xs
xsm
sm
md
lg

“คุณชายอดัม” เปิดใจกว่าจะมาเป็น “ตำนานสมเด็จพระนเรศวร เดอะซีรีส์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำโปรเจ็กต์ใหญ่ออกมา สำหรับ ผู้จัดและผู้กำกับฯ “คุณชายอดัม” (ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล) ที่ส่งละครซีรีส์ประวัติศาสตร์เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เดอะซีรีส์” ป้อนให้ช่อง “MONO29” (โมโน ทเวนตี้ไนน์) เพราะเป็นซีรีส์สุดยิ่งใหญ่อลังการถึงขั้นยอมควักเงินเก็บทั้งหมดของตัวเองทุ่มทุนสร้างเพื่อให้งานออกมาอย่างสมพระเกียรติ และยังลงมือคลุกคลีในการทำงานทุกขั้นตอน เรียกว่า...กว่าจะมาเป็นซีรีส์ให้ได้ชมกันทำให้ “คุณชายอดัม” กดดัน!! ถึงขนาดนอนไม่หลับมาเป็นปีๆ เลยทีเดียว

การเตรียมงานเป็นยังไงบ้าง?

"สำหรับการทำเรื่องนี้มีความยากตรงที่ ต้องทำให้สมพระเกียรติ และต้องแม่นยำทางประวัติศาสตร์ เพราะเราทำหนังนเรศวรฯ กับท่านพ่อมา 10 ปี เรารู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายที่จะมีงานแบบนี้อีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นสเกลทีวีก็ตาม โดยเฉพาะความยากที่จะต้องไปรื้อโครงสร้างเก่าๆ ที่เคยทำไว้ทั้งหมด แล้วเอามาตีโจทย์ใหม่ ให้แง่ใหม่ๆ หามุมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และที่สำคัญเราไม่ใช่คนที่ทำเรื่องนี้เป็นคนแรก ที่ผ่านมาผู้ชมได้ซึมซับงานพีเรียดระดับสเกลใหญ่ๆ มาจำนวนมากแล้วทั้ง สุริโยทัย, นเรศวร, ขุนศึก, บางระจัน เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไรกับการนำเสนอ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวร” ในเวอร์ชั่นนี้ได้บ้าง ก็ต้องมาคิดวิธีการนำเสนอใหม่ ให้มีความทันสมัยขึ้น ยอมรับว่าต้องทำการบ้านอย่างหนักทุกส่วน โดยเฉพาะเรื่องนี้ผมจะตีความประวัติศาสตร์ในมุมของเรา ข้อมูลประวัติศาสตร์ก็ต้องเป๊ะด้วย นอกจากนี้ในส่วนของโปรดักชั่น, เทคนิคการสร้างทั้งเรื่องบท, การเลือกนักแสดง, การสร้างฉาก, แนวทางการวางภาพ, เสื้อผ้า, หน้า-ผม การคุมโทนสี รวมไปถึงการบริหารการจัดการนักแสดงและทีมงาน ในฐานะผู้กำกับฯ เราต้องรู้ทุกขั้นตอน จากประสบการณ์ที่เราอยู่กองถ่ายมาตั้งแต่ 8 ขวบ เรียนรู้จากการทำงานจริงจากท่านพ่อ และท่านแม่ ทำงานในกองถ่ายมาแล้วทุกตำแหน่ง อยู่ในทุกขั้นตอนการผลิต และมีทีมงานและนักแสดงที่รับผิดชอบในแต่ละฝั่งมาช่วยเกื้อหนุนกันครับ"
การคัดเลือกนักแสดงเป็นอย่างไรบ้าง

