“ก้อย รัชวิน” ขอชี้แจงแทน “ตูน บอดี้แสลม” หลังแฟนหนุ่มถูกโจมตีหยิ่งไม่ยอมให้แฟนคลับถ่ายรูป เจ้าตัวเผยวันนั้นกำลังร้องเพลงเซอร์ไพรส์วันเกิดตน ตูนแค่อยากมาอยู่ร่วมในโมเมนต์เลยไม่สะดวก ต้องขอโทษทุกคนที่ทำให้รู้สึกไม่ดี ยืนยันแฟนหนุ่มไม่เคยปฏิเสธคนที่รัก
“ก้อย” แจงแทน “ตูน” กรณีหยิ่งไม่ยอมถ่ายรูปกับแฟนคลับ ยันแฟนหนุ่มไม่เคยปฏิเสธคนที่รัก
“ตูน บอดี้แสลม - อาทิวราห์ คงมาลัย” ควง “ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ” มาร่วมงาน “ตัดช่วยใต้”#เกิดมาช่วย เพื่อหาเงินรายได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งถ้าคู่ก็ได้ลงพื้นที่และร่วมบริจาคเงินส่วนตัวและเปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือชาวบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาแล้ว ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย แต่ก็ไม่วายมีเรื่องให้รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อมีข่าวว่า มีคนไม่พอใจตูนไม่ให้ถ่ายรูป ถึงขั้นตะโกนว่า หยิ่ง ทำเอาตูนต้องเข้าไปขอโทษน้ำตาคลอ โดยตอนแรกตูนปฏิเสธจะตอบคำถามดังกล่าว แต่ก็ได้ชี้แจงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นสั้นๆ ว่า
ตูน : “อ๋อ... (สีหน้าลำบากใจ) คือ ผมมองข้ามเรื่องพวกนี้อยู่ตลอดเวลานะครับ ไม่พูดดีกว่า ผมว่าเขาไม่ได้ตั้งใจหรอก ผมคิดว่าเราทำทุกอย่างด้วยใจจริงอยู่แล้ว เราคิดว่าเราทุ่มเททุกวินาทีในสิ่งที่เราตั้งใจทำทั้งบนเวทีและล่างเวที ใครที่ได้มากได้น้อยก็เป็นธรรมชาติ เราพยายามเข้าใจมากกว่าครับ”
ก้อย : “ก้อยขออนุญาตพูดได้ไหมคะ เพราะว่าก้อยอยู่ในเหตุการณ์ อยากจะขอโทษหากทำให้รู้สึกไม่ดี เพราะจังหวะนั้นเป็นจังหวะที่เขายกเค้กมาเซอร์ไพรส์ก้อย แล้วพี่ตูนกำลังร้องเพลงให้เด็กๆ กำลังร้องเพลงอยู่ แล้วเหมือนพี่ตูนจะเข้ามาแสดงความยินดีกับเรา อยากจะอยู่ในโมเมนต์ที่เรามีความสุข และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงนั้นไม่ใช่ไม่เต็มใจหรืออะไร พี่ตูนไม่เคยไม่เต็มใจ ไม่เคยปฏิเสธคนที่รักเขาเลยค่ะ เพียงแค่จังหวะตรงนั้นเขาอาจจะทำอย่างอื่นอยู่ เขาอาจจะยังไม่พร้อม ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เขารู้สึกแบบนั้น ก้อยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และมั่นใจได้ว่าพี่ตูนไม่มีทางที่จะไม่เต็มใจเลยค่ะ”
นอกจากนั้น ตูนและก้อยยังได้กล่าวถึงการมาร่วมงานครั้งนี้ว่า....
