“เติ้ล ธนพล” พ้นมลทินคดีรถเถื่อน เผย 1 ปี อยู่ในเงามืด ถูกจ้องมองเหมือนเป็นฆาตกร บอกล้มทั้งยืน ถูกคนเชื่อใจที่สุดทำร้าย สาปส่งขออย่าให้เจอคนแบบนี้ เล็งฟ้องกลับคู่กรณีเรียกร้องความบริสุทธิ์
ตกเป็นจำเลยสังคมคดีค้ารถเถื่อน หลังจากถูกภรรยานักการเมืองท้องถิ่นภาคตะวันออก ออกมาแฉว่ารถตู้ที่ ตร. ยึดได้และมีลูกทุ่งดัง “แอน มิตรชัย” นั่งมาด้วยนั้น ได้มาจากสาวใหญ่ที่เป็นเจ้าของเต็นท์รถมือสองย่านพระราม 2 และเป็นภรรยาพระเอกละครโทรทัศน์วิกมากสี “ต.” นำมาขายให้และถูกหลอกให้ซื้อขายรถผิดกฎหมายเช่นนี้มาก่อน จนทำให้ถูกโยงว่าพระเอก ต. คือ “เติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข” ล่าสุด หนุ่มเติ้ลหลุดพ้นข้อกล่าวหา หลังศาลตัดสินให้เป็นผู้บริสุทธิ์ โดยเจ้าตัวยอมรับว่า 1 ปีที่ผ่านมา ตนเหมือนอยู่ในเงามืด และถูกสายตาจ้องมองเหมือนเป็นฆาตกร!
“จบแล้ว หนึ่งปีที่อยู่ในเงามืด ผมชัด ๆ เลยนะ ผมเห็นสายตาแต่ละคนมองเหมือนผมเป็นฆาตกร ทุกคนปักใจเชื่อไปแล้วว่าไอ้นี่ขายรถเถื่อน ทำแน่ ๆ ผมก็ตอบมาตลอดว่าผมไม่เคยรู้จักกับเขา ผมไม่เคยเจอหน้าเขา แต่คนก็ตัดสินใจไปแล้ว จนวันนี้ศาลตัดสินโปร่งใสว่าไม่มีมูลเหตุ มูลความอะไรเลยกับผม ก็พ้นมลทินไประดับหนึ่งแต่คนที่ตัดสินใจไปแล้วว่าผมเป็นฆาตกร เขาก็ยังมองแบบนั้น”
“ถามว่าเครียดมั้ย เราใช้ชีวิตเหมือนเป็นผู้ต้องหา เราถูกตัดสินทั้งที่เราไม่ได้ทำ ถ้าเป็นคนที่รู้จักจริง ๆ จะไม่มีคำพูดอะไร แต่ถ้าคนที่รู้จักผิวเผิน ก็จะมองและมีผลกระทบไปในส่วนของงานและธุรกิจด้วยพอสมควร ทำให้ยอดเราตก แต่ไม่มาก แต่ก็ตก เพราะเหมือนความเชื่อมั่นหายไป”
ล้มทั้งยืน ถูกคนเชื่อใจที่สุดทำร้าย สาปส่งขออย่าให้เจอคนแบบนี้
“ตอนนี้มันก็ค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ช่วงชีวิตช่วงหนึ่งที่มันแย่ ๆ ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะเจออะไรแบบนี้ มันเป็นเหมือนอีกข้อหนึ่งเลยที่เวลาไปไหว้พระจะขอพร เป็นอีกข้อที่จะต้องขอพรว่าอย่าเจอบุคคลประเภทนี้อีกเลย หรือคนกลุ่มนี้อีกเลย คนที่ต้องการหาเรื่อง”
“มันสอนให้เราระวังตัวมากขึ้น สอนให้โตขึ้น คนที่เราเชื่อใจและมั่นใจที่สุดกลับเป็นคนที่ทำร้ายเรา มันล้มทั้งยืน เราไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายเรา ทั้งที่เขาเป็นผู้ใหญ่ที่เรานับถือ แต่เราก็โดนจนได้ (ไว้ใจคนยากขึ้น?) ก็มีกระบวนการป้องกันตัวมากขึ้น ผมเจอแต่เรื่องใหญ่ ๆ หนัก ๆ ทั้งนั้นเลย เรื่องนี้หนักสุดตรงที่เป็นคดีความ ตกเป็นจำเลยในคดีอาญา”
ฟ้องกลับคู่กรณีเรียกร้องความบริสุทธิ์