"การคัดเลือกนักแสดงจะมีด้วยกัน 3 ส่วนคือนักแสดงใหม่ถอดด้าม ไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อนเลย เราต้องการความสด ใหม่ของนักแสดงที่คนดูจะได้เห็น รวมถึงคาแรกเตอร์นักแสดงหน้าใหม่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกแตกต่าง ไม่ได้ขายที่หน้าตาเดิมๆ ที่คนรู้จัก ส่วนที่สองคือนักแสดงที่มีคุณภาพ แต่ไม่ใช่แบบพิมพ์นิยม คนเหล่านี้เค้าเก่ง เค้ามีของและกำลังรอที่จะปล่อยของอยู่ สุดท้ายคือกลุ่มนักแสดงที่มีประสบการณ์ทางการแสดงสูง เราต้องลืมเรื่องชื่อเสียงไปก่อน ถ้าทุกคนเล่นดีด้วยกันหมดมันจะช่วยให้ผลงานออกมาดีครับ"

การเลือกเสื้อผ้าและการแต่งกาย?

"เสื้อผ้าที่ใช้ในการถ่ายทำ มันคือความงามที่เสมือนจริง มีการเบรคสีผ้าด้วยการย้อมด้วยสีเทาหลายๆครั้งให้ออกโทนนุ่มขึ้นใช้การย้อมและซักด้วยมือทั้งหมด มีทีมซักผ้าทำงานต่างหาก มีฝ่ายตัดเย็บ ซ่อมแซมผ้า และรีดผ้าโดยเฉพาะ มีทีมผ้าโดยเฉพาะที่ไม่ได้เกี่ยวกับเสื้อผ้า เช่น ธง ผ้าปูตั่ง ปูเตียง ผ้าหมอน ยังไม่รวมไปถึงการจัดดอกไม้ในฉากทั้งหมด พวกนี้จะเป็นทีมอีกทีมนึง รวมทีมงานเหล่านี้ก็ประมาณ 12-15 คน วิธีการจัดผ้า จัดดอกไม้ก็ค่อนข้างจะแตกต่างกันหมดโดยสิ้นเชิง เพราะเราค้นคว้าหาข้อมูลมาอย่างละเอียดว่าแต่ละที่ใช้แบบไหน แต่ละสีก็จะบอกให้เห็นถึงคาแรกเตอร์ของตัวละคร ผม เครื่องประดับบนหัว ไล่ลงมาถึงคอ เครื่องประดับกับสีผิว ความยาวของคอดูโหนกแก้ม ดูรักแร้ว่ามีรอยเยอะมั้ย ดูหมดทุกอณูของร่างกาย ดูสัดส่วน แล้วดีไซน์เอาสีออกมา การเลือกผ้า ผ้าบางตัวมาจากพม่า จากช่างเก่งๆในพม่าซึ่งเราก็ไปเสาะหามา เหมือนพวกศิลปาชีพที่พม่า ผ้าบางชุดเป็นผ้าเก่าที่เรานำมาจากศิลปากร จากอาจารย์ท่านต่างๆที่มีอยู่ทั่วทุกภาคในประเทศไทยเครื่องแต่งกายส่วนใหญ่ 80% เป็นของใหม่ หลายคนอาจบอกว่าเรื่องนี้ใช้ชุดเก่าจากภาพยนตร์นเรศวรฯ หรือเปล่า บอกเลยว่าคิดผิด ผ้าหรือวัสดุที่นำมาตัดเป็นของใหม่มาจากอินเดีย พม่า และไทย แม้กระทั่งรองเท้าหนังที่เห็นทหารทุกคนใส่นี่ต้องสั่งทำจากอินเดีย เพราะที่เมืองไทยไม่มีใครทำได้ รองเท้า 300 กว่าคู่ เป็นหนังเส้นบางๆ ที่ขาดง่ายมาก ขาดก็ซ่อมเอา ค่อนข้างจะยุ่งยากมากๆ"

ฉากมีซ่อมแซมหรือทำใหม่ขึ้นมาอีก?

