ทาร์ซาน เวอร์ชั่นใหม่ กำลังลงโรงฉายในบ้านเรา และทำเอาหญิงสาวหลายคนหล่นเสียงกรี๊ดเบาๆ ขณะรับชม เพราะเรือนกายของชายนักแสดงผู้รับบทตัวเอกที่ราวกับเสกได้ ด้วยซิกแพ็กและมัดกล้ามที่งามเร้าใจ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ราวยี่สิบปี เคยมี “ทาร์ซาน” อีกคนหนึ่งซึ่งทำให้หญิงๆ จำนวนไม่น้อยใจเต้นมาแล้ว
ครับ, สัปดาห์นี้ ถ้าจะว่าถึงหนังที่ได้รับการมองเห็นทางสื่อโฆษณามากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น “ทาร์ซาน” หรือ The Legend of Tarzan อันเป็นผลงานการกำกับของ “เดวิด เยทส์” ผู้กำกับจากหนังภาคส่งท้ายแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทั้ง 7.1 และ 7.2 ซึ่งในทาร์ซานเวอร์ชั่นนี้ ถือเป็นการรีบู๊ตที่มีความพยายามในการเล่าเรื่องและตีความใหม่ มีประเด็นหลากหลายให้จับต้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรักความผูกพันระหว่างสองตัวละครหลัก “จอห์น”(ทาร์ซาน) กับ “เจน” หรือจะเป็นเรื่องของการเมืองระหว่างประเทศ การค้าแรงงานอย่างผิดกฎหมาย (ไม่ต่างกับทาส) ตลอดจนแนวคิดในเชิงสิทธิของสัตว์ การให้เกียรติแก่สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นซึ่งไม่ได้มีชื่อเรียกว่ามนุษย์
โดยภาพรวม เดอะ เลเจนด์ ออฟ ทาร์ซาน ก็เป็นหนังบันเทิงที่ทำหน้าในการให้ความบันเทิงได้ตามสมควร ฉากแอ็กชั่นการต่อสู้ ผมรู้สึกว่าหนังทำออกมาได้ดี ขณะที่เรื่องของเทคนิคพิเศษหรือซีจี ก็ส่งเสริมให้สายตารื่นรมย์ไปกับการเสพรับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อรรถรส อย่างไรก็ดี หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาที่ค่อนข้างมีความเป็นผู้ใหญ่สูงมาก อย่างที่บอกไว้ในย่อหน้าก่อนว่า การเมืองเอย การค้าทาสเอย หรือแม้แต่วิธีการเล่าเรื่องแบบตัดสลับเอย มันดูจะเลยไปจากความเป็นเด็กเล็กไปไกลพอดู ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองที่คิดว่าจะพาลูกๆ ไปดู อาจต้องชั่งใจสักนิดครับ
อย่างไรก็ดี ถ้าจะนับ “ความเป็นผู้ใหญ่” จริงๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายเวอร์ชั่นของทาร์ซาน คงต้องย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1995 ครับ นี่คือหนังทาร์ซานที่มีความเป็นผู้ใหญ่โดยแท้จริง
ในรายการวิวไฟน์เดอร์ ทางช่องซูเปอร์บันเทิง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการทำสกู๊ปเกี่ยวกับ “หนังล้อเลียน” หนังดังๆ แล้วหยิบเอามาทำเป็นหนังวาบหวิว พูดง่ายๆ ก็คือหนังโป๊นั่นล่ะครับ ที่เมืองนอกอย่างอเมริกา เขามีการทำอะไรแบบนี้กันอย่างเป็นล่ำเป็นสันมาหลายสิบปี และก็เป็นที่ยอมรับได้ คนเสพหนังจริงๆ ก็เสพไป แต่คนที่อยากเสพอะไรที่แตกต่าง ก็แสวงหาได้ เขาเรียกหนังพวกนี้ว่า “พอร์น พาโรดี้” (Porn Parody)
