“มาร์กี้ ราศรี” งงดราม่าเอ็มวีเซตแล้วตบ ชี้ขายความบันเทิง ไม่มีอะไรซับซ้อน บอกดราม่ามีได้ทุกเรื่อง เปิดใจขึ้นคอนโด “ป๊อก ภัสสรกรณ์” แต่อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ ย้ำไม่ใช่เด็ก รู้อะไรควรไม่ควร เผยแม่ติดกล้องวงจรปิดไว้ส่องลูก
ดราม่ามาทันทีหลังจากที่ช่อง 3 ปล่อยเอ็มวี “เซตแล้วตบ” เพลงเชียร์วอลเลย์บอลไทย ซึ่งจัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ดึง 6 นางเอกฮอตช่อง 3 มาร้องเพลงดังกล่าว โดยชาวเน็ตพากันวิจารณ์ว่าดูแล้วไม่ฮึกเหิม ที่สำคัญตั้งใจขายคู่จิ้น ซึ่งไม่เหมาะที่จะมีอยู่ในเพลงเชียร์หรือเปล่า
ล่าสุด นางเอกสาว “มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า” ขอเปิดใจถึงกรณีดังกล่าว ย้ำชาวเน็ตคิดมากไป เอ็มวีไม่มีอะไรซับซ้อน และดราม่ามีได้ทุกเรื่อง
“ไม่นะ ถ้าขายคู่จิ้นก็ต้องมีหมาก (ปริญ สุภารัตน์) กับพี่บอย (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) แล้ว ที่จริงญาญ่า กับ ณเดชน์ ก็เขามาช็อตเดียว เรายังงงเลยคิดว่าจะแช่ไว้ให้คนจิ้นมากกว่านี้ ญาญ่าชนไหล่ณเดชณ์ยังไม่ทันสบตาเลย ตัดไปภาพคนอื่นแล้ว มันไม่ได้ขนาดนั้นนะเท่าที่เรารู้สึก”
“ต้องบอกก่อนเลยธีมที่ช่องจัดไว้ให้มีทั้งหมด 6 คน เป็นนักวอลเลย์บอล มี กี้ มี ญ่า (อุรัสยา เสปอร์บันด์) มี คิม (คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ) มี มิว (นิษฐา จิรยั่งยืน) มี เบลล่า (ราณี แคมเปน) มี พรีม (รณิดา เตชสิทธิ์) 6 คน เป็นเหมือนตัวแทนของนักวอลเลย์บอลไทย แล้วก็มีน้อง ๆ นักแสดงสังกัดช่อง 3 ซึ่ง 20 คนเป็นเชียร์ลีดเดอร์เหมือนเป็นคนดู ส่วน ณเดชณ์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) ก็เป็นโค้ชหนุ่มสุดหล่อค่ะ ก็เป็นธีมที่น่ารักดี”
เผยไม่นอยด์ ดราม่ามีได้ทุกเรื่อง บอกอย่าโฟกัสแต่เรื่องแบบนั้น เพราะเอ็มวีไม่มีอะไรซับซ้อน
“ไม่นอยด์นะเพราะมันค่อนข้างชัดเจนนะ ตัวเอ็มวีก็ค่อนข้างชัดเจนนะ สาว ๆ กำลังซ้อมอยู่โค้ชก็มา มันไม่ได้ซับซ้อนอะไร อย่าไปโฟกัสเรื่องนั้นเลยค่ะ โฟกัสที่เพลงสนุกสนานมันเหมือนเป็นสิ่งบันเทิงอีกแบบหนึ่ง เหมือนเราเชียร์ทีมชาติไทยเนอะเราจะได้มีเพลงสนุก ๆ”
“ถามว่าวันแรกก็โดนแล้วตกใจมั้ย ก็ไม่นะคะ ถ้ามันไม่มีกระแสดราม่าอันนี้ก็ต้องมีเรื่องอื่นอยู่ดี ด้วยที่มีนักแสดงหลายคนคนนั้นอย่างนั้นคนนี้อย่างนี้เราทุกคนตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด จุดประสงค์ของเพลงนี้เพื่อจะเชียร์ทีมชาติไทยงานวอลเลย์บอลกลางปี 2016 ค่ะ ซึ่งเราก็อยากให้ทุกคนเชียร์อย่างสนุกสนานก็เลยทำงานชิ้นนี้ออกมาให้”