"สร้างใหม่เยอะครับ อย่างวังจันทร์ที่เห็นในภาพยนตร์นเรศวรฯ กับในนเรศวรฯ เดอะซีรี่ส์คนละอันกันนะครับ กุฎิมหาเถรเราสร้างใหม่มีแค่ศาลาอันเดียวที่ยังอยู่ โลเคชั่นบางอันเป็นของเดิมที่เรารักษาสภาพไว้ได้ดีอย่างตำหนักบุเรงนองที่เป็นตำหนักทอง ส่วนอื่นๆก็มีหลายอันที่สร้างใหม่เกือบทั้งหมดแต่ใช้โครงสร้างเดิม"

ภาพรวมคุณชายพอใจกับซีซั่นแรกขนาดไหน?

"พอใจมากครับ แต่ก็มีพื้นที่ปรับปรุงเพราะเป็นครั้งแรกที่ผมทำซีรี่ส์เลย เราตั้งป้อมที่เราจะถ่ายระยะยาว การวางแผนการทำงานมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้ตั้งแต่ตอนต้น เราเสียค่าโง่พอสมควร การที่จัดทุกอย่างในแง่ของทุกองค์ประกอบ ควบคุมนักแสดง 70 คนให้อยู่ในคิว มีนักแสดงใหม่ เก่า กลาง การฝึกฝน การควบคุมแสง การตัดต่อ การประสานงาน การเตรียมงานแต่ละสัปดาห์ การทำบท งานสร้างฉาก ทุกองค์ประกอบต้องสอดคล้องกัน ซีซั่นแรกเราได้งานทุกอาทิตย์ แต่เราไม่ได้ยกไปพร้อมกัน ถามว่าได้งานมั้ยได้งานแต่คนละจังหวะ มันก็เกิดความเสียหาย ใช้เงินมากขึ้น ใช้เวลามากขึ้น แต่พอซีซั่นถัดๆไป เราควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้ดีขึ้น นักแสดงเก่งขึ้น เราเอาปัญหาอย่างสุริโยทัย มาแก้ไขเป็นนเรศวรฯ 6 ภาค เราเอาความรู้จากนเรศวรฯ มาสร้างพันท้ายนรสิงห์ พอมาถึงซีรี่ส์เรื่องนี้เราก็นำพันท้ายนรสิงห์มาปรับใช้ ทำให้ซีรี่ส์ดูอินเตอร์มากขึ้น เรื่องนี้ต้องเรียนรู้ถือว่าเป็นการทดลองระดับหนึ่งแต่เป็นการทดลองที่พอใจ เพียงแค่เรารู้สึกว่าน่าจะใช้เงินน้อยกว่านี้นะ น่าจะใช้เวลาน้อยกว่านี้นะ น่าจะทำตรงนี้แทนเนอะ ก็ยังมีอารมณ์นี้อยู่แต่ก็พยายามลดอยู่ครับ"

ข้อมูลเหล่านี้ต้องศึกษา?

"อ่านทุกวันครับ ต้องเป๊ะ คือผมจะตีความประวัติศาสตร์ในมุมมองของเราด้วยครับ การอธิบายก็ต้องเป๊ะ พลาดไม่ได้ต้องเข้าใจมากกว่า ต้องอธิบายนักแสดงด้วย ข้อมูลอ่านจากพิกิมีเดีย เรียนรู้จากอินเตอร์เน็ต นักประวัติศาสตร์ รวมถึงอาจารย์ตุ้ย(วรยุทธ พิชัยศรทัต)ที่มาช่วยเขียนบท ท่านเป็นผู้กำกับละครพีเรียดที่แม่นที่สุด รู้ประวัติศาสตร์ เราคุยกันตลอด ปรึกษากันตลอด ทิศทางของเรื่องจะเป็นอย่างไร ถ้าจุดไหนที่มันหนักจริงๆก็จะถามอาจารย์สุเนตร ชุตินธรานนท์ ท่านจะเก่งประวัติศาสตร์ไทยและพม่ามากที่สุด"

ตั้งแต่ถ่ายทำมามีฉากไหนที่หนักบ้าง?