“เราก็ฟ้องกลับในส่วนที่เขาฟ้องเท็จมาเพื่อเรียกร้องความบริสุทธิ์ของเรา เราปลง มันทำอะไรไม่ได้ เราอยากให้มันจบเพราะไม่เคยมีคดีความเราไม่เคยขึ้นศาล ผมจำได้ว่าวันแรกที่ผมไปขึ้นศาล อยู่ต่อหน้าศาล มันชาไปทั้งตัว ในละครก็ไม่เคยขึ้นศาล พอไปนั่งอยู่ตรงนั้นจริง ๆ มือมันชาไปหมด มือมันเกร็ง มีแต่เหงื่อไปหมด เราไม่ได้กลัวแต่เราไม่รู้ว่ามันกดดันขนาดไหน ผมไม่กลัว มันไม่เมกเซ้นส์อยู่แล้วว่าทำไมผมต้องทำสิ่งที่ถูกกฎหมายให้ผิดกฎหมาย”
ไม่ปิดเรื่องความรัก แต่มีประสบการณ์เปิดตัวแฟนครั้งแรกแล้วเละเลย
“เรื่อย ๆ ยังไม่รู้ อีกนานอ่ะ คบกัน 3 ปีกว่า ๆ ผมก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่เคยแอบแต่ไปในที่คนน้อยๆ(หัวเราะ) ไม่มีเซอร์ไพรส์ ยังไม่เคยคิดเรื่องแต่งงาน ผมว่าแค่ใช้ชีวิตทุกวันนี้ให้มีความสุขก็พอ เขาเป็นคนดี รับฟังเรา เรารับฟังเขา เติมเต็มกันและเข้าใจกัน แรก ๆ ก็อาจไม่ค่อยเข้าใจ แต่หลัง ๆ มาเขาก็เข้าใจ เขาไม่ได้อยากเป็นข่าว
“ผมไม่เคยปิดนะ เคยเปิดแล้วเป็นไงล่ะ ตู้มเลย โดนเละเลย (หัวเราะ) แต่พอไม่เปิดก็หาว่าเป็นเกย์ เมื่อก่อนโดนเป็นเกย์ตลอด เป็นเกย์กับเชน ณัฐวัฒน์ (หัวเราะ)”
ยอมรับสลัดคำว่าพระเอกช่อง 7 ไม่ออก ไม่หวั่น “นางฟ้าไร้ปีก” เป็นละครที่ช่องทรูโฟร์ยูคาดหวัง
“เรื่องนางฟ้าไร้ปีกเป็นเรื่องที่ 2 ที่ไม่ได้เล่นให้ช่อง 7 เรื่องแรกที่เล่นนอกช่อง 7 คือ ช่อง 8 ต่อให้เล่นที่ไหน คนก็พูดว่าเป็นพระเอกช่อง 7 อยู่ดี อย่างเรื่องนี้เป็นบทที่หลายรสชาติ เหมือนดรามา แต่กับตัวนางเอกจะตลกคอมเมดี้เล็ก ๆ เป็นพ่อแง่แม่งอน คอยทะเลาะกันตลอดเวลา ผมก็กลับมาในช่วงคอมเมดี้ของเขาด้วย ในส่วนของเราคือมีลูกมีภรรยา แต่ภรรยามีชู้กับคู่แข่งทางธุรกิจ บทก็หนัก ก็สนุก ได้ฝึกหลาย ๆ อย่าง การเข้ากับนักแสดงใหม่ ๆ อย่าง โบวี่ อัฐมา ที่เล่นเป็นคุณแม่ขี้เมานิดหน่อย บทแซบ ดรามากับเลิฟซีนไม่หนักใจอะไรเลย”
“เป็นความคาดหวังของช่องทรู ผมก็เต็มที่ครับ ผมกับแพนเคยร่วมงานกันมาแล้ว ในบ่วงร้ายพ่ายรัก 6 - 7 ปี ก็นานมาก เรื่องนี้พบกันอีกครั้ง ออกแนวคล้าย ๆ เดิม เพิ่มเติมคือความเข้มข้นของการทะเลาะกัน มีฉากที่ต่างประเทศ เข้าฉากกันมากขึ้น”
ไม่ซีเรียสรับบทพ่อ บอกท้าทาย จะทำยังไงให้คนเชื่อ
“เคยเล่นมีภรรยาแต่งงานมีลูกจบ แต่เรื่องนี้มีลูกตั้งแต่ต้นเรื่อง อยู่ที่การวางตัวว่าจะดีไซน์ยังไงให้มีลูกมีภรรยาแล้ว ปมในเรื่องคือความกดดันที่ภรรยาเราทิ้งลูกไป เราก็อยากมีครอบครัวใหม่แต่ในใจก็อยากเป็นครอบครัวเก่า ไม่ซีเรียสรับบทพ่อ ผมว่าเป็นความท้าทายอีกแบบหนึ่ง ยังไม่เคยมีลูก แต่จะทำยังไงให้คนเชื่อว่ามีลูกแล้ว”