พวกพอร์น พาโรดี้ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือพวกหนังโป๊ที่หยิบเอาหนังดังๆ เรื่องต่างๆ มาเล่าใหม่ให้เป็นหนังผู้ใหญ่นั่นล่ะครับ ไม่เว้นกระทั่งพวกหนังฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมน แบทแมน อะเวนเจอร์ส หรือสตาร์วอร์ส พวกนี้โดนกันหมดแล้วทั้งนั้นในการถูกหยิบมาถ่ายทอดในเวอร์ชั่นหนังโป๊ แต่ในที่นี้ จะเล่าถึงหนังพอร์น พาโรดี้ ที่โด่งดังมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็คือ Tarzan-X: Shame of Jane หรือ ทาร์ซาน เวอร์ชั่นติดเรทนั่นเอง
นี่คือตำนานหนึ่งหน้าในโลกของหนังพอร์น และแค่เรื่องราวความเป็นมาของตัวแสดง ก็นับว่ามหัศจรรย์พอๆ กับความเป็นมาของเจ้าป่าอย่างทาร์ซานแล้ว “ร็อกโค่ เซฟฟริดี้” คือนักแสดงคนที่ว่านั้น
ผมเคยอ่านเจอในนิตยสาร mars คอลัมน์อะไรสักคอลัมน์ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเขียนโดยคุณผู้ใช้นามปากกาว่า “เอ็นดู เบลค” เป็นคอลัมน์ที่ให้ความรู้และเกร็ดประวัติเกี่ยวกับโลกกามารมณ์ได้อย่างเพลิดเพลินและเป็นสัพพัญญูของเรื่องอย่างว่าจริงๆ เขาเล่าความเป็นมาของพ่อหนุ่มร็อกโค่คนนี้ไว้ได้น่าสนใจมาก คือจากเด็กหนุ่มโนเนมในหมู่บ้านที่ยากจะควานหาพบ บนแผนที่ของประเทศอิตาเลี่ยน “ร็อกโค่ เซฟฟริดี้” เติบโตมาในบรรยากาศที่ไม่รู้หรอกว่าหนังโป๊คืออะไร แต่แล้ววันหนึ่ง เด็กชายร็อกโค่ไปทำพลาดท่าอย่างไรก็ไม่รู้ ดันไปเผยส่วนสำคัญให้กับหญิงอื่นได้เห็น มันก็เลยกลายเป็นว่า เขายกสถานะความเป็นหนุ่มน้อยสุดฮอตขึ้นมาในหมู่บ้าน ลีลารักอะไรต่างๆ เริ่มได้รับการเสี้ยมสอนจากคนนั้นคนนี้ กระทั่งมีกระทาชายนายหนึ่งซึ่งเป็นคนทำหนังผู้ใหญ่ไปพบเจอหนุ่มน้อยร็อกโค่เข้า ก็เลยชวนมาแคสติ้ง
แล้ววิธีแคสติ้งของผู้กำกับคนนี้ก็ประหลาดพิลึก เพราะเล่ากันว่า เขาให้พ่อหนุ่มร็อกโค่ที่จะเป็นดาราดังในอนาคต ลองออเดิร์ฟกับหญิงคนหนึ่ง ผลลัพธ์ปรากฏว่า สุ้มเสียงของหญิงคนดังกล่าวในขณะออเดิร์ฟกับหนุ่มน้อยสัญชาติอิตาเลี่ยนนั้น มันกังวานหวามไหวทะลุผ่านออกไปจากกำแพงห้อง ก้องสะท้านไปทั่วอาคารทั้งหลัง และนั่นก็เป็นปฐมบทแห่งความดังของหนุ่มคนนี้ ที่ในเวลาต่อมา ดำรงชีวิตของตนเอง ไม่ใช่แค่ในฐานะพอร์น สตาร์ (Porn Star) หรือนักแสดงหนังหวิว หากแต่ยังเป็นผู้ผลิตเลื่องชื่อในโลกหนังเรต พูดง่ายๆ ว่าทั้งแสดงเองและกำกับเอง กระทั่งมีสตูดิโอเป็นของตนเอง
เรื่องราวของร็อกโค่ เซฟฟริดี้ เจ้าของฉายา “ม้าป่าอิตาเลี่ยน” ด้วยไซส์ของอวัยวะที่มโหฬาร นี่เอาเข้าจริง ก็มหัศจรรย์พอๆ กับเรื่องของทาร์ซาน เขามาจากหมู่บ้านที่โลกไม่รู้จัก (เหมือนป่าดงดิบในนิยายของเอ็ดการ์ ไรซ์ เบอร์โรส์) แล้วก็กลายเป็นคนสำคัญ คือพูดถึงบารมีในโลกของหนังวาบหวาม เขาคนนี้ได้รางวัลมาเยอะมาก โดยเฉพาะในสายของนักแสดงยอดเยี่ยม และไม่ใช่เพียงแค่นั้น ถ้าจะให้เล่ายาวต่อไปอีกสักนิด ร็อกโค่ เซฟฟริดี้ นี่เคยได้แสดงหนังระดับที่เรียกว่า “หนังปัญญาชน” มาเหมือนกันนะครับ โดยการรับบทในหนัง 2 เรื่อง “Romance” กับ “Anatomy of Hell” ของผู้กำกับหญิงชาวฝรั่งเศส “แคทเธอรีน เบรญาต์” ผู้ขึ้นชื่อในด้านการส่งเสียงวิพากษ์สิทธิและความเท่าเทียมของสตรีผ่านทางภาพยนตร์