"ทุกฉากครับ มันหนักทุกวัน ถ่ายอย่างดุเดือดมาก เป็นการถ่ายที่เราต้องแข่งกับเวลา เรามีเอ็กซ์ตร้า มีฉาก ไฟ พร๊อพ แค่การวางไฟให้ครบทั้งฉาก ตีสโมกเข้ามา การแก้ไขสิ่งเล็กสิ่งน้อย อย่าลืมนะครับว่าเรากำลังอยู่ในโลก 400 ปีที่แล้ว อะไรก็ตามที่เป็นสมัยใหม่เราไม่สามารถหันไปเจอได้เลย มันก็เลยไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เราเชื่อว่าเราอยู่ในยุค 400 ปีที่แล้ว ไดอะล็อกเราเองก็แทบจะแก้ทุกอณูทุกบท มันไม่ได้ง่ายเลยครับ"

กดดันถึงขนาดนอนไม่หลับเป็นปี?

"พ่อพูดไว้ว่าการทำเรื่องนี้ผมจะนอนไม่หลับ ผมไม่เข้าใจหรอกว่าเป็นเพราะอะไร จนกระทั่งผมมาเริ่มทำตั้งแต่เปิดกล้องวันแรกจนถึงวันนี้ ผมไม่เคยได้นอนตาหลับสนิทซักครั้งและจะเป็นแบบนี้ไปอีก 2 ปี เพราะผมจะมีเรื่องอื่นๆ วนเวียนอยู่ในหัว เสื้อผ้าจะเป็นยังไง กล้องจะมีไหม เราจะดูแลปัญหา จิปาถะสัพเพเหระ ทุกๆ อย่างมันจะอยู่ในหัวของเรา ซึ่งทุกๆวันที่มีปัญหาเข้ามา เป็นรายชั่วโมงเลย เราต้องเก็บไปคิดนะ ถามว่ากดดันงานไหม เรากดดันกับงานเสมอ เราผลักดันตัวเองเสมอ ถามว่าผมเจ็บปวดกับงานไหม ผมเจ็บปวดมาก ผมเหนื่อยมาก แต่พอมาเปิดสิ่งที่เราถ่ายดูทุกคนภูมิใจกับมันผมก็โอเคครับ"

สุดท้าย “ตำนานสมเด็จพระนเรศวร เดอะซีรีส์”ซีซั่นแรกนี้ คิดว่ามันมีเสน่ห์อะไรยังไง?

"สำหรับ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เดอะซีรีส์ มันคือการปูพื้นเพทั้งหมด เราจะรู้ว่าเหตุใดเราจึงเสียกรุงครั้งที่1 เหตุใดพม่าจะรบกับไทย เหตุใดพระเจ้าสิบทิศบุเรงนองถึงชาญฉลาด ทำไมพระมหาธรรมราชาถึงเป็นเช่นนี้ ซีซั่นแรกเราจะผ่านการสววรคตของกษัตริย์ถึง 2 พระองค์ เราจะได้เห็นมากกว่าในหนังอีกสเต็ปหนึ่ง ผมหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์ให้กับหลายๆคน คงไม่ต้องบอกให้มารักชาติ แต่เราเรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดเพื่อที่จะใส่ใจกับอนาคต ความบันเทิงต้องเป็นหลัก แต่เราเรียนต้องรู้ว่าประวัติศาสตร์ให้อะไรกับเราบ้าง เราไม่ต้องบอกหรอกว่าคนเสียสละมากขนาดไหน แต่การที่เป็นประเทศมาได้ถึงปัจจุบัน มันผ่านอะไรมาบ้าง หวังว่าซีรีส์นี้จะไปตอบโจทย์ตรงนั้นได้ด้วยครับ"


กำลังโหลดความคิดเห็น