xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “โตส” ยันไม่ได้กระทืบ “ฟ้า” แฉเป็นฝ่ายถูกถีบและเหยียบหัว ก่อนจะจบลงที่เตียง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“โตส อัครัช” โต้กลับ “ฟ้า บาร์บี้” บอกตนต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกตบ - กระทืบ - ลุกขึ้นเหยียบ แถมเคลียร์ลงตัวนอนจับมือกันถึงเช้า ขู่ถ้าไม่จบจะงัดหลักฐานกล้องวงจรปิด - คลิป - ภาพ มาแฉให้หมด! ฉุนถูกทำให้เสียชื่อ ฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาท เผย ฝ่ายหญิงขู่ถ้าไม่กลับมาคืนดี จะแต่งเรื่องว่าตนทำร้ายให้เสียชื่อเสียง โอดถูก “พชร์ อานนท์” สั่งพักงาน



เรียกว่าออกมาตอบโต้เป็นหนังคนละม้วนกันเลยทีเดียว สำหรับ “โตส อัครัช” กรณีที่ถูกแฟนสาว “ฟ้า บาร์บี้” ออกมาแฉทำร้ายร่างกาย ด่าหนักเป็นผู้ชายหน้าตัวเมีย จน “พชร์ อานนท์” ออกโรงปกป้อง งัดไลน์มาโต้ ระบุว่า ฝ่ายหญิงทำรอยฟกช้ำขึ้นมาเอง ล่าสุด หนุ่มโตสได้เปิดใจในรายการ “ปากโป้ง” ลาดพร้าว 15 ยอมรับคบหากัน 11 เดือน ก่อนเลิก ยืนยันไม่ได้ตามง้อ ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย มีแต่ตนที่ถูกตบ - กระทืบ

“ผมคบกับเขา 11 เดือน เขาทักมาหาเพื่อนผม บอกว่าชอบผม ผมก็คุยกับเขา ก็คบกัน รักกันดีนะครับ มีช่วงหลัง ๆ เรื่องเที่ยว เวลาเขาขอผมไปเที่ยวผมให้ไป แต่กลับมาไม่ค่อยตรงเวลา เขาเป็นนางแบบอิสระ ไม่เชิงพริตตี้ เป็นเน็ตไอดอล เวลาใครจ้างรีวิวก็รีวิว ก็เลิกกันด้วยสาเหตุนี้ แต่ก่อนผมไม่ชอบเที่ยวอยู่แล้ว นาน ๆ เพื่อนชวนก็ไป”

“เขามาอยู่บ้านผมครับ บางทีเขาก็อยู่กับผม บางทีก็กลับบ้านเขา เวลาขอไปเที่ยวให้ไป แต่ก็ต้องตอบไลน์กัน ตอบว่าอยู่ไหนทำอะไร ผมเป็นห่วงอยู่แล้ว แต่เวลาผมไปเที่ยว เขาก็บังคับไม่ให้ไป เดี๋ยวเจอผู้หญิง ผมไม่เคยไปเลย ไม่อยากมีปัญหา ใจเขาใจเรา ผมคิดว่าผมทำอะไรไป เขาคงเห็นใจผม ซึ่งผมเป็นคนบอกเลิกเขาครับ”