ก็ไม่รู้ว่าคิดอย่างไร เจ้าแม่ “เฟมินิสต์” อย่างแคทเธอรีน ถึงเลือกกระทาชายนายนี้มาเป็นดาราแสดงในหนังของตัวเอง เดาเหตุผลเล่นๆ ก็อาจเป็นเพราะว่า ถ้าพูดถึงเรื่องการกดขี่ผู้หญิงนี่ หนังโป๊คือตัวดีเลย เพราะมันก็เคยมีพวกปัญญาชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันบ่อยๆ ว่าหนังเหล่านี้กดขี่ผู้หญิง ผู้หญิงคือฝ่ายที่ถูกกระทำและจะสั่งให้ซ้ายหันขวาหันอย่างไรก็ได้ เหนืออื่นใดคือฉากจบของหนังพอร์นแต่ละครั้ง มักจบลงด้วยการที่ฝ่ายชายเป็นผู้เสร็จกิจ คือคนบางกลุ่มเขาก็ตั้งคำถามว่า แล้วฝ่ายผู้หญิงล่ะ เสร็จสมอารมณ์หมายหรือไม่ อะไรทำนองนั้น ก็ว่ากันไปนะครับ แต่สำหรับเหตุผลของการที่แคทเธอรีนเลือกร็อกโค่มาแสดง ก็อาจจะเป็นเพราะว่า ถ้าจะพูดเรื่องสิทธิความเท่าเทียมในเรื่องเพศ ก็คงไม่มีใครฉายสะท้อนได้ดีเท่ากับนักแสดงหนังที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคิดถึงความจริงที่ว่า ในห้วงเวลาแห่งยุค 90 นั้น ชื่อของร็อกโค่ เซฟฟริดี้ ก็กระฉ่อนมาก จากหนังเรื่องทาร์ซาน การนำตัวเขามาไว้ในหนัง ก็เท่ากับเป็นการหยิบยืมความมีชื่อเสียงที่ช่วยให้การส่งเสียงได้ดังขึ้นไปอีก
เรื่องราวในหนังทาร์ซาน เวอร์ชั่นผู้ใหญ่ ไม่ได้ไร้สาระนะครับ มันพาดตัวเองอยู่กับเรื่องราวต้นฉบับค่อนข้างมาก โดยเล่าจากการเดินทางเข้าป่าและพบรักระหว่างกัน ของเจนกับทาร์ซาน ก่อนเคลื่อนย้ายถิ่นฐานเข้าเมือง และพบเจอเรื่องราวอะไรต่างๆ ถ้าตัดฉากเอ็กซ์ๆ อะไรออกไป เราก็พอจะเห็นเรื่องย่อของทาร์ซานได้เหมือนกันในเวอร์ชั่นผู้ใหญ่นี้ ขณะเดียวกัน ฉากที่เป็นลายเซ็นของทาร์ซานอย่างการโห่ (ส่วนการร้องไม่ต้องพูดถึงนะครับ) ก็ได้รับการรักษาไว้อย่างเคารพต้นฉบับ ชื่อรองของเรื่อง “Shame of Jane” ก็แปลง่ายๆ ว่าความละอายใจของเจน ในหนังดูเหมือนจะเน้นว่า เจนที่พาทาร์ซานออกมาจากป่าแล้วก็เกิดความรู้สึกละอายแก่ใจหรือทำนองว่ารู้สึกผิด เพราะพอเข้าไปในเมือง เจอสังคม ทาร์ซานก็ถูกใช้สอยราวกับเขาเป็นสัตว์ป่าผู้หิวกระหายในกามารมณ์อย่างล้นเกิน ดังนั้น หนทางสุดท้ายก็คงเหมือนในนิยาย คือคืนทาร์ซานให้กับป่าเป็นลำดับถัดไป
ร็อกโค่ เซฟฟริดี้ แจ้งเกิดได้อย่างโด่งดังจากหนังเรื่องดังกล่าวนี้ และค่อยๆ ขยับสถานะตัวเองขึ้นมาเป็นคนทำหนัง มีสตูดิโอของตัวเอง เรียกว่าสร้างชีวิตขึ้นมาจากการเป็นดาราหนังเรตโดยแท้ ขณะที่ดาราคู่บุญในเรื่องทาร์ซานเวอร์ชั่นติดเรตอย่าง “โรซ่า” ก็เป็นภรรยาของเขาเอง ทั้งสองคนร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของหนังทางนี้
และด้วยเหตุนี้ เราจะปฏิเสธได้อย่างไรว่า ร็อกโค่ เซฟฟริดี้ แท้ที่จริงก็คือ The Legend of Tarzan อีกคนหนึ่ง...
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม