ต้องยอมรับในความแปลกใหม่เชิงไอเดียความคิดสร้างสรรค์สุดบรรเจิดจริงๆ สำหรับแอนิเมชั่นที่เพิ่งเข้าฉายในบ้านเราเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา และตอนนี้ก็ยังพอมีให้ได้ดูในโรงกันอยู่ ... เพราะสิ่งที่ Sausage Party หรือ “ปาร์ตี้ไส้กรอก” หยิบมาถ่ายทอดนั้น ลึกล้ำเหนือจินตนาการไปไกล แถมทำออกมาได้สนุกและฮุกด้วยเนื้อหาสาระครบครัน
อันดับแรกสุดที่ควรต้องซูฮก คือการคิดเรื่องราวขึ้นมา โดยจินตนาการว่า มันจะเป็นเช่นใด ถ้าหากอาหารที่เรียงรายอยู่ตามชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ต เกิดมีชีวิต มีความรู้สึกนึกคิดขึ้นมา แล้วพวกมันไม่รู้เลยว่า ตนเองนั้นจะต้องถูกมนุษย์มาจับจ่ายซื้อหาเพื่อนำไปทำอะไร พวกมันรู้เพียงว่า ข้างนอกซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นคือสวรรค์และมนุษย์คือพระเจ้าที่จะนำพวกมันไปยังสวรรค์นั้น
ด้วยไอเดียเพียงเท่านี้ ก็นับว่าประหลาดพอสมควรแล้วล่ะครับ แต่นั่นยังไม่พอ เพราะนอกเหนือจากการมีชีวิต สิ่งที่บรรดาอาหารหรือของกินเหล่านั้นยังมีอีกอย่าง คือ “ความเชื่อ” ที่ว่า การที่มีคนมาหยิบจับพวกมันใส่ลงตะกร้าหรือรถเข็นนั้น เปรียบเสมือนการได้ถูกคัดเลือกจากพระเจ้า และทันทีที่พวกมันถูกนำออกพ้นจากปากประตูซูเปอร์มาร์เก็ตไป ก็เท่ากับว่าการเดินทางไปสู่สรวงสวรรค์ที่เฝ้าฝันถึงนั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม “ความเชื่อ” “ความฝัน” นั้น จะจริงเท็จประการใด จะเป็นเช่นบทเพลงที่อาหารบางชนิดแต่งขึ้นแล้วขับร้องเต้นรำกันทุกเช้าเพื่อบอกเล่าเรื่องราวความสุขในโลกภายนอกซูเปอร์มาร์เก็ตหรือไม่ สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆ คลี่คลายให้เห็นชัด ผ่านเรื่องราวการผจญภัยของเหล่าอาหารการกิน โดยมีตัวละครหลักๆ สองตัว คือ “แม่สาวน้อยขนมปังฮ็อตดอก” ที่ตกหลุมรักกับ “พ่อไส้กรอกหนุ่มวัยคะนอง” ซึ่งจะต้องเผชิญสถานการณ์ร่วมกัน ไม่เพียงเพื่อพิสูจน์ความรักมั่น หากแต่ยังจะเป็นการเปิดโลกแห่งความจริงให้กระจ่างด้วย
หมายเหตุเพื่อบอกกล่าวเล่าแจ้งกันตั้งแต่บรรทัดนี้เลยนะครับว่า การ์ตูนเรื่องนี้ มีความเป็นผู้ใหญ่สูงมาก อย่างแรกคือเรื่องเรต ที่อเมริกา หนังเรื่องนี้ได้เรตอาร์ (R) ซึ่งเทียบกับที่บ้านเราก็คงเป็น 18+ คุณพ่อคุณแม่ที่เห็นโปสเตอร์ว่าเป็นการ์ตูน จะชวนลูกๆ ไปดู อาจต้องพิจารณาหน่อยนะครับ เพราะสิ่งที่คุณจะได้ยินได้ฟังและได้เห็นในหนังนั้น มันอุดมไปด้วยเรื่องแบบผู้ใหญ่ๆ เอาง่ายๆ แค่คาแรกเตอร์ของตัวละครก็สื่อไปในเรื่อง(อวัยวะ)เพศแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงว่า มุกตลกทะลึ่งตึงตัง การคุยกันเรื่องเพศแบบที่ผู้ใหญ่ทะลึ่งๆ คุยกัน (โดยเฉพาะตอนจบนี่ ตะลึงๆๆๆๆ มากๆ!!) หรือแม้กระทั่งเรื่องยาเสพติดและความรุนแรง พูดขนาดนี้ก็สรุปเลยแล้วกันครับ ถ้าอายุต่ำกว่า 18 ถ้าไม่ชัวร์ ก็ชะลอไว้ก่อน
สำหรับผู้ใหญ่...ใครที่เคยได้ดูหนังของดาราตลกกลุ่มๆ “เซ็ธ โรเกน” หรือ “โจนาห์ ฮิลล์” มาก่อน ก็อาจจะเก็ทง่ายและเข้าอกเข้าใจในสไตล์ของสองคนนี้ พวกเขามักจะมีมุมแห่งความทะลึ่งทะเล้นอะไรมาให้คนที่รับได้ตลกไปกับพวกเขาได้เสมอ ซึ่งสำหรับ “ปาร์ตี้ไส้กรอก” แม้ทั้งสองจะไม่ได้นั่งตำแหน่งกำกับ แต่ก็มีส่วนร่วมในการเป็นต้นคิดต้นขั้วของเรื่องราว (นอกจากร่วมพากย์เสียงและเป็นโปรดิวเซอร์) และแน่นอนว่า เมื่อยินดีกับเรตอาร์ พวกเขาก็เฮฮากับมันจนคุ้ม กลายเป็นหนังการ์ตูนฉายโรงที่มีความทะลึ่งตึงตังมากที่สุดเรื่องหนึ่ง
พูดมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่า ความฮาแบบมุกทะลึ่งๆ ทำไมต้องไปชื่นชมด้วย และเพราะอะไร คะแนนที่เมืองนอก ถึงพุ่งสูงกระฉูดขนาดนั้น?