ยันไม่เคยจิกหัว แค่ขึ้นมึงกูเพราะโกรธ เลิกกันเกือบเดือน แต่กลับมาคุยกัน ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างมีคนคุยใหม่แล้ว
“ไม่เคยทำขนาดนั้น (หัวเราะ) ไม่เคยทำเลยครับ ยอมรับว่า เวลาทะเลาะเสียงดังโวยวายมาก เขาก็เสียงดังเหมือนกัน เขาทำอะไรก็ยอมหมด ผมเหมือนกวน เขาด่ามาผมก็นิ่ง ตบมาก็นิ่ง เหมือนกวน ไม่รู้สึกอะไร แต่ผมไม่เคย คือ เหตุการณ์วันนั้น เขาขอไปเที่ยวจริง ผมให้เขาไป เขาบอกจะตอบไลน์ผม วันนั้นตอนเช้าผมต้องถ่ายหนังตีห้าครึ่ง ผมก็ห่วงแฟน เขาบอกว่าจะตอบไลน์ผมทุกครั้ง แต่ผมทักไปเขาไม่ตอบ แล้วสัญญาว่าจะมานอนที่บ้านผมตอนตีสี่ มีแม่กับน้องซึ่งรักเขามาก เป็นบ้าน เขาก็บอกว่าตีสี่จะมานอนด้วย เขาสัญญากับผมแล้ว ผมโอเค ตื่นมาเขาไม่ได้กลับบ้าน ผม โทร.หาเขา ผมไม่มีสติในการถ่ายหนัง โทร.หาจนบ่ายโมงไม่รับสาย โทร.หาเพื่อนก็ไม่รับ”

“เขา โทร.กลับมา แล้วบอกว่านอนอยู่คอนโดเพื่อน เขาเมาไม่รู้เรื่อง เพื่อนก็เมา รับสายไม่ได้ ตอบไม่ได้ แล้วทำไมถึงขับรถกลับคอนโดเพื่อนได้ ผมแกล้งคุยดีกับเขา บอกว่าไม่เป็นไร พอกลับมาก็เป็นคำถามในใจว่าไปไหนมา ก็พูดว่าขอความจริง ว่าความจริงคืออะไร ผมไม่ได้พูดดี ผมเป็นคนเสียงดัง มีขึ้นมึงกูตอนหลัง ๆ ยอมรับเพราะผมเป็นลูกผู้ชาย แต่ไม่จิกหัวเขา ทะเลาะเสียงดังมาก ผมเป็นคนบอกเลิกต่อหน้าแม่เลย แม่ผมก็ร้องไห้ เพราะเห็นว่าทะเลาะกันบ่อยมากเรื่องแบบนี้ แม่ร้องไห้จนสงสารแม่ ก็เลยเลิกกัน เขาก็ออกจากบ้านไป”

“แยกประมาณเกือบเดือน พอเลิกกันเกือบเดือน หลัง ๆ เราก็ผูกพัน เราคุยกันได้ นัดเจอกันได้ มีการพูดคุย ผมก็มีคนของผม เขาก็มีคนของเขา เรามีข้อตกลงว่าเราจะเจอกันก็ได้ เราอยู่ด้วยกันทุกวัน เราผูกพัน ผมมีคนคุย แต่ไม่ได้มีแฟน เรามาเจอกัน กินข่าว ดูหนัง เดินเล่นกันได้ (กิ๊กเหรอ?) ผมไม่รู้ว่าเป็นสถานะอะไร วันนั้นเขานัดผมไปหาเขา และเขาเป็นคนง้อผม เขาจะพูดเสมอว่าเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย คือ เขามีคนของเขา เรามีคนของเรา ไม่สามารถเลิกคุยกับคนนี้ได้เพราะเขาดี”

“เราเจอกันได้เสมอเป็นข้อตกลง วันนั้นเขาให้ผมไปหา ผมไปหาเขาจริง เราคุยกันตลอด ผมก็ขับรถไปหา แต่เขาเหมือนโกหกอะไรผมสักอย่าง เหมือนเขาต้องไปหาใครสักคนก่อนผม เพราะหลอกให้ผมรอที่หนึ่งก่อน ก็รู้สึกว่าเขาไม่อยู่บ้านแน่นอน เลยขับรถไปที่หน้าบ้านไม่บอกเขา ซึ่งเขาไม่อยู่บ้าน แต่ในข่าวเขาบอกว่าเขาอยู่บ้าน ผมขับไปป้อมยาม ถามว่าเจ้าของบ้านออกไปไหนหรือเปล่า ยามบอกว่าออกไปก่อนผมมาสัก 40 นาที ผมไปจอดหน้าบ้าน ยืนรอเขา แบตหมด ก็กลับไปหายามขอยืมที่ชาร์จแบต ก็บอกว่าอยู่ที่หน้าบ้านแล้ว เขาก็ตกใจ”

