เผยใบหน้าล่าสุด “สุรชัย สมบัติเจริญ” หลังทำเฟซออฟ 4 เดือน เผยเข้าที่แล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ อีก 2 เดือนเป๊ะกว่านี้ ปัดกรีดตาเพิ่ม แค่เอาไขมันส่วนเกินออก โวหมอดูทักโหงวเฮ้งดีขึ้น
นักร้องรุ่นใหญ่ “สุรชัย สมบัติเจริญ” ผ่านการทำศัลยกรรมเฟซออฟดังกระฉ่อนเมืองไปเมื่อ 4 เดือนก่อน ล่าสุด เจ้าตัวออกมาเผยโฉมใบหน้าใหม่ ระหว่างมาร่วมงานบวงสรวงเปิดกล้องละครเรื่อง “นายร้อยสอยดาว” เวอร์ชัน “สอยดาวมาร้อยบ่า” กำกับโดย “ประยูร วงศ์ชื่น” ที่วัดหงส์รัตนาราม ถ.วังเดิม ให้สื่อมวลชนได้เห็นกันจะจะ
อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวยังยืนยันว่าแฮปปี้กับหน้าใหม่มาก ๆ ตอนนี้ก็เสร็จไป 90% แล้ว เริ่มมีรอยบวมนิด ๆ แต่หมอก็ดูแลดี เดือนหนึ่งจะไปพบหมอครั้งหนึ่ง นี่ผ่านไป 4 เดือนแล้ว หมอก็บอกว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อย ๆ อายุมากแล้วก็ต้องให้เวลา
“ตอนนี้ก็สบายดีครับ(หัวเราะ) 90% ไม่ต้องกลัวคุณหมอดูแลผมดีตลอดเพราะเป็นโลโก้ของเขาแล้วครับ เราอยู่ในวงการก็รู้ใครทำบ้างไม่ทำบ้าง มันไม่ใช่เรื่องพิเศษ การที่เราจะทำเฟซออฟกับใบหน้าของเรานะครับ ตอนนี้พอใจมากครับ(ยิ้ม) คุณหมอจะดูเป็นระยะ นี่ 4 เดือนแล้ว ล่าสุดผมไปอาทิตย์ที่ผ่านมา อีก 2 เดือนคงเข้าที่ เพราะเดี๋ยวนี้นวัตกรรมของคุณหมอมีเยอะครับ คุณหมอเขาก็กดดันเหมือนกันเพราะเราอยู่กับละคร ทีวี ร้องเพลงคุณหมอก็เต็มที่กับเรา เราก็ดีใจที่เป็นคนไข้ของคุณหมอ”
“(90%ยังไม่เข้าที่ตรงไหน?) ก็ยังมีตรงตาอยู่บ้างนะครับที่ยังบวมๆ อยู่ ต้องเข้าใจ 60 แล้วจะไปทำทีเดียวไม่ได้นะครับ หมอบอกต้องใช้เวลาแต่รับรองสวยแน่ๆ ตอนนี้พอใจครับไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเยอะ ชอบที่หน้าดีขึ้น สมัยก่อนไม่ได้ทาครีมอะไรแต่คุณหมอก็มีนวัตกรรมกระตุ้นให้ผิวดีใสขึ้นเป็นธรรมชาติ มากกว่าเราไปใช้เครื่องสำอางครับ หลายคนก็ทัก วันนั้นไปพบนายกฯ ก็ทักดีขึ้นหรือเปล่า(หัวเราะ) ก็ขอบคุณครับถ้าเราทำอะไรมีความสุขก็ทำไปไม่มีใครมาว่าเสียเงินเปล่าไม่มีนะส่วนรวมดีพอใจ”
