮปปี้ ไม่เช็กโทรศัพท์ ยันเชื่อใจหลังอีกฝ่ายรับศีลสาบานจะไม่เจ้าชู้
กลับมารีเทิร์นรอบนี้ ความหวานยิ่งทวีคูณเลยทีเดียว สำหรับ “ปุยฝ้าย เอเอฟ” ณัฎฐพัชร์ วิภัทรเดชตระกูล กับหวานใจ “แม็ค วีรคณิศร์ วัฒนกานต์กุล” เพราะล่าสุดทั้งคู่จัดทริปสวีตยุโรป 14 วันไปกัน 2 ต่อ 2 โดยปุยฝ้ายเผยระหว่างมาร่วมงานทำพิธี “เบิกเนตรมังกร” การกลับมาของละครเวทีเรื่องยิ่งใหญ่ “ลอดลายมังกร เดอะมิวสิคัล” ณ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ เอสพลานาดชั้น 4 ลั่นทำข้อตกลงห้ามฝ่ายชายจ่ายให้เพราะต่างฝ่ายต่างสร้างเนื้อสร้างตัว และเป็นทริปที่แฮปปี้เวอร์ แม็คบอกรักในทุกๆ ที่
“ไปทริปยุโรปค่ะช่วงปีใหม่ จริงๆ ตั้งใจจะไปเที่ยวกันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะไปนานขนาดนี้ พี่แม็คเขาเป็นคนจัดการทุกอย่างหมดเลย ตอนแรกก็ตกใจตอนที่พี่เขาบอกว่าจะไป 14 วัน เพราะว่าไปนานมาก แต่ก็โชคดีตรงที่พี่เขาเก่งเรื่องการหาตั๋วหาที่พักมันก็เลยค่อนข้างถูก สำหรับทริปนี้เราก็ไปกันสองคนล้วนๆ เลย”
“แฟนคลับชอบถามว่าทำไม่มีรูปคู่เลย อันนี้เป็นเพราะว่าเราผลัดกันถ่ายรูปค่ะ จริงๆ พี่แม็คเขาก็ซื้อขาตั้งกล้องไปนะ แต่บังเอิญว่าเขาไปซื้อเลนส์ใหม่ซึ่งเป็นเลนส์ฟิกมันก็เลยค่อนข้างถ่ายยาก พอตั้งกล้องแล้ววิ่งเข้าเฟรมมันก็ไม่ชัดแล้ว แต่ทริปนี้ต้องขอบคุณพี่แม็คนะคะเพราะว่าเขาดูแลดีมาก”
ยันทำข้อตกลงอีกฝ่ายไม่ต้องออกเงินให้ สวีต 14 วันหมดเงินไม่ถึงแสน แถมได้ไปถึง 5 ประเทศ
“ค่าตั๋วเขาไม่ได้ออกสิคะ (เสียงสูง) คือ จริงๆ แล้วตั้งแต่รู้จักกันมาคบกันมาเราก็ไปเที่ยวด้วยกัน ซึ่งฝ้ายก็ทำข้อตกลงเลยว่าไม่ต้องออกให้ฝ้ายนะเพราะว่าวัยเราใกล้กันมาก เขาเองก็กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวฝ้ายเองก็เหมือนกัน และการไปเที่ยวครั้งหนึ่งมันก็ไม่ใช่ถูกๆ”
“14 วันค่าเครื่องบินกับที่พัก 13 คืน หมดไป 40,000 กว่าบาท และเราก็มีพ็อกเก็ตมันนี่ไปอีกคนละ 50,000 บาท สรุปก็คือ 14 วันนั้นไม่เกิน 100,000 บาทค่ะ และเราก็ไปกัน 5 ประเทศ คือเราบินตรงและก็ใช้วิธีเช่ารถขับด้วยมั้งมันก็เลยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย”
ปลื้มฝ่ายชายดูแลดี ตามใจทุกอย่าง ส่วนตนนั่งสวยๆ เป็นคุณนาย