“มีกล้องวงจรปิด เขากล้าเอาภาพมาถึงตอนเขาออกไปเลยมั้ย ผมมีหลักฐาน จะเอายามมาเลยก็ได้ ยามเห็นใจผมเลย เพราะผมไม่ผิด ผมรออยู่หน้าบ้าน เขาเลยขับรถมา เขาบอกว่าผมบีบแตรตะโกนเสียงดัง ถ้าทำแบบนั้นยามเอากระบองมาตีผมแล้ว เขาก็ขึ้นรถ แล้วก็ขับออกไปปกติ ผมก็ถามเลยว่าเขาไปหาใคร เขาก็ไม่ตอบ เขาด่าผมสารพัด ถามว่าเขาเป็นคนอารมณ์รุนแรงมั้ย ผมไม่ขอพูดตรงนี้ ผมให้เกียรติผู้หญิง”

ไม่พอใจถูกด่าพ่อแม่ แต่ตนไม่ได้ทำร้ายร่างกาย บอกอีกฝ่ายต่างหากทั้งตบทั้งถีบ ลุกขึ้นเหยียบหัว
“พอขึ้นรถก็เหมือนทับถมผม เอาครอบครัวมาเล่น ด่าพ่อแม่ ผมโมโหนะผมขับรถเร็ว ผมไม่ตี เขาตีผม ผมเป็นคนกวน อยู่เฉย ๆ หน้านิ่ง ๆ พูดอะไรมาเหมือนหูทวนลม เขาผลักหัว ถีบตัว สักพักจิกหัวผมเลย ผมคาดเบลท์ จิกหัวผม แล้วเหยียบผม ผมต้องเหยียบเบรก เท้าซ้ายต้องค้างไว้ ต้องเหยียบเบรกมือ ผมจะเอาเท้าไหนไปถีบเขาพี่ เขาลุกยืนเหยียบหัวผมเลย จิก ๆ ผมทุกอย่าง”

“ผมโดนตบ มือหนึ่งก็จับพวงมาลัย ผมจับมือเขาแล้วดันตัวออก รถจอดแล้ว ถ้าอยากทำก็ทำอีกนะ ถ้าตายก็ตายด้วยกัน ผมก็ขับต่อ เขาก็ถีบผม ด่าผมเป็นระยะ ๆ ผมไม่รู้ว่ารอยแผลเขาเกิดจากอะไร แผลที่เกิดมีแผลเดียว คือ แผลมือข้างขวาเป็นรอยที่จับให้เขายั้งแรง แต่ตรงอื่นผมไม่รู้เลย เขาไปบ้านผมแม่ก็เห็นแค่รอยมือ”

“พอถึงบ้านมีคนทักมาพอดี คนที่เขาไปหา ผมก็รู้ความจริง ไม่พูดอะไร เขาบอกว่าเดี๋ยวเลิกยุ่งก็ได้ ให้โตสเลิกยุ่งฝั่งโน้นเหมือนกัน ผมก็บอกว่ามันกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ เขาบอกจะเอาผมให้เจ็บแสบ ไหน ๆ ผมก็พังเขากับผู้ชายคนนี้ไปแล้ว ผมไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ยืนยัน มีรอยเดียวคือมือขวา ถ้าผมทำจริง ๆ มันต้องช้ำหนักกว่านั้นนะ ที่บอกว่าเหยียบหัว เหยียบหน้า จมูกดั้งหักแล้ว เตะคงหักแล้ว ผมผู้ชายแรงเยอะเหมือนกันนะครับ”

