“โม อมีนา” รับเห็นคลิปแล้วทนไม่ไหว เข้าไปซัดแรงในอินสตาแกรม “น็อต กราบรถ” จวกไม่มีสติ ทำเกินไป ทำให้คนมองภาพลักษณ์คนในวงการไม่ดี ยันตนไม่ใช่คนดี แต่ขอแนะอีกฝ่ายให้ใช้สมอง บอกเรื่องบานปลายเพราะแถ ไล่ให้ออกจากวงการไปเป็นนักเลงที่อื่น วอนโซเชียลอย่าลามปามด่าถึงครอบครัว คนจะดีไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้อยู่ที่พ่อแม่
เป็นนักแสดงอีกคนหนึ่งที่เห็นคลิป “น็อต อัครณัฐ อริยฤทธิวิกุล” เจ้าของวาทะเด็ด “กราบรถกู” ต่อยคู่กรณีขี่จักรยานยนต์จนดั้งหักจนทนไม่ไหว เข้าไปคอมเมนต์แรงในอินสตาแกรมอีกฝ่าย ระบุ “ออกจากวงการบันเทิงเถอะค่ะ มันเสื่อมนะคะหากคุณอยู่วงการนี้ต่อไป คุณไร้จรรยาบรรณมาก.. คนที่อยู่เค้าจะเสียเพราะคุณนะคะ คุณไม่แมน ใส่กระโปรงจะดูน่ารักกว่านะคะ”
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเจอนักแสดงสาว “โม อมีนา พินิจ” เจ้าตัวชี้แจงเข้าไปคอมเมนต์แรงในฐานะคนธรรมดา และทนไม่ไหวที่อีกฝ่ายขาดสติ ทำให้ภาพลักษณ์คนในวงการดูไม่ดี
“เอาจริงๆ แล้วโมไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว และการที่โมไม่ได้ลงในไอจีหรือโซเชียลของตัวเอง และถือว่าการที่โมเข้าไปคอมเมนต์อย่างนั้นในไอจีของน้องเขา โมถือว่าโมเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีความรู้สึกว่า เฮ้ย...ทำแบบนี้ได้ไง และเขาเองก็ไม่มีสติอะไร เพราะตอนแรกคิดว่าน้องเขาอาจจะไม่มีสติหรือเปล่า แต่พอดูคลิปไปดูคลิปมาแล้วค่ะ และเห็นทุกๆ อย่างที่ออกสื่อ และมันเป็นการดูคลิปวิดีโอทั้งหมดเลยที่ไม่ได้ดูคอมเมนต์เลย โมมองว่าน้องคงไม่มีสติแล้วมั้ง รู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำมันเกินไปแล้วก็เท่านั้นเอง และโมยอมรับว่าทุกวันนี้คนในวงการก็มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีอยู่แล้ว อันนี้โมยอมรับ โมก็ไม่อยากให้คนมองให้มันแย่ไปกว่านี้”
ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นคนดี ชี้เข้าไปคอมเมนต์เพราะทนไม่ไหว แนะให้ใช้สมอง อย่าทำอะไรขาดสติ
“ความรู้สึกที่เราได้ดูคลิปแล้ว เราสงสารคนที่จมูกเบี้ยว เพราะดูจากคลิปแล้ว ทุกคนก็ต้องเห็นเหมือนกันว่าน้องคนที่โดนต่อยเขาวนรถมาเพื่อจะมาเคลียร์ด้วยซ้ำ และดูจากท่าทีเขาแล้ว เขาไม่ได้มีการต่อสู้อะไรมั้ง คุณเห็นว่าเขาไม่ได้จะต่อสู้ คุณควรจะพอได้มั้ย รถไม่ได้บุบด้วยนะ เรียกประกันได้มั้ย และโมเดาไว้แล้วว่าบทเรียนที่จะตามมา ที่น้องเขาจะต้องเจอมีอะไรบ้าง”
