“หญิง สุกัญญา” เครียด นอนไม่หลับไป 3 วัน จนต้องพึ่งยานอนหลับ หลังแจ้งความจับลูกน้องขโมยเงิน 6 แสน แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า ยันไม่ใจดำจับส่งเข้าคุกแค่อยากให้มาเจรจา หวังได้เงินคืนแม้จะไม่เต็มจำนวน
ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งว่านักแสดงสาว “หญิง สุกัญญา ไรวินทร์” เข้าแจ้งความหลังถูกคนใกล้ชิดขโมยเงินไป 6 แสนบาท ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้เดินทางมาเปิดใจในรายการ “ปากโป้ง” ทางช่อง 8 เกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องราวดังกล่าว …
“อธิบายก่อนว่าเราทำร้านทำผม คือ ร้านฟีนิกซ์ คือ เป็นสาขาที่ 4 แล้ว เป็นสาขาใหม่ล่าสุด ดังนั้น ลูกค้าก็จะยังไม่เยอะมาก คือ เงิน 5 แสนกว่าเกือบ 6 แสนจริง ๆ แล้วคือถือว่าเยอะมากสำหรับเรา เพราะเดือดร้อนด้วย ต้องบอกว่าก่อนว่าร้านนี้เป็นเงินหมุน เพราะเพิ่งเปิดมาได้ไม่กี่เดือนพร้อมห้าง ไหนจะค่าเช่า ไหนจะเงินเดือนของเด็กในร้านของทุกๆ คน คือเงินจำนวนนี้อาจจะไม่ถือว่าเยอะสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเราถือว่าเยอะมาก”
“และมันก็ไม่ใช่แค่หญิงคนเดียวที่เดือดร้อน มันก็มีเด็กทุกตำแหน่งในร้าน จะเป็นช่างสระ ผู้ช่วย อะไรต่าง ๆ เหตุเกิดก็คือเขาจะมีหน้าที่ผู้จัดการร้าน จะคุมทุกอย่าง ยอดเข้าเท่าไหร่ รวมทุกวัน รวมได้เสร็จปุ๊บ วันนี้ได้ยอดเท่านี้นะ หนึ่งหมื่นบาท สองหมื่นบาท วันต่อมาเขาก็จะต้องเอาไปเข้าธนาคาร เข้าเป็นประจำทุกวัน ซึ่งหญิงเป็นคนคุมเงินเอง เป็นบัญชีของหญิง หญิงมีสิทธิ์ถอนได้คนเดียว แต่เขาอาศัยช่วงเวลาที่หญิงไปเที่ยวกับเพื่อน 15 วัน ดังนั้น ก็เลยเป็นจังหวะที่ไม่มีคนเช็กเงิน ไม่มีคนตามเงิน”
“คนก็จะมองว่าทำไมหญิงไม่ห่วงเลยเหรอ ไม่ตามเลยเหรอไปเที่ยว ก่อนหญิงไปหญิงฝากหน้าที่นี้ไว้กับหุ้นส่วนอีกหนึ่งคน ซึ่งหุ้นส่วนคนนี้ก็ดันไปเกาหลีอีก 5 วันพอดี แล้วพอน้องกลับมา น้องก็คือเหมือนต้องเคลียร์งานทุก ๆ อย่าง คนร้ายเขาขโมยได้สบายมาก เพราะมันเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องเข้าเงิน เขาแค่ไม่เอาเข้าบัญชีแค่นั้น หยิบจากเก๊ะไปและก็เอาไปโอนให้กับอดีตรีเชฟชันของเรา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้มีสองคนร่วมขบวนการ คนที่เป็นคนหยิบเป็นผู้หญิง”
“ตอนนี้ก็คือฝากขังเรียบร้อยแล้ว เพราะน้องมามอบตัวกับเราเอง อย่างที่บอกว่าวันแรกเราแชร์กันเยอะมากเลย ในเฟซบุ๊ก เขาก็ติดต่อกลับมาด้วย ขอมอบตัวพร้อมกับหลักฐานที่เขาโอนเงินต่อไปยังบุคคลที่ 3 นั่นก็คือ อดีตรีเซฟชันของเราคนนั้น ก็เลยเหลืออีกหนึ่งคนที่เราต้องตามตัวอยู่ค่ะ ตอนนี้คือหมายเรียกส่งไปแล้ว แต่ไม่ใช่หมายจับนะคะ เพราะตามขั้นตอนทางกฎหมายก็คือ ต้องรอออกหมายจับก่อน ค่อยออกหมายเรียกได้”
เครียดจนนอนไม่หลับหลังขอความร่วมมือจากตำรวจไปแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า ตนจึงทำตามคำแนะนำทนายเตรียมเดินเรื่องฟ้องร้อง หวังได้เงินคืนแม้จะไม่ได้เต็มจำนวนเงินที่หายไปก็ไม่เป็นไร
“ด้วยความที่เราร้อนใจ อาทิตย์กว่า ๆ แล้ว ก็เลยอยากจะขอความวิงวอน ขอความร่วมมือกับทางตำรวจ ตามให้เรานิดหนึ่ง เราเดือดร้อนจริง ๆ ถึงแม้ถ้าเปรียบเทียบแล้วคดีเราอาจจะไม่ยิ่งใหญ่ ไม่สำคัญเหมือนคนอื่น ๆ แต่ก็จะเป็นความกรุณามาก ถ้าจะช่วยเร่งเรื่องของเอกสารต่าง ๆ”
