xs
xsm
sm
md
lg

“ป่าน วีทรีโอ” กลั้นน้ำตาไม่ไหว เสียใจสุดชีวิตแต่ด้วยหน้าที่ต้องร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” จนจบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ป่าน วีทรีโอ” ตื้นตันคนไทยแชร์คลิปขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ซาบซึ้งเป็นตัวแทนความรักที่มีต่อพ่อหลวง บอกกลั้นน้ำตาไม่ไหว ร่ำไห้ขณะร้องเพลง แต่ด้วยหน้าที่ต้องร้องเพลงศักดิ์์สิทธิ์ให้จบ ตั้งใจเป็นคุณครูสอนดนตรีเด็กให้รู้จักเพลงพระราชนิพนธ์ ลั่นขนาดฝรั่งยังทึ่งเพราะมีความเป็นสากล ต้องเก็บไว้เป็นสมบัติของชาติ


มาร่วมเป็นจิตอาสาแจกข้าวเหนียวไก่ทอดประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โดยมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย แก่ผู้ที่มาถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช งานนี้ “ป่าน วีทรีโอ” หรือ “กัญภัส ชยานุวัฒน์” ได้เปิดใจกรณีที่มีการแชร์คลิปขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ไพเราะจับใจ ทำคนไทยน้ำตาไหลและขนลุกไปตามๆ กัน

“วันนี้ได้มาช่วยจิตอาสา ดีใจมากที่ได้มาช่วยพระองค์หญิงท่านทำงานเพราะว่าเห็นพระองค์ท่านทรงงานทุกวัน เราก็ว่างเมื่อไหร่ก็คิดว่าจะมาเพราะเห็นทุกคนที่มา มาด้วยใจ เราก็เลยรู้สึกดีใจ รู้สึกดีนะคะ ดีใจที่คนไทยรักกัน ก็ขอให้จำวันนี้เอาไว้ วันที่เรามีน้ำใจต่อกันและถ้าเรามีพระมหากษัตริย์องค์เดียวที่เราจะยึดเหนี่ยวได้ ขอให้มีพระองค์ท่านในใจทุกคนและคิดถึงวันนี้ มันน่ารักมากเลย สิ่งที่เราได้สัมผัส”

“วันนั้นที่ร้องเพลงสรรเสริญฯ ก็รู้สึกบอกเป็นคำพูดไม่หมด เพราะว่าทุกอย่างมาจากใจ นักดนตรีทั้งหมด 7 คน มาจากใจจริงๆ กล้องก็ไม่พอ ก็อัดที่บ้านน้องคริสที่เป็นนักเปียโน ไมค์ก็มีไม่พอ ต้องใช้ขาตั้งกล้องมาพันสก็อตเทปเป็นขาตั้งไมค์ เพราะเราคิดแต่ว่าเราอยากให้พระเจ้าอยู่หัวได้ยินเสียงเล็กๆ จากพวกเราแค่นั้นเอง

“และสำหรับป่านที่เป็นนักร้อง เราไม่ได้คิดว่าจะร้องดีหรือไม่ดี เราอยากร้องในฐานะที่เราอยากแสดงความรักที่มีต่อพระองค์ท่านในฐานะนักดนตรี เราก็ต้องเล่นเพลงสรรเสริญพระบารมี เพราะเป็นเพลงแรกที่เราคิด เราไม่เลือกเพลงอื่นเลย และทุกอย่างมันออกมาจากใจ ไม่ว่าเนื้อเพลงแต่ละประโยค ในสมองก็คิดแต่พระราชกรณียกิจ คือพระองค์เป็นถึงพระมหากษัตริย์ เห็นภาพพระองค์ทรงนั่งประทับอยู่กับพื้น ท่านทรงงาน ท่านทรงเดินป่า คือทุกอย่างมันเข้ามามาในสมอง เป็นช็อตจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

