“โตโน่ ภาคิน” เผยยินดี “แพท” ท้อง 4 เดือน แต่คงไม่มีอะไรรับขวัญหลาน เพราะไม่ได้สนิทและห่างกันมานานแล้ว ส่วนจะปิดตำนานคู่จิ้นหรือไม่ ยกให้แฟนคลับตัดสิน ลั่นยังไม่ใช่เวลาโฟกัสสานสัมพันธ์สาว “เมกัส” บอกอย่าไปอะไรกับอีกฝ่าย คนที่รักและเข้าใจตนมีไม่เยอะ ไม่อยากรีบ เชื่อ “แตงโม” มีเหตุผล เลิกใช้ผู้จัดการคนเดียวกัน
ช็อกบรรดาแม่ยกคู่จิ้น “แพท - โน่” เมื่อสาว “แพท ณปภา ตันตระกูล” ออกมาประกาศท้อง 4 เดือน กับแฟนหนุ่มนักแข่ง “เบนซ์ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช” ซึ่งแฟนคลับก็นั่งคำนวณกันว่าตอนระหว่างนั้นสาวแพทก็ยังมีข่าวอยู่กับหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” อยู่ เมื่อถามถึงข่าวดีของสาวแพท หนุ่มโตโน่ก็เอยปากแสดงความยินดี แต่คงไม่มีของขวัญรับขวัญหลาน เพราะไม่ได้สนิทกันนานแล้ว
“ผมก็ทราบพร้อมทุกคนนะ ไม่ได้ตกใจอะไร มันเป็นข่าวดี ผมว่าทุกคนน่าจะยินดีกับเขา คนที่รัก หวังดีกับเขาทุกคน ต่างร่วมอวยพร ร่วมยินดี กับครอบครัวนี้ ผมเองพอทราบข่าวก็ยังไม่ได้ส่งข้อความไปยินดีเลย ผมทราบเรื่องจากข่าว เพราะว่ามีคนแท็กมาให้ในอินสตาแกรม ก็ดีใจนะเพราะจะได้อุ้มหลาน ก็นึกดูสิ พ่อเขาขี่มอเตอร์ไซค์เก่ง เด็กคนนี้โตขึ้นมาก็ต้องเก่งแน่ ถ้าเขาขี่เก่งแล้วก็ให้ลูกแพทมาเรียนต่อยมวยก็น่าจะเป็นเด็กผู้ชายที่ครบเครื่องนะ ผมยินดีสอนถ้าพ่อแม่เขายินดีจะมาเรียนกับผม”
“(รับขวัญหลานอะไรดี?) โอ้ย...ผมไม่ได้สนิทกับแพทขนาดนั้น จะไปคิดอะไรขนาดนั้นเล่า มันเป็นเรื่องครอบครัวเขา แต่ถ้ามีโอกาสได้เจอกันก็ไม่มีปัญหา เราไม่ได้คุยกันมานานมากแล้ว ไม่คุยกับแพทเลย ที่ยังจิ้นกันอยู่เพราะแฟนๆ รัก มีกลุ่มแฟนคลับที่เขารักเราและเขาก็เหนียวแน่น เขาไม่สนใจว่าเราต้องเป็นแฟนกัน หรือรักกัน เรื่องของชีวิตจริง ที่จะต้องไปคุยกัน หรือสานต่อ ผมไม่ได้อะไรเอาไว้เลย แต่ถ้าเกิดมีโอกาสที่ต้องเจอกัน ก็คุยกันได้ในฐานะคนที่รู้จักกัน เราสนิทกันถึงขั้นที่จะ ไปหาหรือรับขวัญหลานตรงนั้นไม่ได้คิดไว้”
รับตนนั้นห่างมาจากสาว “แพท” นานแล้ว แต่ก็ยังติดตามโซเชียลกันอยู่
“ผมกับเขาห่างกันไปนานแล้ว แต่เราก็ยังติดตามในอินสตาแกรมกันอยู่ และแพทก็กดไลก์ตลอด ถ้าผมเห็นผมก็ไลก์ให้เขาแต่เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยได้ลงรูปในไอจีเลย เพราะงานผมเยอะ ช่วงนี้ทำงานค่อนข้างหนัก ก็คงไม่เลิกติดตาม คนเรารู้จักกันแล้ว ชีวิตจริงผมกับแพท เราไม่ได้สนิทกันไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่ปฏิเสธความรู้สึกดี ๆ ของแฟน ๆ ที่เขารักเราทั้งสองคนไม่ได้ มันไม่แปลกที่เขาจะหวังดีและเชียร์เราทั้งคู่”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามไม่สนิทกันแล้ว แถมอีกฝ่ายแต่งงานจะปิดตำนานคู่จิ้นเลยรึเปล่า งานนี้เจ้าตัวบอกจะปิดหรือไม่ปิดตนและสาวแพทไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจ แต่ต้องเป็นที่แฟนคลับ