“ส่วนอื่นไม่มีแน่นอน ผมไม่ทำอะไรเขาเลย เขาทำผมขนาดนั้น จะเอาแรงไหนไปทุบไปต่อย แผลมาได้ยังไงผมไม่ทราบ (เขาทำเอง?) อาจเป็นได้ พอผมอยู่ที่บ้าน แม่ผมถามว่าผมได้ทำอะไรเขาหรือเปล่า ผมไม่ได้ทำเลย ก็คุยกันดี นอนกันจนเช้า แล้วไปส่งปกติที่บ้าน ผมก็พาเขาไปกินข้าว ปกติทุกอย่าง ผมไม่ได้ทำร้ายเขา”

รับอีกฝ่ายขู่ถ้าไม่เลิกกับผู้หญิงคนใหม่จะสร้างเรื่องขึ้นมาแฉ
“คือ เขานิสัยลึก ๆ ผมจะพูดยังไงดี (เงียบไปพักนึง) ถ้าพูดจะหาว่าผมหน้าตัวเมีย เขาพูดว่าถ้าผมไม่เลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนั้น เขาจะสร้างเรื่องขึ้นมาแฉผม จะทำรอยตรงนี้ดีมั้ย ผมเสียหาย เขากล้าทำแบบนี้ ครอบครัวทุกคนรอบข้างผู้ใหญ่ก็เสียใจ ผมก็ต้องพูดปกป้องตัวเอง”

ต่อมาโตสได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจอีกครั้ง ยืนยันต้องออกมา เพราะอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจ เป็นไปได้ที่อีกฝ่ายอยากดัง ลั่นถ้าไม่จบจะงัดหลักฐานออกมาแฉให้หมดทุกอย่าง
“อย่างที่ผมบอกครับ ผมยอมรับว่า ผมจับมือขวาเขา และก็ดันตัวให้เขาหยุด แต่ผมไม่ได้ทำร้ายร่างกายเขาเลย ผมไม่เคยทำร้ายผู้หญิง ที่บอกว่าพอไปถึงบ้านแล้วตบเขา แถวบ้านผมมีกล้องวงจรปิดนะ ถ้าเห็นกล้องจะรู้เลยว่าผมเดินเข้าบ้าน และเขาเดินตาม การปิดประตูทุกอย่างคือปกติ”

“ตอนแม่เดินเข้ามา เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งนะครับ แม่ยังถามอยู่เลยว่ามีอะไรกันเหรอ เขาก็บอกว่าไม่มีอะไร (เอากำปั้นทุบหน้า?) ถ้าผมทุบจริง ๆ รอยไม่น้อยขนาดนั้นหรอกครับ หน้าต้องแตกแล้ว ยิ่งเหยียบหน้า เหยียบหัว จมูกเขาต้องดั้งหัก ขาหัก แขนหักแล้ว”

“รอยต่าง ๆ มาจากไหนต้องถามเขาเองครับ ผมไม่รู้เหมือนกันว่ารอยมาได้ยังไง ผมยอมรับแค่อย่างเดียวว่ามีแค่รอยตรงแขนขวาที่ผมจับเขา อาจจะเป็นเพราะผมจับแน่นไปก็ได้ ก่อนแยกกันผมเห็นแค่รอยแขนรอยเดียว รอยอื่น ๆ ผมไม่รู้ ผมไม่ขอพูดถึงดีกว่า ว่า มันเป็นยังไง เขาทำเองมั้ยผมไม่รู้ ต้องถามเขาครับ ผมให้เกียรติเขา เขาทำอะไรเขารู้อยู่แก่ใจ”

ฟังอีกฝ่ายแถลงแล้วตลก ย้ำรู้จักนิสัย ทำอะไรรู้อยู่แก่ใจ
“ฟังครับ ตอนที่ผมฟังบางเรื่องผมก็ตลกนะ แต่บางเรื่องผมก็ดูไปแล้วก็นึกว่าเขาเป็นคนนิสัยยังไง ผมอยู่กับเขามานาน ผมรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง (ที่บอกว่าเขาขู่ถ้าไม่คืนดีจะสร้างเรื่องนี้ขึ้นมา?) อันนี้ผมไม่ขอพูดดีกว่าครับ ต้องไปถามเขาว่าเขาพูดจริงหรือเปล่า เขาทำอะไรเขารู้อยู่แก่ใจ ถ้าหากผมพูดอะไรออกไปเป็นผู้ชายผมพูดไปก็ดูผิด ดูเป็นหน้าตัวเมีย คำตอบไม่ตรงกัน ผมไม่ได้ทำร้ายเขาเลย”