ก้อย : “เป็นกิจกรรมที่ดีมากเลยค่ะ คือ ตอนนี้เราเห็นอยู่ว่าสถานการณ์ทางภาคใต้หลายจังหวัดอุทกภัยมันหนักหนาสาหัส หลายคนที่ช่วยเหลืออย่างตัวเราเองหรือพี่วู้ดดี้เอง ก็เป็นกระบอกเสียง เป็นสะพานบุญอันใหญ่มากที่ได้มารวมตัวกันทำอะไรดีๆ เพื่อคนที่เขาเดือดร้อนจริงๆ ไอเดียนี้เป็นไอเดียที่เจ๋งมากค่ะ”
ตูน : “ทุกคนไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ก็อยากทำอาชีพของตัวเองให้เป็นประโยชน์ ช่างตัดผมก็เช่นเดียวกัน เขาอยู่ที่ร้านเขาก็อยากจะช่วยก็ไม่รู้จะทำยังไง จะออกมาวิ่งก็ไม่ใช่ ผมก็คิดว่าเป็นไอเดียที่ดีมากที่เจาได้ทำสิ่งที่เขาถนัดอยู่แล้ว ได้ตัดผมให้คนด้วย ได้มีความสุขด้วย สุดท้ายแล้วก็ได้ช่วยการกุศลได้ด้วย ก็เป็นโครงการที่เจ๋งมากครับ”
ก้อย : “วันนี้เราก็มาช่วยเป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์ค่ะ เราตัดผมไม่เป็นให้ช่างตัดดีกว่า ตอนที่เราวิ่งก้าวคนละก้าว พี่วู้ดดี้เองก็มาช่วยวิ่งโดยที่เราไม่ได้เอ่ยปากขอเลยค่ะ และยังเป็นกระบอกเสียงช่วยเป็นสื่อกลางในเรื่องของการถ่ายทอดสด ช่วยไลฟ์ เยอะแยะมากๆ ในวันนี้พี่ชายของเราเขาทำสิ่งนี้เราก็รู้สึกว่าเราอยากช่วย มาซับพอร์ตให้มากที่สุดที่จะทำได้ อย่างพี่ๆช่างตัดผมที่มาวันนี้ทุกคนค่าตัวตัดผมทีแพงมากๆ บางคนหลักพัน บางคนเป็นหมื่น”
ตูน : “วันนี้เขายอมทิ้งรายได้ตรงนั้นมา เดี๋ยวจะช่วยบริจาคด้วย”
ก่อนหน้านี้ “ตูน-ก้อย” ก็ได้ลงไปช่วยน้ำท่วมที่บางสะพาน
ก้อย : “อันนั้นเป็นการไปช่วยเหลือโรงเรียนค่ะ คือ มันเริ่มต้นจากที่เราไปวิ่งที่บางสะพาน แล้วก็ได้รู้จักกับคนในพื้นที่ พอเกิดน้ำท่วมเขาก็ติดต่อมาว่าเกิดความเดือดร้อนตรงนี้ ซึ่งมีหลายโรงเรียนมากในบางสะพาน ที่ประสบปัญหาอุทกภัย มีชาวบ้านเดือดร้อนมากๆ เราก็คิดว่าสิ่งที่เราจะทำได้ตรงนี้ เริ่มแรกเราก็ประสานไปให้คุณบอย ช่วยทำข้าวกล่องไปช่วยผู้ประสบภัย”
ตูน : “ตอนนั้นสิ่งที่ต้องการเร่งด่วนมันไม่ใช่เงินละ บางคนติดอยู่บนถนนเป็นวัน ก็ส่งอาหารส่งน้ำเข้าไปให้พื้นที่ที่ต้องการจริงๆ หลายคนก็ตอบกลับมาในอินสตาแกรม ว่า ขอบคุณมาก คุณพ่อเขาติดอยู่ในรถทัวร์ได้ข้าวกล่องไปมันช่วยเขาได้จริงๆ เราก็รู้สึกว่าบางจังหวะไม่ได้ต้องเงิน บางจังหวะต้องการกำลังใจ หรือบางจังหวะต้องการแค่ข้าวกล่องเดียว เพราะอยู่ที่นั่นต้องช่วยกันตั้งแต่หน้างาน รวมถึงระหว่างที่งานเกิด หรือน้ำท่วมเกิด รวมถึงหลังจากน้ำได้พัดผ่านไปแล้ว มันก็ยังทิ้งอะไรหลายๆ อย่างให้ได้ยังช่วยกันอยู่ ตรงนี้ผมคิดว่าสิ่งที่เราทำกับบางสะพาน มันเป็นแค่จุดเล็กๆ ที่เราทำได้ เงินวันนี้เราไม่ได้บริจาคเพิ่มเติม แต่จากตลอดที่เราทำกันมาเราก็ใช้เงินส่วนตัวหลายแสนแล้วที่เราลงไป ผมว่าเรามีกำลังตรงนี้ที่เราจะลงไปที่อำเภอหรือจังหวัดหนึ่ง เราก็ทำเท่าที่กำลังเราจะทำได้ อย่างวันนี้พี่วู้ดดี้มีกระบอกเสียงเป็นล้านคนเขาก็ทำตามกำลังที่เขาจะทำได้ เป็นภาพที่สวยงามมาก”