“เราดูแลตัวเองมากขึ้น เราเป็นนักแสดง วันนี้เราทำได้ก็ทำไปก่อนพอวันหนึ่งคุณหมอบอกให้หยุดก็ต้องหยุดแหละ คงไม่ทำอะไรเพิ่ม เราไม่ได้เสพติดเรื่องศัลยกรรม เพียงแต่ความเหมาะสมที่คุณหมอบอก ซึ่งตาผมทำมาก็ไม่เท่ากันคุณหมอก็ต้องมาเก็บใหม่ครับเพื่อให้ดูละเอียดขึ้นครับ เอาไขมันส่วนเกินออก ไม่น่าจะแก้แล้วนะหมอบอกอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย มีแต่หมอบอกว่าต้องไปบำรุงกระตุ้นผิวหน้าที่ทำคอลลาเจนให้มันทำงานโดยธรรมชาติโดยไม่ได้ใช้ครีม”
ยันไม่ได้ศัลยกรรมเพราะอยากได้งานเพิ่ม ส่วนหมอดูทำตาแล้วโหงวเฮ้งดีขึ้น
“จริงๆ เริ่มมีข่าวก็เหมือนเดิม ไม่ได้มากกว่าเก่าน้อยกว่าเก่าไม่ใช่หน้าเปลี่ยนเพราะจะหางาน สิ่งที่สำคัญคือผลงานช่วงหลังผมหยุดเรื่องเพลงไปเยอะไปเล่นแต่ละครออกรายการชิงช้าสวรรค์เป็นกรรมการครับ ร้องเพลงมีบ้างแต่ไม่มากเหมือนตอนฮอตๆ เหมือนก่อนครับ”
“หมอดูทักครับ เขาบอกตาแบบนี้โอเค สมัยก่อนผมตาเล็กดูไม่เบิกบานแต่พอไปทำมารู้สึกตามีวาวมาขึ้นเขาก็บอกโอเคโหงวเฮ้งดี พราหมณ์ที่งานนี้เขาก็บอกต่อไปนี้ดีนะ"
“ดิ๊ง กมลชนก” ชมพ่อหล่อขึ้น
ดิ๊งค์ : “ก็ดีค่ะหล่อขึ้น เพื่อนก็ถามเป็นยังไงบ้าง”
สุรชัย : “ก็มีคนถามผมไปทำที่ไหนมาผมก็ไม่อยากจะบอกเดี๋ยวว่าผมไปชักนำครับ ก็ไปดูในข่าวกันเองแล้วกันที่ไหนยังไงครับ บางคนก็บอกช่วยต่อราคาให้ทีได้มั้ย คนสนิทผมก็ช่วยได้ครับ แต่คนไม่สนิทผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงก็ปฏิเสธไป อย่างเคสต่างๆ ก็ไม่เหมือนกันบางคนทำตาบางคนทำจมูก ตอนเช้าก็มีแม่นักแสดงมาปรึกษาอยากไปทำจมูกก็บอก ได้ ผมคุยให้”
ปัดเป็นป๋าดันลูกสาวเล่นละครเรื่องแรก
สุรชัย : “ก็เป็นเรื่องแรกของน้องดิ๊งค์ที่รับบทเป็นตำรวจเหมือนดาวครับ ในเรื่องของเป็นลูกสาวผมครับ ผมเป็นพลโทสมหมาย ต้องขอบคุณคุณประยูรและทีมงานของโชอิงนะครับที่ให้ไปแคสงานได้แสดงเรื่องนี้ ส่วนผมก็พลอยฟ้าพลอยฝนไปกับเขาด้วย ได้เล่นเรื่องนี้ขอบคุณครับ”