บอกหลังทะเลาะกันยังนอนจับมือกันปกติ
“ผมเป็นคนนิ่ง ๆ แต่เขาก็จะเป็นคนที่ด่าตามที่เคยมีรุ่นพี่ออกมาพูดว่าเขาด่าผมยังไงบ้าง และพอผมทำหน้านิ่ง ๆ กวน ๆ เขาก็ยิ่งหมั่นไส้ ผมพูดเยอะมากไม่ได้ แต่ผมว่าให้ทุกคนที่ดูข่าวตัดสินเองดีกว่าว่าเรื่องมันเป็นยังไง วันนั้นพอเราคุยกันเสร็จก็นอนนะครับ เพราะเราคุยกันถึง 6 โมง แต่นอนปกตินะครับ เราง่วงกันทั้งคู่ จับมือนอนปกติ คุยกันดี ตอนเช้าผมขับรถไปส่งเขาที่บ้าน เขาเข้าบ้านไปเอาเงินมากินข้าวแถวซอยบ้านเขาด้วยนะครับ อารมณ์โกรธไม่มีเลย ทุกอย่างเป็นปกติเลย ตอนนี้ผมไม่คุยแล้วครับ ผมโดนขนาดนี้แล้วผมไม่คุยแน่นอน”

ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แจ้งความกลับ “ฟ้า” ข้อหาหมิ่นประมาท
“ล่าสุด ผมก็เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา และก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของเขาแล้วครับ ส่วนผมก็แจ้งความกลับเขาเหมือนกันในข้อหาดูหมิ่น คือ เขาดูหมิ่นผมตรงข้อความช่วงท้ายที่เขาพิมพ์ลงเฟซบุ๊กว่าผมเป็นคนไม่ดี หลอกเงินผู้หญิง”

ซัดใครเป็นแฟนเก่าที่บอกว่าเคยโดนตนทำร้ายให้ออกมาแสดงตัว
“ผมไม่เคยทำเลยครับ แฟนเก่าคนไหนที่เคยโดนผมทำร้ายร่างกายแสดงตัวออกมาเลยครับ ผมไม่ได้มีแฟนมานิดเดียวนะ ผมมีมาเยอะนะ และก็มีแฟนเก่ามาให้กำลังใจผมเยอะเหมือนกัน”

“ถ้าเขาจะไกล่เกลี่ย ผมก็ยินดีไกล่เกลี่ยครับ แต่ตอนนี้ผมแจ้งความเขาคืนแล้วด้วย และตอนนี้ผมก็อยู่เฉย ๆ หลักฐานผมมีพร้อม พร้อมดำเนินคดีเขาทันที ถ้าให้ผมมาขอโทษ และให้ผมยอมเขาจริง ๆ ผมจะไม่มาสู้ถึงทุกวันนี้เลย ส่วนหลักฐานกล้องวงจรปิดที่เขาบอกว่าเขามี ผมเห็นแล้วครับ แล้วผมบอกได้เลยเขามีแค่ตอนที่ผมขับเข้าไปกับขับออก แต่ของผมมีมากกว่านั้น”

ยันพ่อแม่ไม่เคยสอนให้ทำร้ายผู้หญิง มั่นใจอีกฝ่ายอยากดัง
“ตอนนี้คนก็คิดกันไปแล้วว่าผมเป็นแบบนั้นจริง ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ฟังอะไรเลย ถามว่าเสียใจมั้ย ผมเสียใจครับ พ่อแม่ผมก็เสียใจ เพราะท่านไม่เคยสอนให้ผมทำร้ายผู้หญิง สิ่งไหนที่ผมผิดผมก็ยอมรับ แต่สิ่งไหนที่ผมไม่ผิด ผมก็ไม่ยอมรับครับ ส่วนเขาจะทำทั้งหมดนี่เพื่ออะไร ขอไม่พูดดีกว่าครับ ถามว่าเขาสร้างเรื่องอยากดังหรือเปล่าก็ส่วนหนึ่งครับ ก็น่าจะมีส่วน

