“ปู ไปรยา” รับควง “โน้ต วิเศษ” ทำบุญที่วัดแขก บอกเป็นการไปขอพลังงานดี ๆ ไม่เกี่ยวกับความรัก บอกขอให้เช็กรูปด้วย ตนไม่เคยหลบซ่อน เผยเหตุผลที่ไม่ยอมคืนดี ชีวิตคาดหวังกับความรักมาเยอะ อยากให้เวลาตัวเอง คบกันแบบไม่มีสถานะดีกว่า
เลิกกันไปแล้วแต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่ก็ไม่วายทำให้แฟน ๆ พากันลุ้นว่า “ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนเบิร์ก” จะคืนดีกับ “โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพฒน์” หรือไม่ เพราะควงกันไปทำบุญด้วยกันบ่อย ๆ ล่าสุด ก็ไปทำบุญที่วัดแขก ย่านสีลม โดยเจ้าตัวเปิดใจระหว่างมาร่วมงานฉลองครบรอบ 8 ปี โรงแรมไอบิส ประเทศไทย ยันยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและไปไหนมาไหนด้วยกันเพราะตนไม่รู้จะไปกับใคร
“ไม่นะคะ แล้วก็ไม่ได้ปากแข็งด้วย เป็นคนเปิดเผยอยู่แล้ว แต่ว่าจริง ๆ อย่างที่บอกเราคบกันมา 5 ปี ตอนลดสถานะปูก็บอกว่าความสัมพันธ์เราดี เราไม่ได้โกรธอะไรกัน กลุ่มเพื่อนก็กลุ่มเดียวกัน คบเหมือนเป็นเพื่อนสนิทหนูเลย อย่างที่เคยพูด แฟนไม่ได้มีความสำคัญมากกว่าคำว่าเพื่อน ยังใส่ใจและแคร์เขาอยู่ ใน 2 - 3เดือนนี้ เรื่องราวค่อนข้างเกิดขึ้นเยอะ ถามว่าเราพร้อมที่จะคืนดีมั้ย ก็ยังนะคะ เราไปไหนมาไหนด้วยกันก็ไม่รู้จะไปกับใคร”
“ที่บอกว่าเราไปทานข้าวกับผู้จัดการแล้วเขาไปรับ ก็ไม่ได้ไปรับค่ะ ไปทานด้วยกันทุกคน ปกติเราก็กินข้าวกันอยู่แล้ว ปูไปไหนกับเขาเหมือนเดิมก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราก็โต ๆ กันหมดแล้ว ไม่แปลก บางคนแต่งงานเลิกกัน ยังเลี้ยงลูกด้วยกันได้เลย”
“ขอบคุณที่ลุ้นให้รีเทิร์นนะคะ อย่างที่บอกปูเป็นคนไม่คาดหวังอะไร แต่ตอนนี้ดูกับการงาน ทุกอย่างมันโอเค เวลาก็ไม่ค่อยมี ความรักเอาไว้ก่อนแป๊บหนึ่ง ความสัมพันธ์ของเราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”
เผยเหตุผลไม่คืนดี “โน้ต” เพราะคาดหวังกับความรักมาเยอะ ไม่ใช้คำว่าพี่น้อง ขอเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน
“เขาก็เฉย ๆ อย่างที่บอกเราก็ทำงานด้วยกัน เหตุผลที่ยังไม่คืนดีกันคือปูว่าปูคาดหวังกับความรักมาเยอะแล้ว แล้วตอนนี้อยากทุ่มกับตัวเอง อยากเรียกรู้ตัวเอง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าใครไม่ดีหรือไม่อยากจะคบ มันจะมีสักกี่ปีที่เราจะใช้ชีวิตแบบนี้ได้”
“คำว่าพี่น้องมันฟังดูแปลก (หัวเราะ) มันดูไม่จริง เอาจริงๆ เราเป็นเพื่อนที่รู้สึกดีต่อกัน แต่ปูก็ตอบไม่ได้ว่าอีก 6 - 7 เดือนข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ปูไม่อยากมีอีกบุคคลที่อยู่ในชีวิตปู และปูต้องรับผิดชอบให้เวลา มันค่อนข้างเหนื่อยค่ะ คุณโน้ตเขาก็รู้ค่ะว่าคนอยากให้รีเทิร์น เขาดูข่าว แต่เขาเองก็ต้องทุ่มกับงาน อย่างที่บอกที่เราถอยหลังกันมาทั้งคู่เพราะมันถึงจุด ๆ หนึ่งในความสัมพันธ์ที่คิดว่าเราควรจะเรียนรู้ว่าเราและเขาต้องการอะไร และบางครั้งที่เราใช้เวลาด้วยกันมากเกินไปเราลืมที่จะเว้นช่องว่างให้คนสองคน การเป็นแบบนี้อยู่แบบไม่มีสถานะอะไรปูรู้สึกดีกว่า”