ก้อย : “อาทิตย์ที่แล้วเราลงไปที่บางสะพานกัน ก็ขออนุญาตเปิดบัญชีเพื่อให้ทุกคนมาร่วมบริจาค ก็เป็นส่วนของสิ่งของ อุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน รองเท้า แต่พอคุณครูเขาส่งรูปมาให้ดู เราก็รู้สึกว่าต่อให้เราส่งของลงไปให้เขาในตอนนี้ เขามีชุดนักเรียนมีรองเท้า แต่เขาไม่มีที่เรียน มันก็น่าเศร้า เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะช่วยฟื้นฟูได้เร็วที่สุดคือการให้เงินไปฟื้นฟู”
ตูน : “บางที่เขามีความต้องการมันต่างกัน บางที่ไม่ได้ขาดแคลนชุดนักเรียน แต่ขาดแคลนโต๊ะเรียน อุปกรณ์การเรียน ก็ให้เงินไป ให้ผู้อำนวยการหรือคุณครูได้จัดสรรตามความจำเป็นของแต่ละที่จะดีที่สุดครับ”
ตอนนี้หลายคนมองว่าคู่เราเป็นคู่รักจิตอาสา คู่รักใจบุญ เรารู้สึกยังไงบ้าง
ตูน : “ผมมองว่าทุกคนทำนะ ไม่ใช่แค่เราสองคน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไรก็ตาม ไม่ว่าหน้ากล้องหรือหลังกล้อง ทุกคนทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ จริงๆ แล้วมีอีกหลายคนควรจะมาอยู่หน้ากล้องแทนเราด้วยซ้ำ สิ่งที่คนอื่นมาให้ค่ากับเรามันเกินตัวมาก เราคิดว่าคนอื่นทำเยอะกว่าเราอีก อยากให้หลายๆ คนมองถึงคนที่ทำตรงนั้นเยอะไม่ต้องมาหยุดอยู่ที่เรา เราต้องทำเพราะเราต้องทำ ถ้าเรารู้ปัญหาแล้วเราไม่ทำผมคิดว่ามันใช้ไม่ได้”
นอกจากนำเงินไปบริจาคให้กับน้องๆ แล้ว ยังมีเค้กไปเซอร์ไพรส์วันเกิดก้อย
ตูน : “ใช่ๆ คือ เราเห็นว่ามันเป็นวันเกิดแล้วก็มีน้องๆ ได้ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้เขา เราก็เลยบอกทีมงานว่าในระหว่างที่เราเดินทางไปเดี๋ยวช่วยเตรียมให้เราหน่อยนะครับ”
ก้อย : “เรียกว่าไม่เคย (หัวเราะ ) ล้อเล่น คือ ปกติพี่ตูนจะเซอร์ไพรส์ไม่สำเร็จ พี่ตูนเขาอยากจะให้อะไรก็ให้โต้งๆ เลย จะไม่มีมาเซอร์ไพรส์ ไม่ได้มีพิธีรีตองมาวางผงวางแผนอะไร แต่วันนั้นเราก็เซอร์ไพรส์มากเพราะเราไม่ได้คาดหวังอะไร เราไม่ได้มองว่าเป็นวันเกิดหรืออะไร มันแค่ส่วนหนึ่งที่ตรงวันพอดี สิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับก้อยคือการที่ทุกคน คนไทยทุกคนบริจาคเงินให้กับก้อยทั้งหมด 5 แสนบาท เราได้ไปช่วยโรงเรียนจากตอนแรกเราจะบริจาคแค่โรงเรียนเดียว กลายเป็นว่าจำนวนเยอะมากขึ้น เราสามารถกระจายความช่วยเหลือไปถึง 4 โรงเรียนได้ และเราได้เห็นหน้าตาเด็กน้อย คุณครู ยิ้มแย้มมีความสุข ใส่ชุดใหม่ มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มใบหน้าไปหมดเลย มันเลยเซอร์ไพรส์มากกว่า ที่เราได้ให้คนอื่นในวันเกิด มันมีค่ามากที่สุดสำหรับก้อยค่ะ”