“ไม่ทราบนะ เราห่างกันไปนานแล้ว คนที่จะปิดหรือไม่ปิดไม่ใช่ผมหรือแพทหรือเปล่า ในเมื่อแฟน ๆ เขารักเราเหมือนเดิมก็ไม่ได้ปิดอะไร เขายังเชียร์โน่แพทเหมือนเดิม คนที่ยังรักเราก็มี ที่เลิกเชียร์ก็มี ก็แล้วแต่พวกเขาเลย ตอนนี้บ้านคู่ยังมีอยู่ เขายังตามเชียร์ผมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านโน่ริท โน่แพท หรือโน่อื่น ๆ มันไม่ได้เกี่ยวกับชีวิตจริงของเรามันเป็นอย่างไรหรอก เราได้รู้จักกันแล้ว พวกเราได้รักเราแล้ว มันเป็นความผูกพันมากกว่า ผมไม่ได้สนใจเลยว่า พี่ ๆ สื่อหรือใครคิดว่าเป็นตำนาน ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นธุรกิจแต่แรก อะไรที่คนดูมีความสุขเราก็ทำ ผมร้องเพลงผมทำอะไรแล้วแฟน ๆ มีความสุข ผมอยากเห็นพวกเขาสนุก จะปิดตำนานหรือไม่ปิดแล้วแต่พวกเขาเลย ส่วนผมยังร่วมงานกับแพทได้ไม่มีปัญหา”
ลั่นยังไม่ใช่เวลาโฟกัสสานสัมพันธ์สาว “เมกัส ภูษิตา” ไม่อยากรีบร้อน
“ผมว่ามันต้องใช้เวลา อย่าเร่งเลยไม่ว่าใครก็ตาม ทุกคนอยากมีความรักที่ดี ผมคิดว่าบางครั้งความรักมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดมันอยู่ที่การกระทำ แต่อยู่ที่เวลาด้วยคนที่จะรักผม เข้าใจผม มันไม่ได้มีเยอะ มันยากนะที่จะเริ่มต้นกับใคร ช่วงแรกที่คนเริ่มจีบกันมันอาจจะตื่นเต้น แต่พอได้เห็นงานของเราที่ต้องทำทุกวันผมว่ามันยากนะ ที่เขาจะเข้าใจเราได้จริงๆ เวลาจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดไม่อยากจะรีบ ที่ไม่ได้ตามโซเชียลเขา จริงๆ แล้วผมไม่ได้ใส่ใจเลยกับโซเชียล อย่างอินสตาแกรมก็ไม่สนใจเลยแม้กระทั่งของตัวผมเอง (เหมือนเขาแต่งตัวเรียบร้อยขึ้นหลังจากที่มีข่าวกับเรา?) อย่าไปอะไรเลยครับ”
ยันตนไม่เกี่ยวหรือมีเรื่องอะไรกับอดีตภรรยาเก่า “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” จนทำให้อีกฝ่ายตัดสินใจเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัว
“ผมคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของโม กับพี่เมย์ (ผู้จัดการ) เขารู้จักกันมาก่อนผม ดังนั้น ผมเชื่อว่าเขามีเหตุผล แต่ผมก็ยังเห็นว่าเขามีมิตรภาพ เป็นเพื่อนของการทำงาน แต่ในส่วนของการทำงาน อันนี้ผมว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับผม ไม่ได้ติดต่อเลย ผมทำงาน ตอนนี้นึกถึงแต่วง หัวหน้าวงก็เพิ่งแต่งงานไป ผมจะพัฒนาการโชว์ และเพลงให้ได้มากที่สุด เรามีโอกาสดี ๆ เข้ามาเยอะ”
“จากเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่เราสร้างวงขึ้นมา 2 ปีต่อมาเราได้คุยกันว่าจะเลิกหรือไปต่อ เพราะตอนนั้นเราก็หนัก ไม่ว่าจะเป็นข่าวหรืออะไรก็ตามเยอะแยะมากมาย ทุกวันนี้เรามีแฟนเพลงมากขึ้น มีกลุ่มแฟนเพลงที่ติดตามเรามาขึ้นทุกวัน ผมว่ามันเป็นกำลังใจที่ดีกับวงเล็ก ๆ ของเรา ผมเห็นเพื่อนมีงาน มีเงิน ดูแลพ่อแม่ และคนที่รัก ผมก็ยินดีไปด้วย ดังนั้นผมจึงโฟกัสตรงนี้ ยิ่งเราเก่งมากขึ้น คนดูก็ยิ่งสนุกไปกับงานของเรา ดังนั้น ตรงนี้เราก็สุขใจ เรื่องความรักให้เวลาเป็นตัวบอก ถึงมีผู้จัดการคนเดียวกัน ก็ใช่ว่าเราต้องสานต่อ หรือไม่มีแล้วต้องเลิกคุยกัน มันไม่เกี่ยวกับเรื่องของผู้จัดการ”
