“ฝ้าย สุภาพร” เปิดใจวันที่รู้ข่าว “ในหลวง ร.๙” สวรรคตเป็นวันที่ประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์ ปล่อยโฮขณะร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี บอกฝืนยิ้มประกวดทั้งที่ใจร้องไห้ สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ภูมิใจที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย บอกแม้แต่เพื่อนนางงามยังเอ่ยปากชม King ของคุณคือที่สุด คนไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์แบบในหลวง
“ฝ้าย สุภาพร มะลิซ้อน” รองอันดับ 2 Miss Grand International 2016 มาร่วมแจกอาหารที่เต็นท์ โครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สภาสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แก่ผู้ที่มาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยฝ้ายมาพร้อมกับ “อลิซ” เพื่อนนางงาม ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าวันที่รู้ข่าวในหลวง ร.๙ สวรรคตตนทำใจไม่ได้ และฝืนยิ้มประกวดทั้งที่ใจร้องไห้ ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดี ตั้งเป้าจะนำรางวัลกลับมาให้พ่อหลวง
“ความรู้สึกวันนี้ที่มาก็คือจริง ๆ ก็รู้สึกตั้งแต่ประกวดแล้วค่ะ ที่อยู่ที่ลาสเวกัส ที่เราร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เราก็อยากจะกลับเมืองไทย ณ วันนั้นเดี๋ยวนั้นเลย แต่ด้วยความที่เราเป็นตัวแทนของประเทศไทย เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดในฐานะตัวแทนของประเทศไทย และคิดว่าเราต้องนำรางวัลกลับมาให้พระองค์ท่านและชาวไทยทุก ๆ คนค่ะ ก็เป็นการยากเหมือนกันที่จะต้องยิ้มหน้ากล้องทั้ง ๆ ที่ใจมันร้องไห้ เชื่อว่า คนไทยทุก ๆ คนไม่มีใครยิ้มออก ณ เวลานั้นนะคะ รวมถึงตัวฝ้ายเอง เชื่อมั้ยว่ากล้องอยู่ข้างหน้าเราเรายังยิ้มไม่ได้เลย จนทีมงานบอกว่าไม่ได้นะ ต้องยิ้มหน่อย ถ้าสังเกตดี ๆ วันนั้นจะไม่ค่อยมีรูปฝ้าย เพราะมันเป็นวันที่คนไทยทุกคนสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่”
“วันที่รู้มันยิ่งกว่าความเสียใจ เพราะเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ พวกเรารู้สึกกันดีอยู่แล้วว่าการสูญเสียครั้งนี้เป็นยังไง แล้วก็รู้สึกว่ามันร้องไห้ทั้งวัน ร้องแล้วก็หยุด ๆ เปิดเฟซบุ๊กมาก็เจอแต่ข่าวของพระองค์ท่าน ก็ยากที่จะทำใจจริง ๆ”
เผยร่ำไห้ขณะร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นเพลงที่ร้องยากลำบากที่สุด
“คิดถึงบ้านอยากกลับเมืองไทย แล้วก็เป็นการร้องเพลงที่ยากลำบากมากเท่าที่เคยร้องเพลงมา เพราะว่าเป็นเพลงที่ร้องด้วยน้ำตา จนมาถึงวันนี้แค่ดูผ่านทีวีว่าเศร้าเสียใจแล้ว ได้มาอยู่ ณ ตรงนี้เสียใจยิ่งกว่า รู้สึกพูดไม่ออกค่ะ แค่เพลงสรรเสริญขึ้นมาเพื่อน ๆ นางงามต่างชาติบอกว่าไม่รู้หรอกว่าความหมายแปลว่าอะไร แต่รู้สึกได้ว่าคนไทยของเรารักในหลวงขนาดไหน แล้วก็ร้องไห้ตามโดยที่ไม่ถามเหตุผลสักคำว่าเป็นเพราะอะไรถึงร้อง ร้องไห้กันทำไม ไม่ถามเลยเพราะว่าเขารับรู้ได้ว่าพวกเราชาวไทยรักในหลวงแค่ไหน เพื่อน ๆ บอกว่าเรารับรู้ได้ ไม่ต้องอธิบายว่าเสียใจขนาดไหน ไม่มีถามว่ายูเสียใจขนาดไหนบอกพวกเราหน่อย ไม่มีเลย เพราะความเสียใจในตอนนั้นจนวันนี้มันนับไม่ได้ว่าเราเสียใจมากแค่ไหน สำหรับชาวไทยทุก ๆ คน”
“ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านอยู่ตลอดเวลา จนโตก็เห็นว่าพระองค์ท่านทรงงานหนักเพื่อพวกเราปวงชนชาวไทยทุกคน และพระองค์ท่านห่วงเราทุกคนจนแทบไม่นึกถึงตัวเองด้วยซ้ำว่าจะเหนื่อยแค่ไหน เพื่อราษฎรของพระองค์ เพื่อปวงชนชาวไทย เพื่อลูก ๆ ของพระองค์ พระองค์ทำได้ยอมเหนื่อยได้ วันนี้พวกเพื่อนๆ นางงามก็เลยรับรู้ได้ว่าทำไมพวกเราชาวไทยถึงรักพระองค์มาก”
น้อมนำพระราชดำรัส ให้รู้จักรักและให้อภัย ง่าย ๆ ต้องเริ่มจากตัวเอง
“ส่วนตัวเราเองก็แน่นอนค่ะ ยิ่งการประกวดมิสแกรนด์ ตามแคมเปญก็คือ Stop the War and Violence หรือการต่อต้านสงครามและความรุนแรงในทุกรูปแบบ ก็ได้นำเอาพระราชดำรัส คำสอนของพระองค์ที่บอกกับชาวไทยอยู่เสมอว่าให้รู้จักรักและให้อภัยซึ่งกันและกัน ก็นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เริ่มจากตัวเราเองเลยง่าย ๆ คนในครอบครัว และค่อย ๆ ขยายไปคนรอบข้าง จนถึงสังคมพวกเราก็จะอยู่กันอย่างมีความสุขแน่นอนค่ะ”
เพื่อนนางงามยังทึ่ง! เอ่ยชมคนไทยโชคดีมีพระมหากษัตริย์แบบในหลวง
“เราก็บอกเพื่อน ๆ นะ บางทีก็นั่งดูเฟซบุ๊กอยู่เพื่อนก็จะถามว่าดูอะไร เราก็จะบอกว่านี่คือในหลวง My King ของฉันทำอะไรบ้างให้กับคนไทย พวกเขาก็รู้สึกแบบ โห Your King ของคุณที่สุดเลย คุณโชคดีมากที่มีพระมหากษัตริย์แบบในหลวง เพื่อน ๆ เขาพูดเอง เราก็รู้สึกปลื้มใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย และได้อยู่บนผืนแผ่นดินไทยค่ะ”
“ถ้ามีโอกาสบอกอะไรกับพระองค์ท่านก็อยากบอกว่า หนู สุภาพร มะลิซ้อน ได้นำรางวัลของคนไทยทุก ๆ คนในการประกวดครั้งนี้ นำมาให้คนไทยและในหลวงของเรา ให้พระองค์ท่านได้ชื่นใจ ให้คนไทยได้มีความสุขไม่มากก็น้อยในสิ่งที่ฝ้ายได้สู้เต็มที่ ทำสุดความสามารถ ได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยของเราให้ต่างชาติได้รับรู้ค่ะ”
“ส่วนภารกิจของนางงามหลังจากนี้ฝ้ายก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด ในฐานะตัวแทนชาวไทย ในฐานะที่อยู่ในมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลในครั้งนี้ ยิ่งวันนี้ได้เห็นความสามัคคีของพวกเราชาวไทยแล้วรู้สึกปลื้ม พลังคนไทยของเรายิ่งใหญ่มากจริง ๆ”
“วันนี้รู้สึกดีค่ะอย่างน้อยก็ได้ทำเพื่อพ่อหลวง รู้สึกดีมาก ๆ ได้นำอาหารมาให้กับพี่น้องชาวไทยที่อยู่ในสนามหลวงนี้ค่ะ อลิซเพื่อนนางงามก็มาช่วยด้วย เขาก็รับรู้ตลอดค่ะ ว่า เรามาทำอะไร เพราะตั้งแต่อยู่ที่ลาสเวกัสเพื่อน ๆ ก็ให้กำลังใจตลอด บางทีเราลืมยิ้มเวลาอยู่หน้ากล้อง เพื่อนก็จะถามว่าไม่โอเคใช่มั้ย ไม่เป็นไรนะ ยิ้มก่อนพักก่อนก็ได้ เพราะ ณ เวลานั้นใครเป็นคนไทยก็เชื่อว่ายากที่จะทำใจให้มันดี”
“วันนี้ก็ได้บอกกับอลิซว่านี่แหละคนไทย เราผ่านทุก ๆ ช่วงเวลาทั้งทุกข์ใจทั้งสุขใจมาด้วยกัน เขาก็รู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่จริง ๆ นะ แล้วเขาก็ถามว่าคนที่เอาข้าวมาเนี่ยต้องเสียตังค์มั้ย เราก็บอกว่าไม่ เราช่วยกันด้วยน้ำใจที่มีให้กัน เขาก็รู้สึกประทับใจกับเหตุการณ์ในวันนี้ค่ะ”