ดิ๊งค์ : “รู้สึกตื่นเต้นดีค่ะแล้วก็โชคดีที่ได้ซ้อมกับคุณพ่อที่บ้านด้วย บทแข็งแรงดีค่ะเพราะรับบทเป็นตำรวจหญิง ก็มีไปฝึกค่ะโรงเรียนนายร้อยสามพราน ขอคำปรึกษาจากคุณพ่ออยู่ตลอดค่ะ ตั้งแต่เด็กด้วยจนมาถึงตอนนี้ ทุกเช้าพ่อก็จะบอก ไม่ได้กังวลอะไรค่ะ จะทำให้ดีที่สุด เป็นเรื่องแรกของเราถ่ายคิวแรกวันพรุ่งนี้ค่ะ”
สุรชัย : “ถามว่าพ่อผลักดันอะไรมั้ยก็ไปตามกระแสนะครับ ไปตามบทของผู้กำกับเราไม่ได้มีส่วนอะไรตรงนั้นเลย น้องไปแคสก็ประมาณ 2 เดือนก็มีผู้ใหญ่คอยดูแล ส่วนเราไม่ได้ไปยุ่งอะไรตรงนั้นเลย เราเป็นพ่อลูกให้ครูอาจารย์เป็นคนเลือกนักแสดงดีกว่า เรื่องนี้พี่ชายเขาก็เล่นเรื่องแรกเหมือนกัน แล้วตอนนี้ตัวเขาก็มาเล่นเป็นเรื่องแรกเหมือนกันอีก ต้องขอบคุณคุณประยูร ผมก็คอยสอนให้เขาเชื่อฟังครูอาจารย์ พี่อี๊ดมาช่วยติวให้ ผมไม่ใช่ป๋าดัน(หัวเราะ) เขาจะทำได้ดีขนาดไหนก็อยู่ที่ตัวเขา ผมช่วยไม่ได้ แล้วถ้าเขาประสบความสำเร็จเราก็ดีใจไปด้วย ถ้าเขาไม่ประสบความสำเร็จเราก็เอาไปต่อยอดอนาคตก็ว่ากันไป จริงๆ เขาก็ฝึกซ้อมตั้งแต่บริษัทพี่ชายเขาแล้วนะ”
ดิ๊งค์ : “ที่มงคลการละครก็จะมีเสริมๆ บางเรื่อง เรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องแรกที่รับบทนำค่ะ”
สุรชัยย้ำเป็นบุญลูกสาวได้เล่นละครเรื่องนี้
ดิ๊งค์ : “จริงๆ กดดันไม่กดดันมันอยู่ที่ตัวเราด้วยค่ะให้ผู้ชมเป็นคนตัดสินค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องอื่นค่ะ อาจจะมีถ่ายภาพนิ่งอะไรบ้างค่ะ ตั้งแต่ปี 56 ประกวดนางสาวไทยก็เดินทางนี้เลยค่ะ คุณพ่อก็บอกให้ไปผอมก่อนค่ะ(หัวเราะ)”
สุรชัย : “เราไปสวัสดีผู้ใหญ่น้องดิ๊งค์ก็จะตามไปด้วยเห็นตั้งแต่มัธยม ครอบครัวผมกับครอบครัวคุณประยูรก็รู้จักกันมานาน จริงๆ น้องดิ๊งค์จะไม่ได้รับบทตรงนี้นะครับ จะมีอีกคนแต่อีกคนเขาสุขภาพไม่ดีเป็นภูมิแพ้เราออกแดดไม่ได้ ออกกำลังกายไม่ได้ครับ อาจจะเป็นช่วงของน้องดิ๊งค์รึเปล่า แต่แบบนี้มันต้องลงทุนเยอะ คุณประยูรเก่งเหมือนกัน ต้องลงทุนทำ น้องดิ๊งค์ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร เป็นบุญของน้องดิ๊งค์ครับ คุณประยูรก็เชื่อมั่นครับ”
ดิ๊งค์ : “เด็กๆ ก็มีความกดดันสูงอยู่แล้วครั้งที่แล้วพี่นิหน่า สุฐิตา พี่อ๊อด จักรมนต์ทำไว้ดีมากค่ะ จะตั้งใจทำให้เต็มที่สุดฝีมือค่ะ”