“สายป่าน” อุ่นใจหลังลงบันทึกประจำวัน รับห่วงความปลอดภัย มีคนไม่น่าไว้ใจมาส่องร้าน

“สายป่าน อภิญญา” เผยชีวิตไม่เคยเจอความเสี่ยง ขอลงบันทึกประจำวันเพื่อความอุ่นใจ หลังมีบุคคลไม่น่าไว้วางใจมาส่องร้านกาแฟ บอกเชื่อเซ้นส์ สายตาอีกฝ่ายไม่เป็นมิตร หวั่นไม่ปลอดภัย

ควงหวานใจ “เบย์” ขึ้นโรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวันหลังมีบุคคลต้องสงสัยมาสอดส่องร้านกาแฟ สำหรับ “สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข” ล่าสุด เจ้าตัวเปิดใจในงานภาพยนตร์ “ดาวคะนอง” (By the Time It Gets Dark) ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 9 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เผยต้องระวัง หวั่นไม่ปลอดภัย

“คือ จริงๆ แล้วต้องบอกก่อนว่าป่านไม่ได้ไปแจ้งความ ในเนื้อข่าวบางส่วนอาจจะเขียนผิดพลาดไปว่าไปแจ้งความ แจ้งความคือมันต้องเกิดเหตุไม่ดีก่อนแล้วถึงแจ้งความได้ แต่สิ่งที่ป่านทำคือไปลงบันทึกประจำวันไว้เฉยๆ เพราะป่านรู้สึกว่ามีบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจเข้ามาในร้าน ซึ่งในร้านก็มีพนักงานอยู่ 2 คน แล้วก็มีป่านกับพี่เบย์อยู่ด้วย เราก็รู้สึกว่าต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะว่าน้องๆ ก็เป็นเด็กผู้หญิงด้วย เลยไปลงบันทึกประจำวันไว้ เพราะว่าเรารู้สึกไม่ปลอดภัย”

“เขาก็เข้ามาสังเกตการณ์ค่ะ เป็นทีท่าสังเกตการณ์ สอดส่อง หรือเรียกว่าดูลาดเลาประมาณนี้ เขาไปร้านเราครั้งแรกค่ะ ก็ถ้าเกิดเป็นคนปกติเข้าไปทุกคนต้องเข้าไปกินกาแฟอยู่แล้ว แต่พฤติกรรมเขาคือดูว่ากล้องวงจรปิดอยู่ตรงไหน ดูท่าทีว่าเราทำงานกันยังไงในร้าน”

บอกเชื่อเซ้นส์ สายตาอีกฝ่ายไม่เป็นมิตร
“จริงๆ แล้วเรื่องพวกนี้มันเป็นเซ้นส์ คือ เราเชื่อเซ้นส์ตัวเราเองก่อน เราเจอลูกค้าทุกวัน เราจะรู้ว่าคนแต่ละคนเข้ามาในท่าทีไหน เป็นมิตรหรือไม่เป็นมิตร พอเรามีเซ้นส์เราก็ค่อยๆ สังเกต ตอนที่ออกไปเราก็มาดูกล้องวงจรปิดอีกทีหนึ่ง มันก็เลยชัดเจน เขาแต่งตัวไม่ได้น่ากลัวค่ะ แต่ว่าการจอดรถ การเข้ามาแล้วสอดส่อง เราก็จะรู้แล้วว่าสายตาไม่เป็นมิตร น้ำเสียง การไม่พูดจาพาที”

“เขาสั่งเครื่องดื่มค่ะ เขาเข้ามา 5 นาทีแล้วก็ออกไป แปลกมาก เขาไม่อยากคุยกับป่านเลยเหรอ คือวันนั้นพี่เบย์เดินออกมาจากหลังร้านค่ะ พอเห็นพี่เบย์เขาก็ไป พี่เบย์คงน่ากลัวกว่า (หัวเราะ)”

ชีวิตไม่เคยเจอความเสี่ยง ขอลงบันทึกประจำวันเพื่อความอุ่นใจ
“ไม่มาค่ะ คือ เพิ่งไปลงบันทึกประจำวันวันที่ลงอินสตาแกรมเลย หลังจากนั้นมาก็ไม่มีเพราะว่าทุกวันก็จะมีพี่ๆ เจ้าหน้าที่วนเวียนมาตามเวรค่ะ เขาจะแบ่งเป็นเวรกัน ตอนนี้ก็อุ่นใจขึ้น คือ อย่างน้อยถ้าเกิดจะเกิดเหตุอะไรก็รู้สึกว่าเราได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้วไม่ได้โดดเดี่ยวถูกทอดทิ้งอะไร เราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ชีวิตเหมือนไม่เคยมีความเสี่ยงแบบนี้มาก่อนเลย ก็ไม่ทราบว่าไม่มาเพราะเห็นข่าวหรือเปล่า เราเดาใจไม่ออกหรอก ตอนนี้เราก็อยู่ร้านกันทั้งหมดค่ะ”