“เราไปช่วงโลว์ซีซั่นของที่นั่นซึ่งมันหนาวมาก ก็เลยทำให้เห็นได้ชัดว่าเขาเสียสละ อะไรก็ตามที่เราไม่ไหวเขาก็ช่วยทำให้หมด เช่นเราต้องการกินน้ำแต่ไม่อยากลงไปซื้อเพราะว่าอากาศหนาว เขาก็เป็นคนลงไปซื้อให้ หรือเวลาเติมน้ำมันทั้งๆ ที่เราทำไม่เป็นทั้งคู่ แต่เราก็ไม่ลงไปช่วย นั่งเป็นคุณนายสวยๆ อยู่บนรถ และเราไปช่วงปีใหม่ก็ต้องมีโมเมนต์ไปเคาท์ดาวน์ ซึ่งเขาก็ถามนะว่าไปปารีสด้วยกันนะเพราะว่าที่นั่นสวย แต่พอถึงวันที่ 31 หนูเกิดรู้สึกหนาวขึ้นมา หนูก็เลยเปลี่ยนใจไม่ไปดีกว่า อยู่บ้านกินส้มตำแล้วนอน ซึ่งเขาก็อ้อนนะบอกว่าไปหน่อยมั้นอุตส่าห์มาทั้งทีแต่เราก็ไม่ไปค่ะ คือเขาตามใจเรามากๆ”
ฟุ้งฝ่ายชายแสดงออกว่ารักตนมาก บอกรักทุกๆ รออีก 3 ปีมีสิทธิ์แต่ง ลั่นไม่อยากรีบหวั่นไม่ได้รับบทสวยแซบอีก
“พี่แม็คไปรอบนี้ดีขึ้นมากเลย ปกติเขาจะเป็นผู้ชายที่ไม่สนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่ว่าครั้งนี้เขาแสดงออกว่ารักเรามากขึ้น เมื่อก่อนเขาจะนิ่งๆ เย็นชา แต่ครั้งนี้เขากลับบอกว่ารักเรามาก คือ บอกรักทุกๆ ที่ๆ เราไปด้วยกัน”
“เรื่องแต่งงานเราเคยคุยกันไว้ว่าเอาไว้ให้พี่แม็คอายุ 33 และฝ้ายอายุ 32 ก่อนดีกว่า ซึ่งตอนนี้พี่แม็คเขาก็ 31 แล้ว อาจจะใช้เวลาอีกสัก 2 - 3 ปี คบกันไปก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ไม่ได้ระบุว่าจะต้องแต่งกันเมื่อไหร่ คือ เอาที่พร้อมเป็นหลัก ไม่ต้องดูที่อายุหรอก เพราะทุกวันนี้จริงๆ เราก็ไม่ได้หวานขนาดนั้น คือรูปคู่ที่เห็นอาจจะดูหวาน แต่ว่าปกติแล้วเราใช้ชีวิตกันเหมือนเพื่อน ซึ่งเอาจริงๆ ก็ยังไม่อยากแต่งนะเพราะยังทำงานกันเยอะอยู่ ซื้อบ้านให้แม่ ทำโน่นนี่ให้ครอบครัวให้ตัวเอง ก็ต้องยอมรับว่าถ้าแต่งงานไปงานการมันก็ต้องเปลี่ยน อาจจะไม่ได้บทที่สวยแซบอะไรมากมายแล้ว เพราะเราคงต้องเกรงใจซึ่งกันและกันด้วย แต่ตัวพี่แม็คเองจริงๆ เขาก็เคยพูดนะว่าอยากแต่ง แต่อย่างที่บอกเราต้องทำตัวให้พร้อมก่อน ฉะนั้น เราก็เลยยังไม่รีบ”
มั่นใจเป็นคนที่ใช่ หลังเกิดเรื่องอีกฝ่ายเป็นคนดีขึ้น
“ต้องบอกเลยว่าหลังจากที่เกิดปัญหาเขาดีขึ้นเยอะมาก และก็มีคำมั่นสัญญาบางอย่างที่ทำให้ฝ้ายรู้สึกได้ว่าเป็นคนดีแล้ว หลังจากนี้คือทำทุกวันให้ดีต่อไป ก็คือคนนี้แหละที่เราเลือก แต่อะไรๆ มันก็ต้องดูต่อไปเรื่อยๆ”
จิกถ้าใครอยากเข้ามายุ่งก็ลองดู ถ้าคนของเรายังเล่นด้วยก็เชิญค่ะ!
“ถ้าเขากล้ามาก็ลองดู ถ้ากล้าก็เก่งอ่ะ หมายถึงถ้าผู้หญิงคนนั้นรู้ว่ามีแฟนแล้วก็ยังเข้ามา หรือคนของเราก็ยังไปเล่นกับเขาด้วย ฝ้ายก็ขอเชิญเลยค่ะ”
“เราก็คุยกันกับพี่แม็ค เรื่องนี้ต้องเคลียร์ให้ชัด ซึ่งเราก็คุยว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้หลังจากที่เลิกกันไป แต่ถ้าจะกลับมาคุยกันมันต้องไม่มีเรื่องแบบนี้อีก ถ้ารู้สึกว่าเรายังหนุ่มเรายังใช้ชีวิตได้อีกก็ไป และก็ปล่อยเราไป คือ เรายังเป็นเพื่อนกันได้ แต่ถ้าคิดจะกลับมาแล้วต้องไม่มี ฝ้ายไม่เคยเช็กโทรศัพท์เขาเลย”
ยอมรับช่วงที่เลิกแม็คลองศึกษาผู้ชายคนอื่น ทำให้รู้ซึ้งอีกฝ่ายเป็นคนที่ดีที่สุดคนหนึ่งในชีวิต เผยเชื่อใจเพราะอีกฝ่ายลงทุนไปรับศีลสาบานจะไม่เจ้าชู้ เข้าไปขอขมาพ่อแม่
“จริงๆ ต้องบอกว่า ช่วงที่เลิกกันไปเราก็ได้เรียนรู้คนอื่นๆ เหมือนกัน แล้วเราก็เห็นว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ดีที่สุดในชีวิต อาจจะมีเรื่องที่พลาดไป ครั้งแรกเราให้อภัยได้ การที่จะกลับมาคบกัน แล้วเรายังทู่ซี้คบกันทั้งทั้งที่ไม่มีความสุข ยังไม่ให้อภัยเต็มร้อย เราก็เลยขอให้เขาไปขอขมาพ่อแม่เรา 2 ไปรับศีลเหมือนที่เรารับ ซึ่งมันก็เหมือนกับเป็นการสาบานว่าจะไม่เจ้าชู้ พี่แม็คเขาก็ทำทั้งหมด นอกเหนือจากนั้นเราเองก็ต้องดูกันไปเรื่อยๆ เพราะจากที่คบกันมาเขาก็ไม่ใช่คนไม่ดีก็รอดูกันไป เรื่องแบบนี้วงการไหนๆ มันก็มีทั้งนั้น ส่วนหลังจากนั้นจะมีสาวๆ เข้ามามั้ยเราก็ไม่รู้หรอก เพราะฝ้ายไม่ได้เช็ก แต่ฝ้ายก็เชื่อเสมอว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีฝ้ายจะรู้เอง สัญชาตญาณเราแม่นมาก อย่างตอนนี้กลายเป็นฟรีแลนซ์ทำงานหลายที่มากก็จะมีผู้หวังดีมาบอกเยอะแยะ ซึ่งฝ้ายก็บอกว่าไม่เป็นไรเอาเถอะ”
“ทำพิธีรับศีลจริงจังค่ะ เป็นการรับศีลตลอดชีวิต ซึ่งฝ้ายก็รับก่อนเขานานแล้วตั้งแต่ 3 ปีก่อนที่เราคบกัน เรารู้สึกว่าอันนี้เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเรา เรารู้สึกว่าคนเราจะรักกันได้ต้องมีศีลเสมอกัน จริงๆ แล้วการรับศีลไม่ได้เป็นประเด็นหลักสำคัญ ของแบบนี้มันอยู่ที่การประพฤติตัวของแต่ละคน เพียงแค่อันนี้มันคือความอุ่นใจของเรามากกว่า ในที่สุดมันก็คือการใช้ชีวิตในอนาคตว่าจะเป็นยังไง แต่ ณ เวลานี้ ก็ขอบคุณเขาด้วย ที่ทำทุกอย่างให้ดีขึ้นจริงๆ ไม่ใช่แค่ดีขึ้นเรื่องผู้หญิง แต่ดีขึ้นในทุกๆ อย่าง”
ปรับเรื่องความใจร้อน บอกตอนนี้ใจเย็นมากขึ้น
“เรื่องความใจร้อน เพราะฝ้ายเป็นคนที่โผงผาง ใจร้อนมาก ซึ่งเขาก็จะคอยเตือนเสมอว่าบางทีเราไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นก็ได้ ซึ่งพอฝ้ายมามองตัวเองมันก็เป็นอย่างที่พี่เขาบอกจริงๆ ก็เลยพยายามปรับ ซึ่งตอนนี้เขาก็บอกว่าเราใจเย็นมากขึ้น”