เปิดใจไม่โกหกขึ้นคอนโด “ป๊อก ภัสสรกรณ์” ย้ำไปหากันเป็นเรื่องปกติ รู้อะไรควรไม่ควร
“มีไปอยู่แล้วค่ะ เพื่อน ๆ ก็ไปตามปกติ มีทั้งเราเพื่อนเราเพื่อนพี่ป๊อกไปทานข้าวพี่ป๊อกก็เคยมาคอนโดเราค่ะ เราว่าลิฟต์ไม่ลิฟต์มันไม่น่าจะเกี่ยวอาจจะมีคนเห็นเราอยู่แถวนั้นบ่อย แต่หลายคนไม่รู้ว่าบ้านเราอยู่ห่างจากบ้านพี่ป๊อกแค่ 100 เมตรเอง (ยิ้ม) เพราะฉะนั้นเห็นเราอยู่แถวนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจบ้านเราก็อยู่ตรงนั้นค่ะ”
“เราก็ค่อนข้างเสียหายค่ะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะเพราะเรารู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เราบริสุทธิ์ใจด้วยค่ะ ทุกอย่างก็อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ ด้วยพี่ป๊อกก็อยู่กับคุณแม่เราก็อยู่กับคุณแม่น้องสาวด้วย ถามว่าพี่ป๊อกมาบ้านเรามั้ยก็มีค่ะคุณแม่ทำข้าวเย็นให้ที่บ้านหรือเขาซื้อกับข้าวมาปาร์ตี้ที่บ้านทานข้าวเย็นกับเพื่อน ๆ เราก็มีไปที่คอนโดเขาซึ่งเราก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเราบริสุทธิ์ใจไปก็บอกว่าไปค่ะ”
ไปมาหาสู่กันเรื่องปกติ ถ้าคิดทำอะไรไม่ดี คงต้องทำแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ
“ใช่เราก็เหมือนเพื่อนบ้านกันค่ะ ก็มีกินข้าวบ้านเราบ้างกินข้าวบ้านเขาบ้างออกกำลังกายบ้าง ก็ไม่ได้ซีเรียสเพราะเราไม่ได้ปิดบังอะไร ไปก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไรไม่ดีค่ะ เขาเป็นผู้ชายเนอะ ก็กลัวเราเสียหายทางเขาก็มีบอกกับทางนักข่าวไปแล้วบ้างว่าเราไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนไปบ้านเพื่อนคนหนึ่ง เราไม่ได้คิดอะไรที่มันไม่ดี ก็เลยไม่ได้คิดว่ามันไม่ดีถ้าเราคิดจะทำอะไรไม่ดีเราก็คงแอบ ๆ หลบ ๆ”
“ไม่กลัวถูกจับผิดหรอกค่ะเราก็ใช้ชีวิตปกติ ตื่นเช้าไปทำงาน ถ้าอยากเจอที่บ้านอยากเจอพี่ป๊อกด้วยก็โทร.หามากินข้าวด้วยกันมั้ย แม่ทำกับข้าวให้เสร็จแล้วอยากไปดูหนังก็ดูหนังเราใช้ชีวิตง่าย ๆ นอนตื่นไปทำงานเหมือนเดิม”
บอกแม่ติดกล้องวงจรปิดไว้ส่องลูกอยู่แล้ว
“ใช่บ้านเราติดกล้องวงจรปิด ปีที่แล้วคุณแม่อยู่อเมริกาติดไว้ดูลูกนี้แหละค่ะ แต่เปิดมาก็เจอแต่แก๊งเพื่อนนั่งกินข้าว ถ้าสมมติคุณแม่ไม่อยู่ก็มีกล้องแม่อยู่ค่ะ หรือเวลาไปบ้านที่ป๊อกก็จะมีแม่ปุ๊กอยู่ แม่ปุ๊กก็จะมานั่งกับเพื่อนลูกด้วย ส่วนมากก็จะถามเป็นยังไงบ้างถ่ายละคร ผู้ใหญ่เขาไม่ได้ว่าอะไรเพราะเราไม่ได้ทำอะไรไม่ดี อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ด้วย แล้วอีกอย่างหนึ่งเราไม่ได้อายุน้อยแล้วนะ (หัวเราะ) แต่ดีค่ะคนอาจจะเห็นว่าเราหน้าเด็ก”
