“มิน พีชญา” รู้สึกแย่ เจอกระแสดรามาแซงคิวเข้าพระบรมมหาราชวัง ยันเป็นมนุษย์มีความรู้สึก น้ำตาคลอบอกบั่นทอนจิตใจ ลั่นให้อภัยและขอเดินหน้าต่อทำความดีเพื่อพ่อหลวง ส่วนฟ้อง - ไม่ฟ้อง ขอให้เป็นหน้าที่ผู้ใหญ่ บอกแผ่นดินเต็มไปด้วยน้ำตา ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากดรามา
โดนกระแสดรามาแซงคิวเข้าพระบรมมหาราชวัง จนกลายเป็นกระแสทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ เลยทีเดียว สำหรับ “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” แม้ล่าสุดกระทู้แฉเจ้าตัวปลิวไปจากกเว็บไซต์พันทิปแล้วก็ตาม แต่สาวมินก็ยอมรับว่า กระแสดังกล่าวทำให้ตนรู้สึกแย่ และบั่นทอนจิตใจ โดยเจ้าตัวเปิดใจระหว่างมาแจกลองกอง และข้าวเหนียวหมู แก่ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกับเพื่อนสาวคนสนิท “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล”
มิน : “วันนี้เรามาแจกลองกองให้กับคนที่อยู่ในสนามหลวงที่อาจจะอยู่ที่นี่ และอาจจะยังไม่ได้กลับบ้าน”
ปุ๊กลุก : “มีข้าวเหนียวหมูมาด้วย ก่อนหน้านี้ วันที่พี่มินกลับมาจากเมืองจีนก็ชวนปุ๊กไปสนามหลวงกัน แต่ปุ๊กติดวันเกิดคุณแม่เลยไม่ได้มา วันที่พี่มินมาคนเดียว”
มิน : “ทุกคนมาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน มาอยู่ใกล้ ๆ กับพ่อหลวง มินเชื่อว่าทุกคนที่มาได้กำลังใจกลับไป และพวกเราก็สามัคคีกัน ที่ตรงนี้เป็นจุดเดียวที่ทำให้ทุกคนหลั่งไหลมาจากทุกจังหวัด เพื่อเข้ามาจุดนี้ เพราะฉะนั้นแน่นอนคนก็ต้องเยอะ แต่เราก็เห็นคนมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เห็นถึงการรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว รู้สึกภูมิใจค่ะที่ได้เป็นคนไทย เรื่องการแต่งกายก็สำคัญค่ะ เพราะตรงนี้เป็นเขตที่ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง อยากให้ทุกคนแต่งตัวมีกาลเทศะค่ะ หลายคนอาจจะไม่มีเสื้อผ้าสีดำ แต่เราก็มีริบบิ้นที่มีแจกในสนามหลวงให้อยู่แล้ว ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น แต่อยากให้ถูกกาลเทศะ ไม่อยากให้โป๊และไม่อยากให้น่าเกลียด”
ปุ๊กลุก : “เราก็จะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน เชื่อว่า เราทุกคนคิดจะทำสิ่งดี ๆ ตามรอยพ่อ ทุกคนเสียใจได้ แต่อย่างที่พระองค์ท่านบอก เสียใจได้แต่อย่าละเลยหน้าที่ ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เราจะได้ทำความดีเพื่อพ่อหลวง”
ยึด “พ่อหลวง” ในการทำดี ถึงจะไม่มีใครเห็นแต่ตนรู้อยู่แก่ใจ