รับไปทำบุญที่วัดแขกด้วยกัน บอกเป็นการไปขอพลังงานดี ๆ ไม่เกี่ยวกับความรัก ขอให้เช็กรูปด้วยตนไม่เคยหลบซ่อน
“ใช่ค่ะ ไปไหว้พระ แต่ปูไม่ได้อำพรางนะคะ (หัวเราะ) เป็นขาประจำวัดแขกอยู่แล้วค่ะ เขาไม่เคยไปเราก็เลยพาไปไหว้ ก็ถามเขาว่าจะไปไหว้มั้ยเพราะเขามีโปรเจกต์ใหญ่มาเร็ว ๆนี้ก็เลยถามว่าไปไหว้ไหม เผื่อจะปังนะ (หัวเราะ) ก็ไม่ได้ถามค่ะว่าเขาขอพรอะไร แต่แน่ ๆ ไม่ควรขอเรื่องความรัก เพราะความรักเป็นเรื่องที่เราบังคับใจคนอื่นมันไม่ถูกหลักการธรรมะนะคะ จริง ๆ การขอพรก็เหมือนเราปลุกใจตัวเองว่าเราทำได้ ก็เลยพาเขาไปดึงพลังงานดี ๆ”
“ไม่ได้แก้เคล็ดเรื่องความรัก แก้เคล็ดอย่างอื่นอาจจะแก้ได้นะ แต่ปูเป็นคนที่มีประสบการณ์ด้านนี้มาเยอะแล้ว ความรักมันเป็นเรื่องความรู้สึก มันอธิบายไม่ได้ ไม่สามารถไปขอพรหรือแก้อะไรได้ ปูไม่ได้หลบซ่อนนะคะ เช็กรูปด้วย เปิดหน้าเต็มที่นะคะ (หัวเราะ) ขนตาติดเต็มค่ะ”
“เราก็รู้สึกดี ๆ ต่อกันนะ แต่ว่าตอนนี้อย่างที่บอกมันไม่ได้อยู่ที่ตัวเขาหรือเรา ตอนนี้ปูห่วงงานปูมากกว่า ทุกอย่างกำลังดี โอกาสดี ๆ อย่างนี้ไม่ได้มีทุกวัน พอเริ่มมีงานเยอะเราก็อยากจะมีทรัพย์สินมีเงินทองในบัญชี เลี้ยงดูครอบครัวส่งน้องเรียนได้ เรื่องผู้ชายเดี๋ยวไว้ก่อน”
รับรักแม่และครอบครัวฝ่ายชายมากก เชื่อใครได้อยู่กับครอบครัวนี้จะโชคดี
“ใช่ปูรักแม่มาก รักทุกคน ผู้หญิงคนไหนที่ได้อยู่ครอบครัวนี้เป็นผู้หญิงที่โชคดีมากเพราะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก และปูก็นับถือแม่เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ขอทำงานเก็บเงินก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันยังไม่แก่ ยังสวยอยู่ เดี๋ยวก็มีคนมาขอคบ (หัวเราะ)”
เอาเวลาที่เคยใช้ไปเดินห้าง เดินหน้าสร้างคุณค่าให้ตัวเอง คืนกำไรสู่สังคมบ้าง
“ก็ทำเรื่อย ๆ นะคะ จริง ๆ ปูเคยพูดหลายครั้งแล้ว คนคงฟังจนเบื่อ ดาราได้อะไรจากสังคมเยอะ เราก็ควรจะคืนอะไรให้สังคม ปูก็เอาเวลาที่ปูเคยใช้เดินห้าง เปลี่ยนไปทำอะไรแบบนี้ ที่ให้คุณค่าเราสูงกว่า การที่เราไปพบปะผู้คน ที่อยากเจอเรา ต้องการความช่วยเหลือจากเราเป็นเรื่องที่ดี”
“เมื่อก่อนปูก็ไม่ได้เป็นแบบนี้เหมือนกันนะ แต่พอโตขึ้นปูรู้สึกว่าคนเราเกิดมาแค่ครั้งเดียวต้องใช้ชีวิตให้มีค่า เวลาตัดสินใจทำอะไรปูทำเต็มที่ แล้วเวลาเราช่วยเหลือคนอื่นเป็นผู้ให้ มันทำให้เราเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองอย่างลึกซึ้ง เมื่อเวลาเราได้เห็นคนอื่นประสบความลำบาก เราเริ่มเข้าใจว่าเราควรจะวางตัวในชีวิตเรายังไง”
แพลนตั้งมูลนิธิยังอีกยาวไกล มั่นใจดาราหลายคนก็ทำอยู่แต่แค่ไม่พูด
“นั่นคือเป้าหมายในอนาคตที่ไกลมาก ตอนนี้ปูต้องทำงานให้มูลนิธิอื่นไปก่อน จริง ๆ คำว่าตั้งมันง่าย แต่ว่าเหมือนการช่วยชีวิตหรือเปลี่ยนแปลงชีวิตคน มันไม่ได้ทำปีสองปี มันเป็นชั่วชีวิตของคนคนหนึ่ง มันมีความรับผิดชอบสูง ตอนนี้ปูยังไม่พร้อม จริง ๆ ปูไม่ต้องฝากใค ปูเชื่อว่ามีดาราหลายคนอยากทำอยู่แล้ว บางคนก็ทำแล้วไม่พูดก็มี”