“มาช่า” พักร่าง 1 ปี ให้เวลากับตัวเอง โผล่อีกทีเป็นพรีเซ็นเตอร์ RS เผย แกรมมี่มีแค่สัญญาใจ ปัดฟาดค่าตัว 7 หลัก เชื่อไร้ปัญหา บอกอยู่วงการมานาน จะร่วมงานกับใครก็ได้
หน้าตาเป็นโลโก้นักร้องค่ายแกรมมี่ แต่อยู่ดี ๆ “มาช่า วัฒนพานิช” ก็โผล่มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ MAGIQUE (มาจีค) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจาก บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด ซึ่งมี “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” หัวเรือใหญ่แห่งอาร์เอส เป็นหนึ่งในผู้ลงทุน โดยเจ้าตัวเผยว่า ไร้ปัญหา เพราะตนไม่มีสัญญากับแกรมมี่ มีแค่สัญญาใจ ส่วนที่หายเงียบไป 1 ปีเต็ม ๆ แค่พักร่าง ขอดูแลตัวเอง
“ไม่ได้พักแล้วค่ะ ช่วงนี้ที่เราอยากจะอยู่กับตัวเองบ้าง ดูแลร่างกายตัวเองบ้างค่ะ หลาย ๆ อย่างที่เรารู้สึกว่าเราต้องพัก ออกกำลังกายดูแลผิวพรรณตัวเองบ้าง บางทีเราใช้ชีวิตทำงานไปแล้วก็ลืมดูแลตัวเอง แล้วบางเรื่องที่เราควรจะจัดการแล้วเราไม่ได้จัดการมันมากเท่าที่ควร ปีที่เราเลยคิดว่าหยุดพักสักพักหนึ่งดีกว่าค่ะ”
“ก็กลับมาลุยงานสักพักแล้วค่ะ จากซีรีส์และคอนเสิร์ตก็ยังเล่นอยู่ค่ะ เล่นไปหลายที่แล้ว ตลอดปีนี้ก็ยังมีให้ติดตามกันอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ เรื่องงานเพลงเราว่าตอนนี้คงต้องรออีกสักพักนะคะ เรื่องงานก็ทำที่บริษัท แกรมมี่ ต้องดูจังหวะดูงานเพลงที่ชอบด้วยค่ะ ตอนนี้มันเยอะไปหมดค่ะ ใจเราก็ไม่ได้หนีไปไหนนะคะ ตอนนี้เราก็เล่นคอนเสิร์ตเจอแฟน ๆ อยู่ตลอดเวลา เราก็เพิ่งจะไปประเทศลาวมา มีงานต่าง ๆ ที่เล่นอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย ใครที่คิดถึงเราที่หายไปเมื่อปีที่แล้วก็กลับมาดูเราร้องเพลงทำงานต่าง ๆ”
“เพลงใหม่ถ้าจะมีก็ต้องดูที่เหมาะสมกับเรื่องราว เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังจะทำ อาจจะเป็นเรื่องที่เราชอบตอนนี้ ยังไม่เห็นยังไม่แน่ใจค่ะ เราพูดไปเรื่อย ๆ ไม่รู้อนาคต อาจจะมีสิ่งที่เราอยากทำก็ได้”
บอกโผล่อาร์เอสไม่สะเทือนแกรมมี่ เพราะมีแค่สัญญาใจ
“ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรมากนะคะ แต่ว่าในเรื่องของการรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ เรารับตลอดอยู่แล้ว เราจะดูสินค้าด้วยสินค้าตัวนี้เราก็ใช้อยู่เหมือนกัน ส่วนในเรื่องของเพลงเราก็ไม่ได้มีสัญญากับใคร แต่เราก็มีสัญญาใจกับบริษัท แกรมมี่ แหละค่ะ ซึ่งเราก็ไม่ได้ทำเพลงกันตรงนี้ก็อยากจะให้แยกว่างานมันคนละแบบกัน”
“เราร่วมงานกับใครก็ได้ค่ะ เราทำได้แต่เราจะเป็นคนดู อย่างละครจะดูว่าบทเราโอเคมั้ย จะทำเรื่องเกี่ยวกับอะไร เช่น เพลงที่เราจะร้องเราก็ดูว่าเราชอบมั้ย หรือเข้ากับเรามั้ย”
“มาเป็นพรีเซ็นเตอร์อาร์เอสฯ ก็ไม่ต้องบอกแกรมมี่ค่ะ พี่ ๆ เขาใจกว้างอยู่แล้ว เราก็ทำงานพรีเซ็นเตอร์มาเยอะมาก คือถ้าจะมองดูแล้วเราก็เล่นมาเยอะมาก เป็นสิ่งที่เราทำเป็นปกติอยู่แล้วค่ะ”
ปัดฟาดค่าตัว 7 หลัก ลั่นได้หยุดพักให้เวลาตัวเอง
“คุยเรื่องค่าตัว (หัวเราะ) จริง ๆ มันก็ปกติค่ะที่เรารับตามปกติ จะเรียกยังไงก็ได้ค่ะแล้วแต่อยากจะเรียก เอาที่สบายใจเลย ก็ดีนะคะเราได้พักผ่อนอยู่กับครอบครัว ได้อยู่กับสุนัขของเรามันทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตเรากลับมาในช่วงหนึ่งค่ะ ได้ไปพักผ่อน ได้ไปไหว้พระ ได้ไปทำบุญ ได้ไปดูคุณพ่อคุณแม่ หรืออะไรที่เรามีเวลาให้มันน้อยเกินไป บางครั้งทุกคนทำงานเยอะเราว่าไม่ใช่แต่เราหรอกนะ ทุกคนก็คิดถึงเรื่องส่วนตัวกันเยอะ บางทีไม่มีเวลาจริง ๆ ออกมาก็รถติด 3 ชั่วโมง เราก็ถือว่าหยุดคือหยุดเลยไปออกกำลังกาย ดูแลผิว อยากไปหาคุณพ่อคุณแม่ไปเลย เพราะชีวิตของเราไม่ใช่แค่งานอย่างเดียวค่ะ”
“งานเป็นส่วนหนึ่งแต่ถ้าเรา 100% เป็นงานวันหนึ่งเราจะเสียใจกับสิ่งรอบ ๆ ข้างนะคะว่าเราไม่ได้มองมันเลย แม้กระทั่งแมลงตัวเล็ก ๆ แมลงปอ แมลงเต่าทอง เรารู้สึกยังมีสัตว์เหล่านี้หลงเหลืออยู่เหรอ มันเป็นสัตว์ที่เปราะบางมากจริง ๆ แต่ถ้าเรามัวแต่ทำงานเราจะไม่เจอสัตว์เหล่านี้เลย แต่บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระก็ได้ สำหรับเราเรามองว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในธรรมชาติ ธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราเราต้องมีโอกาสใช้ชีวิตกับธรรมชาติบ้าง”