มิน : “สำหรับมินก็เป็นเรื่องของการทำความดี โดยที่ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน เห็นชัดจากเหตุการณ์ล่าสุด ก็ค่อนข้างบั่นทอนจิตใจ แต่ว่าเมื่อเราคิดถึงพ่อหลวงของเรา ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าเราเยอะ และก็ผ่านหลาย ๆ จุดในชีวิตของพระองค์ท่าน เป็นสิ่งที่เราได้เห็น เป็นบทเรียนที่เราได้เรียนรู้ว่าจริง ๆ เราก็เป็นแค่จุดเล็ก ๆ แต่ว่าหากเรามีแกนกลางในการยึดเหนี่ยวจิตใจแบบที่ท่านเป็น เราก็จะรู้สึกเลยว่าได้อีกเรื่อย ๆ ดีได้อีกเรื่อย ๆ ท่านช่วยสร้างกำลังใจให้กับเราในทุก ๆ เรื่องค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพอเพียง การทำดี ต่อให้เราจะทำดีและไม่มีใครเห็น มันก็ยังเป็นเรื่องที่ทำดี แต่สุดท้ายเราก็รู้อยู่แก่ใจ”
“จริง ๆ ตอนนั้นวันนั้นเราไม่รู้ และไม่ทราบว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยซ้ำ ถ้าพี่ ๆ นักข่าวได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น มันก็ไม่มี เพราะว่าระหว่างทางที่แจกของช่อง 7 มินก็จะเดินไปกับนักแสดงหลาย ๆ คน ซึ่งก็จะไปแจกของให้กับพี่ ๆ ในแถว มันก็เป็นภาพที่ชัดค่ะว่าไปทำอะไร แต่มันก็คงจะเกิดความเข้าใจผิดเนอะ ซึ่งก็ไม่เป็นไรค่ะ ส่วนจะฟ้องมั้ย เรื่องนี้ให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ดีกว่าค่ะ”
น้ำตาคลอ ยอมรับกระแสดรามาแซงคิวบั่นทอนจิตใจ ยันเป็นมนุษย์มีความรู้สึก ส่วนตนจบแล้ว ให้อภัยและขอเดินหน้าต่อ
“ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ แต่ตัวมินเองก็บอกได้เลยว่า ตั้งใจทำดีต่อไปค่ะ อยากทำดีเพื่อพ่อ ไม่ว่าจะมีใครเห็นหรือไม่เห็น ไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปด้วยซ้ำค่ะ เราอยากที่จะทำ เรารู้อยู่แก่ใจและมีความสุขของเราเอง ส่วนเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์นั้นก็ไม่เป็นไร มินถือว่าเป็นความเข้าใจผิดซึ่งผิดพลาดกันได้ ตัวมินเองก็ให้อภัยและเดินต่อไป”
“แต่ถามว่าบั่นทอนมั้ย บั่นทอนมากค่ะ (น้ำตาคลอ) คือ ใครได้เจอต้องรู้สึกแบบมินแน่นอน คือ ตั้งใจมา ต้องบอกเลยว่า คือ มินอาจมาช้ากว่าหลาย ๆ คน ในระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมินอยู่ต่างประเทศ คือ อยู่อิตาลีบินกลับมาแล้วต้องบินไปที่เซี่ยงไฮ้ต่อเลย ในขณะที่หน้าที่และความรับผิดชอบต้องดำเนินต่อไป แต่ไม่มีโอกาสได้มา แล้วพอมาวันแรกก็เจอเหตุการณ์นี้ ก็แย่ ต้องบอกว่าวันแรกบั่นทอนมาก แต่ว่าหลังจากนั้น ก็คือ เมื่อเรานึกถึงพ่อ เราอยากทำความดีเพื่อพ่อ เราจะรู้เลยว่าพ่อคงไม่อยากเห็นภาพแบบนี้ จริง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรพ่อก็คงไม่อยากจะเห็นพี่น้องคนไทยทะเลาะกัน”
“จริง ๆ ทุกคนก็เซ้นซิทีปหมด ไม่ใช่แค่ตัวมินเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องโฟกัสที่ตัวมิน ถามว่ามีความรู้สึกมั้ย มนุษย์ทุกคนมีความรู้สึก แต่ว่าตอนนี้ประเทศไทยต้องการกำลังใจ ทุกคนเซ้นซิทีปหมด ทุกคนเสียใจ มันเป็นเรื่องใหญ่เนอะ ตอนนี้แผ่นดินก็เต็มไปด้วยน้ำตา เพราะฉะนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะมาดรามาอะไรต่อไป (ผู้จัดการจะดำเนินเรื่องด้านกฎหมาย?) เรื่องนี้คุยกับผู้ใหญ่เลย เพราะมินจบแล้ว”