แต่ในหน้าที่ของนักร้องตอนนั้น เราต้องทำให้จบ เป็นสิ่งอย่างเดียวที่เราจะต้องรักษาหน้าที่เอาไว้ เพราะเป็นเพลงที่ศักดิ์สิทธิ์ ยังไงต้องเอาให้จบ แล้ววันนั้นร้องทั้งหมด 2 รอบ เพราะว่ากล้องเราไม่พอ เราก็อยากจะมีมุมหลายมุม และในใจอยากรีบมาสนามหลวง เพราะวันนั้นเป็นวันที่เคลื่อนพระศพ แต่เรามาไม่ทัน ก็เสียใจมาก แล้วคิดในใจว่าลูกมาส่งพ่อไม่ทัน แต่ลูกได้ทำสิ่งหนึ่งอยากให้พ่อได้ยิน คิดแค่นั้นจริงๆ”

รับร่ำไห้ทนไม่ไหว แต่เพราะเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นเพลงที่ศักดิ์สิทธิ์ตนต้องร้องให้จบ
“ปกติที่ร้อง จะร้องด้วยความภาคภูมิใจ ร้องด้วยรอยยิ้ม แต่วันนั้นมันเป็นการร้องที่มันไม่มีพระองค์ท่านแล้ว แล้วก็เหมือนกับ(น้ำตาคลอ) เราไม่คิดว่าเราจะเสียใจได้ขนาดนี้เลย มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้เลย ว่าเรารักพระองค์ท่าน เทิดทูนพระองค์ท่านขนาดนี้เลยเหรอ และเราจะอยู่ยังไง ในวันนั้นมันเพิ่งเกิดเรื่อง แล้วเราอัดเพลงกันในวันที่ 14 ต.ค. พวกเราจะอยู่กันยังไง แล้วเราจะทำยังไงกันต่อไป มันเป็นความรู้สึกเดียวกันทุกคนเลย แม้กระทั่งนักดนตรี”

“ป่านมองไม่เห็นใครข้างหลังเลย เพราะป่านอยู่ข้างหน้า พอป่านได้เห็นวิดีโอตัดมาในคลิป ได้เห็นหน้าทุกคนวันนั้น คือมันออกมาได้ตั้งแต่โน้ตตัวแรกของพวกเขาที่เขาบรรเลงกันเลย แล้วป่านก็เชื่อว่าทุกคนวันนั้นเหมือนกับนักร้อง เขาอาจจะไม่ได้สื่อสารเป็นคำพูด แต่ทุกตัวโน้ตของเขามันส่งรวมพลังใจ ความรักของเราทั้งหมดออกมาให้พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ณ ตอนนั้นร้องไห้ ไม่ไหวแล้ว แต่ด้วยหน้าที่ เพลงนี้ป่านรู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่ศักดิ์สิทธิ์ ยังไงก็ต้องร้องให้จบ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คิดอย่างเดียวว่าต้องร้องให้จบแล้วคิดถึงหน้าท่าน แค่นั้นเลยจริงๆ ไม่ได้รู้เลย ว่ามันจะดีหรือไม่ดี คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้วในวันนั้น มันมาจากใจของเราจริงๆ”

ตื้นตันคนไทยแชร์คลิปกระหึ่ม ซึ้งเป็นตัวแทนความรักที่มีต่อพ่อ
“เราก็ไม่คิดเลย จริงๆ แล้ว เราคิดว่ามีคนสองคนดูเรา แค่ให้รู้ว่าเราเป็นกลุ่มนักดนตรีที่เทิดทูนท่านแค่นั้น เราก็ดีใจแล้ว แต่พอคนแชร์ปุ๊บ เราก็รู้สึกดีใจ มีหลายคนบอกว่าเหมือนเราเป็นตัวแทนของพวกเขาที่แสดงความรัก แต่เขาไม่รู้ว่าจะแสดงออกมายังไง เขาก็เห็นว่าเราเป็นตัวแทน เราก็รู้สึกขอบคุณ ให้รู้ว่ามาจากใจจริงๆ”

