xs
xsm
sm
md
lg

“จีจ้า” ลั่นถึงจะมีลูกแต่ไม่หยุดฝัน สักวันต้องโกอินเตอร์เหมือน “จา พนม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“จีจ้า ญาณิน” ลุยทำงานเพราะอยากมีเงินเพิ่ม เล็งโรงเรียนสองภาษาให้ “น้องเจย์เดน” สัญญาจะไม่ยัดเยียดวิชาการให้ลูก ฟุ้งยิ่งมีลูกยิ่งแข็งแรงกว่าเดิม ฝันสักวันต้องโกอินเตอร์เหมือน “จา พนม”

กลับมารับงานได้เต็มที่แล้ว สำหรับสาวนักบู๊ “จีจ้า ญาณิน วิสมิตะนันทน์” ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าตอนนี้ “น้องเจย์เดน” ลูกชายกำลังจะขึ้นอนุบาล 2 แล้ว ตนก็สามารถทำงานเต็มที่ได้ แต่แอบน้อยใจที่กลายเป็นลูกชายไปติดคุณยายแทนตน

“ตอนนี้กลับมารับงานเต็มที่ค่ะ จริงๆ ก็รับมา 3 ปีแล้วนะ หลังจากน้องเจย์เดนเริ่มโตน่ะค่ะ คุณแม่ก็ลุยงานค่ะช่วงนี้ ก็ต้องแบ่งเวลา เพราะดูแลลูกด้วย ทำงานด้วย ออกกองด้วย ซ้อมด้วย และน้องเจย์เดนไปโรงเรียนแล้ว จะขึ้นอนุบาล 2 แล้วค่ะ ก็ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่แล้ว และสมมติถ้าจ้าไม่อยู่บ้านก็จะมีคุณตาคุณยายดูแลค่ะ”

“ก็บอกเขาว่าแม่ต้องทำงาน ก็พยายามถ่ายรูปส่งไลน์ ส่งวิดีโอส่งคลิปให้ดูให้มากที่สุด บางทีเราไม่เจอเขา 1 - 2 วันไปออกกอง ก็ต้องบอกเขาว่าหม่ามี๊ไม่อยู่นะ หม่ามี๊ไปทำงานได้มั้ยลูก เดี๋ยวหม่ามี๊กลับมา เขาก็บอกว่าได้ ก็คิดว่าถ้าช่วงเขาเริ่มโตอีกหน่อยจะพาไปทำงานด้วย คือให้เขาเห็นว่าแม่ทำอะไร ให้เขาซึมซับว่านี่คือสิ่งที่แม่ทำ ทำทุกวันนี้เพื่อหนู เพื่อครอบครัวของเรานะ”

“เขาก็ไม่ร้องไห้นะ แม่นี่แหละจะร้องไห้ (หัวเราะ) โทร.ไปก็ไม่คุย กดวาง บอกวาง ไม่ว่าง เล่นอยู่ (หัวเราะ) เขาติดคุณยายมากค่ะ จริงๆ แอบน้อยใจนะ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่เข้าใจได้เพราะเราต้องออกมาทำงาน ช่วงนี้เป็นช่วงที่เขาจะจดจำเรื่องสัญญา ถ้าสัญญากับเขาว่าจะพาไปกินอะไรต้องพาไปนะ จำได้แม่นมาก บางวันเขาจะบอกความต้องการมาเอง อย่างน้องเจย์อยากไปช้อปปิ้ง อยากไปเที่ยว ก็ต้องพาเขาไป ถ้าสัญญาแล้วต้องทำ เพราะเขาจะจำ”

บอกเน้นให้ลูกเล่นกีฬาเยอะๆ รับแยกกับแฟนช่วยกันทำงาน
“เรื่องเรียนจริงๆ เน้นบูรณาการณ์ เน้นเล่น (หัวเราะ) เติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุข จ้าจะไม่ค่อยเน้นวิชาการ ไม่ยัดเยียดอะไรให้เขามาก ขอให้เขามีความสุข แข็งแรง ไม่ป่วยดีกว่า กินให้เยอะๆ ดูโรงเรียนไว้ให้แล้วค่ะ เป็นโรงเรียนสองภาษานี่แหละ ภาษาอังกฤษส่วนใหญ่จะใช้กับคุณพ่อเขากับคุณตา เรื่องกีฬานี่ยังไม่แน่ชัด แต่เขาชอบเตะฟุตบอลมาก เด็กผู้ชายน่ะ แต่ยังไม่ได้พาเข้ายิม เอาจริงๆ เราก็ห่วง เพราะเราก็รู้ว่ามันจะเจ็บตัวยังไง อันตรายตรงไหน ก็เดี๋ยวโตแล้วให้คิดเอาเอง ให้เลือกเองว่าอยากทำหรือไม่อยากทำ แต่ตอนนี้ก็อาจจะให้เริ่มเล่นเทควันโดเบาๆ ไปก่อน”

