“ลุ้นระทึก ตื่นเต้น ตั้งแต่ต้นจนจบ”
นี่คือคำจำกัดความที่ผมมอบให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะตลอดระยะเวลาความยาวราวๆ 90 นาที หลังจากแนะนำตัวละครและพื้นฐานเรื่องราวแบบรวบรัดประมาณสิบนาทีแรกแล้ว หนังก็พาคนดูเดินทางเข้าสู่บรรยากาศระทึกขวัญอันยืดเยื้อยาวนาน และยึดคนดูไว้กับบรรยากาศนั้นจนสุดปลายทางของหนัง พูดได้ว่า ตัวละครในเรื่อง กดดันบีบคั้นเพียงใด เราคนดูก็คล้ายจะถูกดึงเข้าไปสู่สภาพแบบนั้นด้วย เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์และเผชิญสถานการณ์แบบเดียวกันกับตัวละคร ซึ่งนี่ก็คือความยอดเยี่ยมของหนังที่ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมได้ถึงเพียงนั้น
Don't Breathe เป็นผลงานกำกับของ “เฟเด้ อัลวาเรซ” คนทำหนังที่ดูเหมือนจะกลายเป็น “ลูกหม้อ” ของแซม ไรมี่ ไปแล้วเรียบร้อย เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2013 เขาเคยหยิบเอา Evil Dead หนังเก่าของแซม ไรมี่ มารีเมค โดยมีแซม ไรมี่ เป็นโปรดิวเซอร์ เช่นเดียวกับงานล่าสุดนี้ก็มีชื่อของแซม ไรมี่ นั่งเก้าอี้ตัวเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือความเข้มข้นเคร่งเครียดระดับสิบ ซึ่งอบอวลอยู่ในมวลบรรยากาศของหนัง
พล็อตเรื่องที่พอเล่าได้ เกี่ยวกับตัวละครหนุ่มสาว 3 คนที่เดินอยู่บนวิถีแห่งหัวขโมย ย่องเข้าบ้านคนมีเงินเพื่อลักเอาสิ่งของมีค่า และพวกเขาก็คงทำแบบนั้นมาแล้วหลายครั้ง กระทั่งถึงจุดที่เป็นเหตุการณ์ในหนัง พวกเขาทั้งสามได้ตกลงกันที่จะเข้าไปย่องเบาบ้านหลังหนึ่งซึ่งคิดคำนวณดูแล้วเห็นว่าเป็นงานหมูๆ เพราะในบ้านหลังนั้นที่อยู่ท่ามกลางชุมชนร้าง มีเพียงชายแก่ซึ่งเป็นทหารเก่า แถมตาบอด อาศัยอยู่คนเดียว แต่เหตุการณ์จะเป็นเช่นที่คาดนั้นหรือไม่ และมีอะไรรอคอยพวกเขาอยู่บ้างในบ้านหลังดังกล่าว เป็นสิ่งที่หนังจะนำเราไปพบ
ไม่ว่าวัยรุ่นทั้งสามจะประสบความสำเร็จสมดังที่หวังตั้งใจไว้หรือไม่ แต่สำหรับงานชิ้นนี้ มีความสำเร็จอย่างยิ่งยวดในแนวทางของตัวเอง กับการเป็นหนังระทึกขวัญ ตั้งแต่การออกแบบตัวละคร โดยเฉพาะอดีตทหารผ่านศึกซึ่งจะกลายเป็นศึกใหญ่ของวัยรุ่น การเป็นคนตาบอดของเขา กลับกลายเป็นอุปสรรคสำคัญของการย่องเบาและเอาตัวรอดของเหล่าวัยรุ่นได้อย่างที่พูดได้ว่า ถ้าไม่พบเจอเข้ากับตัวเอง ก็คงไม่มีทางเชื่อ ขณะเดียวกัน นักแสดงผู้รับบททหารเก่าก็แสดงได้ดีเหลือหลาย เป็นใครถ้าได้เห็นเช่นนั้น ก็คงอดที่จะรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนไม่ได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า บรรดาวัยรุ่นที่เข้าไปย่องเบา แต่ละคนก็ใช่ว่าก๋ากั่นเก่งเก๋าอะไรนัก พวกเขาเป็นเพียงวัยรุ่นธรรมดาที่มีแรงผลักจากเงื่อนไขบางอย่างให้กระทำเรื่องที่ไม่ควรกระทำ เมื่อไม่ได้เก๋าจริง พอเจอกับตัวจริง ก็ออกอาการไปไม่เป็น
สำหรับตัวละคร... หนังออกแบบมาได้ดีและมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือ แต่ละคนมีพื้นเพภูมิหลังและแรงจูงใจว่าเพราะอะไร จึงต้องทำเรื่องราวนั้นๆ ไม่นับรวมตัวละครวัยรุ่นที่แรงจูงใจถูกเปิดโปงตั้งแต่ช่วงสิบนาทีแรกๆ แม้กระทั่งชายชราตาบอดที่พูดน้อยต่อยหนัก (ต่อยหนักจริงๆ มีบีบคอด้วย) ถึงเวลาที่แกพูดออกมาอย่างจริงจัง ก็ทำเอาเราอึ้งไปเหมือนกัน
เหตุการณ์ในบ้านหลังเดียว แต่ตรึงเราอยู่หมัด นึกถึงบรรยากาศคล้ายๆ กันนี้ที่เกิดขึ้นในหนัง 10 Cloverfield Lane หรือหนังที่ดูแนวทางเหมือนกันกว่านั้นหน่อย ก็อย่างเช่น Inside (2007) ที่ถือเป็น “วัน อ๊อฟ เดอะ เบสต์” ของหนังแนวระทึกขวัญอีกเรื่องหนึ่ง กล่าวสำหรับ Don’t Breathe ก็นับว่าทำได้ไม่น้อยหน้า ความน่าหวาดหวั่นขวัญผวาแบบที่คนดูยังอดที่จะหยุดหายใจไปกับตัวละครด้วยไม่ได้ ในจังหวะที่ระทึกตื่นเต้นถึงขีดสุด
สำหรับคนที่ชอบหนังระทึกขวัญ เขย่าขวัญ ที่อวลด้วยบรรยากาศการไล่ล่าและเอาตัวรอด นี่คืองานที่จะตอบสนองคุณได้เป็นอย่างดี
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม