“อ้วน รังสิต” ลั่นรักนางแบบเกาหลี “ปาร์ค ฮยอน ซอน” แฮปปี้ แพลนไม่เกิน 2 ปี แต่งแน่ เล็งให้ฝ่ายหญิงมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย แต่ไม่ให้เข้าวงการ เพราะตนหวงไม่อยากให้ใครมอง ขอเก็บไว้มองคนเดียว ฟุ้งรักสาวเกาหลีมีสีสัน ไม่น่าเบื่อ
เรียกว่าความรักทำให้คนเปลี่ยนไปก็ว่าได้สำหรับหนุ่ม “อ้วน รังสิต ศิรนานนท์” ที่หลังจากออกตัวคบนางแบบเกาหลี “ปาร์ค ฮยอน ซอน” ก็มักจะลงภาพให้ใคร ๆ เห็นในลุกส์ใส ๆ แบ๊ว ๆ จากที่แต่ก่อนมีภาพลุกส์เจ้าชู้ ล่าสุด หนุ่มอ้วนมาอัปเดตความรัก เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่าที่ทำตัวแบ๊ว เพราะอยากตามใจแฟน เวลาทำแล้วแฟนจะมีความสุข
“พยายามทำตัวกลมกลืนครับ ก็ต้องมีความคิขุ แบ๊ว ๆ น่ารัก ๆ บ้าง อย่างเวลาถ่ายรูปก็ต้องมีตามเขาบ้าง โดนบังคับครับ อะไรที่เขามีความสุข เราทำได้เราก็ยินดีครับ เรื่องภาษาหลาย ๆ คนก็บอกว่าผมพูดภาษาเกาหลีไม่ได้ทำไมไม่ไปเรียน แต่คือผมไม่ได้รับอนุญาตให้เรียนครับ เขาไม่อยากให้ผมเรียน ถามว่าเขากลัวจะไปจีบสาวเกาหลีมั้ยอันนี้ผมว่าน่าจะมีส่วน หลัก ๆ คือ เขาบอกว่าให้เขาได้ก่อน วันก่อนเจอจียอน (ซอ จียอน) เขายังบอกเลยว่าเราควรจะเสียสละเรียนภาษาเกาหลีด้วย ทำทุ่มเท ผมบอกว่างั้นไปคุยกันเองนะ (หัวเราะ) ผมรู้ภาษาเกาหลีแค่บางคำนิดหน่อย เขาจะคอยสอนตลอด ผมเองก็จะคอยสอนเขาตลอด แล้วเขาก็เรียนของเขาเองด้วย”
เชื่อผ่านการครบรอบรัก 1 ปี เป็นสัญญาณที่ดีของความรัก เล็งภายใน 1 - 2 ปีนี้แต่งงาน
“ครบรอบ 1 ปี มาเมื่อไม่กี่เดือน ก็เป็นสัญญาณที่ดีครับว่าเราอยู่กันได้ เราก็มีคุย ๆ กันบ้างว่าอนาคตจะเป็นยังไง ตอนนี้อย่างแรกเลย คือ ให้เขาพูดภาษาไทยได้ก่อน ตอนนี้เขาเองก็พูดไทยได้เยอะแล้วเหมือนกัน เรื่องแต่งงานวางยาว ๆ ไม่เกิน 2 ปี วางสั้น ๆ ไม่เกินปีหนึ่ง เราก็มีคุยกันแล้ว เขาค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องตรงนี้”
“เราเองไม่คิดเลยว่าชีวิตเราจะได้แต่งงาน แต่ตอนนี้ต้องเริ่มคิดแล้ว ผู้หญิงทุกคนอย่างแต่งงานอยู่แล้ว แต่ตัวผมเองไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตเราจะต้องมีวันนี้ พอได้คบกับเขาแล้วมันทำให้เราได้รู้สึกว่ามันต้องมีสักวันหนึ่ง ตอนนี้ตัวผมเองมั่นใจว่าคนนี้คือคนที่ใช่แล้ว แต่อนาคตมันก็เนอะ เอาเป็นว่าตอนนี้แน่ใจ 98 เปอร์เซ็นต์ว่าเป็นเขาแล้วกัน”
ลั่นครอบครัวสองฝ่ายไม่มีปัญหา แพลนหากแต่งงานแล้วให้ฝ่ายหญิงมาใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทย แต่ไม่ให้เข้าวงการ เพราะตนหวงไม่อยากให้ใครมอง
“ในส่วนของครอบครัวไม่มีปัญหา ผมเองก็เคยมีโอกาสได้เจอครอบครัวเขาแล้ว แต่ว่ายังไม่ค่อยได้คุยอะไรกันเยอะแยะมากมาย เพราะว่าคุยกันคนละภาษา อย่างจะได้ยินมาว่าคนเกาหลีเขาไม่ค่อยเปิดรับแต่งงานกับคนไทย เท่าที่คุยก็ดูไม่มีปัญหาอะไรนะครับ ถ้าเกิดพร้อมเมื่อไหร่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถ้าแต่งงานกันแล้วเขาคงต้องมาอยู่เมืองไทย สักวันหนึ่งจะพามาให้ทุกคนเห็น ปกติผมอยู่คนเดียวไม่ค่อยได้ถ่ายรูปแต่อยู่กับเขาจะถ่ายรูปเยอะก็เลยมีรูปให้อัปเยอะ”
“เรื่องดันเขาเข้าวงการอันนี้คงไม่แน่นอนครับ เพราะผมขี้หึงครับ ไม่อยากให้ใครมองเขา เก็บไว้มองคนเดียวดีกว่า ยิ่งเขาเป็นนางแบบด้วย เรายิ่งต้องหวง เขาเองก็เฉยๆ กับการเข้าวงการด้วย ตัวเขาอยู่ที่โน่นเขาก็ไม่ได้อยากเข้าวงการ เขาเป็นแค่นางแบบถ่ายภาพนิ่งตามหนังสือ เขาเองนี่หึงยิ่งกว่าผมอีกนะ ผมก็จะบอกว่าคุณต้องเข้าใจสิ เขาก็บอกว่าเขาเข้าใจแต่เขาก็มีสิทธิ์ที่จะหึงใช่มั้ย ผมก็เลยต้องมีหน้าที่ง้อเขาอย่างเดียว”
“อย่างพวกเลิฟซีนนี่ไม่เล่าให้ฟังเลย เขาก็พยายามจะเสิร์จหาดูฉากพวกนี้นะครับแต่ว่ามันไม่มี แต่ก็มีที่เขาบังเอิญไปเจอเอง ก็ต้องอธิบายว่ามันเป็นงาน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรร้ายแรง หน้าที่ของเราคือต้องง้อ มันก็เป็นสีสันดี มีโกรธกันบ้าง ทะเลาะกันบ้างมันก็ทำให้ไม่เบื่อ”