“พอเกิดเรื่องวันแรก ๆ หญิงนอนไม่หลับเลยจริง ๆ เราต้องกินยานอนหลับในช่วงเวลา 3 วัน แต่พอเราได้ยินทนายบอกว่าเรามีสิทธิ์ได้เงินคืนนะ คือ โดยการที่ว่าอายัดบัญชีไปจนถึงปลายทาง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเงินมันไปอยู่ที่ไหนแล้ว ทนายก็บอกอีกว่า จริง ๆ คดีนี้เราสามารถขอสำนวนมาแล้วยื่นฟ้อง คือไม่ต้องรอตำรวจเดี๋ยวพี่ทนายจัดการให้ เราก็เลยรู้สึกว่ามีความหวังขึ้นมา คนเห็นเราจะมองว่าทำไมเราดูไม่ทุกข์เลย ไม่เหมือนคนที่ทุกข์เลย จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้เราทุกข์มาก”
“คนผู้หญิงที่โดนจับไปแล้วคือผู้จัดการร้าน ส่วนอีกคนที่ยังจับไม่ได้ คือ เขาเป็นอดีตลูกจ้างในร้าน เดาว่าเขาน่าจะรู้จักกันในร้าน ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นร้านเล็ก หุ้นส่วนหลักของหญิงเลี้ยงดูเหมือนพี่น้อง เหมือนลูก มีอะไรช่วยเหลือได้ตลอดเลย ดังนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เราเลี้ยงดูอย่างดีจริงๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์เราอยากได้เงินคืน ความหวังเราตั้งไว้ร้อย แต่เงินที่จะคืนขอแค่ 50 - 60 เปอร์เซ็นต์ก็ดีแล้ว คือ ตอนนี้ทำใจ น่าจะได้เงินคืนไม่มากก็น้อย แต่ทนายบอกว่ามันต้องได้คืนทั้งหมดสิ คือตั้งแต่หญิงไปแจ้งความมายังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ก็เข้าใจทางตำรวจ ก็คงมีคดีใหญ่อยู่ โอเค เรื่องของเรามันไม่ได้เป็นเรื่องของชีวิต มันเป็นเรื่องของทรัพย์สิน อาจจะไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย”
ลั่นก่อนหน้านี้ร้านของตนก็เคยโดนกรณีแบบนี้มาแล้ว ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ผู้ประกอบการควรรอบคอบเรื่องการเงินอย่าไว้ใจใครง่าย ๆ
“ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอแต่เป็นครั้งที่สองแล้วค่ะ ครั้งแรกเจอก็คือประมาณแสนกว่าบาท ก็คือเปิดใหม่ ๆ เลย อันนั้นก็คือจับได้อย่างรวดเร็ว คือ ด้วยความที่มีประวัติมาแล้วเราก็เลยต้องรอบคอบ คือเงินต้องผ่านหญิงตลอด ก็คุยกันว่าหลังจากนี้จะต้องวางระบบใหม่หมดเลย ต้องเข้าเงินวันละ 2 รอบ แต่สุดท้ายก็สงสารเด็กอยู่ดี ถ้าเข้าเงิน 2 รอบอาจจะยุ่งยากเกินไป คือเราจะมีคนที่ 2 3 4 แบ็กอัพเพิ่มเติม ก็ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์”
“คือ เพื่อนที่เป็นดาราก็เคยเจอแบบนี้ คือเรางานยุ่งไงอาจจะไม่มีระบบตรวจสอบที่ดี ถ้าเป็นไปได้ คุณอาจจะต้องมี หรือมีคนที่ไว้ใจได้จริง ๆ เพราะว่าสมัยนี้คนรู้หน้าไม่รู้ใจ อย่างทนายสงกรานต์ยังบอกว่าคนที่ทำงานด้วยกันมายี่สิบปี เคยมีคดีแบบนี้มาแล้ว ไว้ใจใครไม่ได้ที่สุด ถ้าเงินสดจะต้องถือเยอะๆ เปลี่ยนเป็นแคชเชียร์เช็กดีกว่า มีดีลกับธนาคารเอาไว้ ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นต้องให้แจ้งทันที ป้องกันไว้ดีที่สุด”
“หญิงไม่ได้อยากต้องการดำเนินคดีหรือไม่ได้อยากจะแบบเธอจะต้องมาติดคุกชดใช้ เอาจริง ๆ หญิงไม่โกรธ หญิงคิดว่าคนเรามันมีความโลภเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าคุณคิดได้ให้เงินมาคืน เดี๋ยวเราคุยกันดี ๆ ได้เพราะว่าทนายบอกแล้วว่ามันสามารถไปรอมชอมกันในศาลได้ ถ้าเขาเอาเงินมาคืนเรา เราสามารถบอกกับศาลได้ให้โทษมันลดลงได้ค่ะ และก็ฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถ้าเป็นช่วงเร่งรัดเรื่องเอกสารให้ เราอยากจะได้ความรวดเร็ว ฝากไว้ด้วยค่ะ”