“ผมจะอยากดังเพื่ออะไรครับ ผมเล่นหนังของพี่พจน์มา 4 - 5 เรื่องแล้ว ผมไม่เคยช่วยโปรโมตหนัง ผมไม่เคยเผยตัวว่าผมเป็นนักแสดง ทุกคนไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าผมคือใคร แต่พอมีข่าวนี้ผมดังเลย ทุกคนรู้เลยว่าผมไงโตสตบผู้หญิง”

สู้ยิบตา ถ้าออกมาแถลงอีก ตนจะงัดหลักฐาน-คลิป-ภาพ ออกมาแฉให้หมด
“ถ้าเขาออกมาแถลงอีก ผมจะงัดหลักฐาน งัดคลิป งัดภาพ ออกมาให้ทุกคนได้เห็นเลย และผมจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น ผมจะให้ทุกคนคิดตามเองว่ามันเป็นยังไง ถ้าผมถูกจริง ๆ ผมจะให้เขามาขอโทษ และก็จะยกฟ้องคดีที่ผมแจ้งเขา คือ ตอนนี้เขาแจ้งความเท็จผม และถ้าผมถูก ผมจะฟ้องกลับเลยว่าเขาแจ้งความเท็จทั้งหมด ช่วงแรก ๆ ก็ส่งผลต่องานนะครับ แต่ผมก็ได้ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ใจแล้วว่าผมไม่ได้ทำ”

รับถูก “พชร์ อานนท์” พักงาน เสียใจไม่เชื่ออีกฝ่าย
“พี่พชร์เขาเคยบอกว่าอย่าคบกับคนนี้นะ แต่ผมไม่เคยเชื่อ เพราะผมรักผู้หญิงคนนี้ และผมก็คิดว่าเขาคงไม่เป็นแบบที่พี่พชร์ว่าหรอก ถามว่า พอเกิดเรื่องพี่พชร์เขาว่ายังไงบ้าง เขาก็พักงานผมแล้วครับ พักผมจากงานภาพยนตร์ 2 เรื่อง”

“ยืนยันว่า ผมไม่ได้เข้าไปง้อเขา ผมเข้าไปบ้านเขายังไม่เจอตัวเขาเลย ทั้ง ๆ ที่ตอนที่เขาออกมาพูด เขาบอกว่าเขาอยู่บ้าน และผมก็ไปบีบแตรส่งเสียงดัง เขาทำอะไรเขารู้อยู่แก่ใจ เขาหลอกคนอื่นได้ แต่เขาหลอกตัวเองไม่ได้ และอย่าให้ผมต้องพูดลึกกว่านี้ อย่าให้ผมต้องเป็นคนแฉ อย่าให้ผมต้องเอาเรื่องจริงมาพูด อย่าให้ผมต้องเอาหลักฐานออกมายืนยัน”

ไม่กลับไปรีเทิร์นแน่นอน โอดคงต้องเลิกกับสาวคนใหม่ไปด้วย
“ถ้าข่าวถึงขนาดนี้ ผมไม่กลับมาคุยแน่นอนครับ ลืมไปเลยว่ามีคนแบบนี้ในโลกนี้ กับคนปัจจุบันผมก็เห็นใจเขานะครับ เพราะเรื่องนี้ก็ส่งผลถึงเขาเหมือนกัน แต่ผมคิดว่าเลิกยุ่งกับเขาดีกว่า เพราะผมก็กลายเป็นคนมีข่าวไปแล้ว”







กำลังโหลดความคิดเห็น