“ตอนจ้าเองก็เริ่มเล่นเทควันโดตอนอายุ 11 อันนั้นได้เลือกเองด้วย ก็อยากให้เขาลองทำหลายๆ อย่างก่อน จ้าอยากให้เขาเล่นกีฬาเยอะๆ แต่เรื่องเรียนก็ไม่ทิ้งนะ แต่อยากให้แข็งแรงมากกว่า กับแฟนก็ช่วยกันทำงานค่ะ แยกย้ายกันไปทำงานก็บ่อย ตัวเชื่อมความรักส่วนใหญ่ก็ลูกนี่แหละค่ะ คุยกันก็ไลน์หากัน (หัวเราะ) เพราะเขาเป็นคนไม่หวานอยู่แล้ว จะลดงานเพื่อให้มีเวลาให้กันมากขึ้นมั้ย ต้องเพิ่มงานเพื่อให้เรามีเงินมากขึ้นมากกว่า (หัวเราะ) เพราะตัวเล็กก็โตขึ้นเรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายภาระเรามีเราก็ต้องทำ ก็ต้องเชื่อใจกัน เอาง่ายๆ อยู่ด้วยกันถ้ามันจะใช่ก็ใช่ แต่ถ้าวันหนึ่งมันจะไม่ใช่ก็ไม่ใช่ อยู่ด้วยกันเป็นเพื่อนกันไป ลูกเป็นเซ็นเตอร์ น้องอีกคนเหรอ (หัวเราะ) ยังหรอก มีอีกคนค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มอีกเนอะ”

บอกอยากมีโอกาสเล่นหนังโกอินเตอร์เหมือนอย่าง “จา พนม” ทัชชกร ยีรัมย์
“ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระค่ะ เป็นฟรีแลนซ์ งานก็มีเรื่อยๆ ค่ะ ส่วนใหญ่บู๊หมดเลย (หัวเราะ) ติดต่อมารู้เลยยังไงก็บู๊ งานโฆษณาที่เพิ่งรับของต่างประเทศก็บู๊ ร่างกายยังไหวค่ะ มีลูกไม่ได้เกี่ยวกับการเล่นกีฬานะ (หัวเราะ) จะบอกว่ามีลูกแล้วกลับมาเล่นนี่แข็งแรงกว่าเดิมด้วย เพราะเราห่วงตัวเองมากขึ้น วางตารางการกิน วางตารางการซ้อมมากขึ้น เพราะเริ่มมีอายุก็ต้องดูแลตัวเอง (หัวเราะ)”

“ผู้จัดการที่ดูแลงานต่างประเทศเป็นคนเดียวกันกับพี่จาค่ะ ไมค์เขาก็จะดูว่าบทนี้ๆ เหมาะกับใครก็จะส่งไปแคส กับพี่จาไม่ค่อยได้คุยอะไรกันเลย ช่วงนี้พี่เขาก็ไม่ค่อยว่าง ตอนนี้รู้สึกจะอยู่แอลเอ ตัวจ้าเองก็ทั้งกองละครด้วย แล้วช่วงนี้ก็มี HBO นานๆ ถึงจะได้มาเจอกันที ทวงบัลลังก์นักบู๊สาวเหรอ ชอบคำนี้จังเลย (หัวเราะ) เอาเป็นว่าเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดดีกว่า ไม่ได้มาทวงอะไรหรอก ก็อยากไปอย่างพี่จานะ พี่จาเป็นไอดอลของเราเลย ก็เป็นแรงผลักดันให้เราขยันมากขึ้น ต้องมีสักวัน”






กำลังโหลดความคิดเห็น