“แต่สิ่งที่โมคอมเมนต์ไปนั่นคือโมไม่ไหว อันนี้โมยอมรับ ถ้าน้องเขาจะโกรธ โมก็ขอโทษ แต่สิ่งที่โมพิมพ์ลงไปนั้นมันคือเรื่องจริง เพราะที่โมทำคือเราเป็นคนในวงการเดียวกัน และถ้าคุณไม่เห็นคนวงการบันเทิงเป็นพี่เป็นน้องกัน และถ้าเขาด่าเขาเตือนไม่ได้ก็ไม่เป็นไร และหนูไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นคนดี และถ้าหนูทำอะไรผิด มีคนมาว่า มาเตือน มาสั่งสอน หนูก็ฟัง แต่เวลาคนเราทำอะไรก็ต้องคิดนิดหนึ่ง ใช้สมองคิดนิดหนึ่ง ไม่ใช่ทำอะไรแล้วขาดสติ”
ยันถ้าสำนึกทุกคนให้อภัยแต่นี่กลับแถ สมควรโดนไล่ออกจากวงการให้ออกไปใช้ชีวิตนักเลง
“โมว่ามันสมควรค่ะ ถ้าน้องอยากเป็นแบบนี้ให้ไปใช้ชีวิตนักเลงข้างนอกก็ได้ แต่ในตอนนี้ถ้าเขาทำผิด ออกมายอมรับในสิ่งที่เขาทำ หนูว่าทุกคนก็ให้อภัย แต่การที่เขาออกมาแถ และพูดต่างๆ นานา มันกลับทำให้ตัวเองยิ่งดูแย่ รวมไปถึงสังคมที่เขาอยู่ก็ยิ่งดูแย่ มันทำให้รวมถึงตัวพวกโมด้วยที่อยู่ในสังคมเดียวกับเขา จริงมั้ยคะ”
วอนโซเชียลอย่าลามปามด่าถึงพ่อแม่และครอบครัว
“ไม่ต้องฝากอะไรหรอกค่ะ เพราะทุกวันนี้หนูว่าเขาได้รับมากพออยู่แล้ว แต่อยากจะฝากถึงคนในโลกโซเซียลว่า บางทีน้องเขาทำผิดก็ว่าแค่ตัวน้องเขาก็พอ เห็นบางคนไปไปว่าถึงพ่อแม่ ครอบครัวเขา มันเป็นเรื่องที่น้องเขาทำผิด ถ้าน้องเขาทำไม่ดี ก็ว่าแค่ตัวน้อง ไม่ใช่เหมารวมไปถึงครอบครัว และเด็กมันจะดีหรือไม่ดี ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้อยู่ที่พ่อแม่ มันอยู่ที่ตัวเด็กว่าเด็กคนนั้นคิดยังไง”
ยอมรับส่งข้อความหาอีกฝ่ายด้วย หวังว่าจะไม่โกรธ เพราะเตือนด้วยความหวังดี
“สิ่งที่หนูทำไปไม่ได้เกาะกระแสนะ เพราะถ้าเกาะกระแสคงลงในโซเซียลตัวเองไปแล้ว และลงแบบประโคมลงไปเยอะๆ แล้ว แต่อันนี้หนูปกติมาก หนูแค่ไปเมนต์ในไอจีดารา ก็เหมือนกับคนธรรมดาคนหนึ่งที่ไปเมนต์ และหนูยอมรับว่าหนูส่งข้อความส่วนตัวหาน้องเขาด้วยนะ ก็ส่งข้อความไปเหมือนที่เมนต์ไปในไอจี แต่น้องเขาไม่ได้ตอบกลับอะไรเพราะน้องเขาคงไม่ได้รู้จักหนู ถ้าน้องดูพี่ให้สัมภาษณ์อยู่ น้องไม่ควรโกรธพี่ เพราะพี่เตือนจริงๆ”