“และคลิปนี้เผยแพร่เป็นสาธารณะ ถ้าใครอยากจะได้ นำไปใช้ได้เลย เราอยากให้ทุกคนได้สัมผัส และทุกคนจะได้สัมผัสจริงๆ ถ้าเราทำด้วยใจ มันจะต้องไปถูกใจใครสักคนหนึ่ง ขอให้เราทำด้วยใจ ก็เป็นเหมือนคติที่จะดำเนินชีวิตเราด้วย ถ้าเราใส่ใจลงไป ใครไม่รู้ เรารู้ เราทำไปเถอะ เหมือนอย่างที่พระองค์ท่านทรงทำมา 70 ปี เราไม่รู้ว่าเยอะขนาดนี้ ทำไปเถอะ ทำไปเรื่อยๆ เหมือนอย่างที่พระองค์ท่านทำ และสักวันหนึ่งก็จะเห็นผล”

ยึดพระราชดำรัส ทำดีเห็นผลช้า ไม่มีใครรู้แต่เทวดาเห็น
“ก็คงเป็นเรื่องทำความดี ที่พระองค์ตรัสว่าอาจจะเห็นผลช้า แต่ว่าขอให้ทุกคนมีกำลังใจที่จะทำไปเพราะว่าถ้าเราทำความดี แล้วยังไงเราก็ต้องได้ผลดีแน่นอน อย่าเพิ่งเสียกำลังใจ ใครไม่รู้เรารู้ เทวดารู้ จะต้องมีสักคนที่รู้ เพราะฉะนั้นเราตั้งใจทำความดีต่อไป พระองค์ท่านทรงเป็นพระอัจฉริยะด้านดนตรี

บอกจะต้องสอนเด็กๆ ให้รู้จักเพลงพระราชนิพนธ์ ต้องเก็บไว้เป็นสมบัติของชาติ
“สำหรับนักดนตรี ป่านผูกพันกับเพลงพระราชนิพนธ์มาตลอด และก็ได้แสดงเพลงพระราชนิพนธ์ทั้งที่ไทยและต่างประเทศ ถ้ามีโอกาส ตอนนี้สิ่งที่อยากทำก็คือการปลูกฝัง ป่านเป็นครูสอนดนตรีด้วย เด็กๆ จะต้องรู้จักเพลงพระราชนิพนธ์ เขาจะต้องบรรเลงได้ ร้องได้ อย่างถูกต้อง เพราะว่า 48 บทเพลงนี้ เป็นสิ่งที่เราควรจะเก็บเอาไว้เป็นสมบัติของชาติ มีความไพเราะ เรานำไปเล่นที่ต่างประเทศ คนต่างประเทศ เขาไม่เข้าใจเนื้อภาษาไทย แต่ทุกคนบอกว่าเพราะมาก ทุกคนภาคภูมิใจมาก เพราะฉะนั้นนักดนตรีอย่างเรา พระมหากษัตริย์ทรงเป็นนักดนตรี ทำไมอาชีพของเราจะไม่น่าภูมิใจ ขอให้ทุกคนภูมิใจในหน้าที่ของตนเอง พระองค์ท่านทรงทำทุกอย่างเลย เห็นในคลิปพระองค์ท่านทรงทักทายกับพี่ รปภ. ที่ศิริราช พระองค์ให้เกียรติทุกสาขาอาชีพ”

พระองค์ทรงพระอัจฉริยภาพ ต่างชาติยังทึ่งเพลงพระราชนิพนธ์ไม่มีเนื้อร้องแต่มีความเป็นสากล
“เราก็จะแนะนำตลอดว่าบทเพลงพระราชนิพนธ์พระเจ้าอยู่หัวเป็นคนแต่ง เพลงของพระองค์ท่านมีความเป็นสากลมากถึงแม้ว่าจะไม่มีการร้องเลยเพียงแค่บรรเลงเขาก็ยังบอกกันว่าทำไมเพราะจังเลย พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพจริงๆ ถึงแม้เพลงจะมีทำนองที่เรียบง่ายแต่ด้วยคอร์ดหรือฮาร์โมนี่ยากมาก เพราะฉะนั้นพระองค์ก็ได้มอบการบ้าน ถ้าจะศึกษาเพลงของท่านต้องทำการบ้านอย่างลึกซึ้ง ในฐานะนักดนตรีเราต้องสืบสานต่อให้ถูกต้องอย่างที่พระองค์ท่านทรงทำเอาไว้” .



กำลังโหลดความคิดเห็น