ก็อย่างที่กล่าวไว้ตั้งแต่ย่อหน้าแรกครับว่า นอกเหนือไปจากมุกตลกที่ตอบสนองความสนุกได้อย่างดี งานชิ้นนี้ยังโดดเด่นมากในแง่ของการดีไซน์คาแร็กเตอร์ ขนมปังฮ็อตดอกมีเรือนร่างสวยสะองดั่งหญิงสาว ไส้กรอกที่มีจมูก ปาก หน้าตา แขนขา ราวกับเป็นคน และอีกหลากหลายตัวละครของกินที่ถูกเนรมิตให้มีรูปลักษณ์หน้าตาเหมือนสิ่งมีชีวิตทั่วๆ ไป มันทำให้พวกตัวการ์ตูนสัตว์พูดได้ กลายเป็นของธรรมดาไปเลย เพราะใครล่ะจะคิดว่าอาหารกระป๋องหรือของกินเล่นอย่างโดนัทจะมีหูมีตามีขามีแขนขึ้นมา แถมยังพูดจาและมีความรู้สึกนึกคิดเฉกเช่นมนุษย์ทั่วๆ ไป
และด้วยเหตุนั้น เอาเข้าจริง การทำให้สิ่งที่ไม่มีชีวิต กลายเป็นมีชีวิตขึ้นมาได้ จุดมุ่งหมายก็เพียงให้เป็น “บุคลาธิษฐาน” ดีๆ นั่นล่ะครับ เพราะหากจับเอาที่ตัวเรื่องราว สิ่งที่ “ปาร์ตี้ไส้กรอก” กำลังบอกเล่าให้เราฟัง มันก็ไม่ใช่สิ่งที่แปลกประหลาดจากนอกโลกแต่อย่างใด หากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในสังคมเราๆ นี่ล่ะ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมพูดว่า หนังนั้นมีเนื้อหาเป็นใหญ่มาก ไม่ใช่แค่เรื่องเพศ แต่เป็น “วุฒิภาวะ” และการแตะกับประเด็นต่างๆ อย่างแหลมคม เรื่องตลกทะลึ่งตึงตังเป็นเพียงพื้นผิว แต่ลึกลงไปยังเนื้อในนั้น หนังเรื่องนี้เล่นกับ “ความเชื่อ” และ “ความจริง” ที่อิงอยู่กับเส้นบางๆ ซึ่งแบ่งแยกระหว่าง “ความศรัทธา” กับ “ความงมงาย”
... เราจะมีชีวิตอยู่อย่างมืดบอดหรือค้นหาความจริง
หรือเราจะเอาแต่ความจริงโดยไม่ทิ้งพื้นที่ว่างไว้ให้กับสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจไว้เลย?
... ขณะเดียวกัน เรายังมีพื้นที่เหลืออยู่ไหมสำหรับความคิดความเห็นที่แตกต่าง เพราะก็อย่างที่รู้ พอเป็นสังคม เมื่อใครสักคน “แหลม” ขึ้นมา หรือดูมีความคิดผิดแผกแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ในสังคม เราจะถล่มเขาหรือลองตั้งสติฟังความคิดที่ต่างออกไปนั้น? ...
สรุปโดยย่อว่า ใครก็ตามที่ชอบตีความแก่นสารเนื้อหาจากภาพยนตร์ “ปาร์ตี้ไส้กรอก” นั้นมีสิ่งที่อยากบอกแบบแน่นปึ้ก เอาแค่การออกแบบตัวละครอาหารก็พอแล้วครับ พอได้เห็นตัวใดตัวหนึ่งแล้ว คุณอาจจะนึกไปถึงผู้คนในชุมชนโลกส่วนต่างๆ ทั้งอาหรับ แอฟริกัน อินเดียนแดง ฯลฯ เรียกว่าหลากเผ่าหลายพันธุ์มารวมกันอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ ราวกับเป็นภาพจำลองของชุมชนโลก และสิ่งที่เรา “กระทำร่วมกัน” และ “กระทำต่อกัน” นั้นก็มีทั้งที่น่ารักและน่าชัง มีทั้งที่เคารพในความต่าง และมีทั้งเหยียบย่ำหยามหมิ่น มีความรักและก็มีสงคราม
สนุกสนานและดีงามครับ สำหรับปาร์ตี้งานนี้ที่มีชื่อว่า “ปาร์ตี้ไส้กรอก”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม