มีประเด็นที่ชวนให้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับการแข่งขันรายการ "THE STAR ค้นฟ้าคว้าดาว" ปีที่ 12 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมากับการแสดงของ 4 ผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออยู่ที่ประกอบไปด้วย ปิ่น พรชนก หมายเลข 3, จัมโบ้ วรกฤต หมายเลข 6, พรีน รวิสรารัตน์ หมายเลข 7 และ บิ๊ก กฤษฎา หมายเลข 8
เสาร์นี้ทั้ง 4 ได้รับโจทย์ 2 โจทย์ คือร้องเพลงที่แต่งโดยนักแต่งเพลงชื่อดัง "บอย โกสิยพงษ์" และเพลงลูกทุ่ง ซึ่งในส่วนของโจทย์แรกกับเพลงสักวันหนึ่ง, เรื่องจริง, ห่างไกลเหลือเกิน และ ช่วงที่ดีที่สุด ที่แต่ละคนต่างก็เลือกมาร้องตามลำดับนั้นโดยภาพรวมๆ ที่ออกมาต้องบอกว่าน่าผิดหวัง
เฉพาะอย่างยิ่งในการทำหน้าที่ของหนุ่ม "จัมโบ้" ที่ร้องได้แย่มากๆ แม้กระทั่งในโจทย์ของเพลงลูกทุ่งที่อีก 3 คนทำได้ค่อนข้างดี ดี และดีมากๆ แต่สำหรับหนุ่มจัมโบ้แล้วผลงานที่ออกมามันชวนให้ถึงขนาดที่ต้องตั้งคำถามว่า เฮ้ย! เนี่ยนะคือคนที่จะมาเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ในอนาคต
อาจมีหลายปัจจัยที่เป็นเหตุผลทำให้เจ้าตัวทำผลงานออกมาได้แย่ ทั้งเรื่องความไม่ถนัดในแนวเพลง รวมไปถึงเพลงที่ร้องนั้นอาจจะค่อนข้างร้องยาก หรือแม้กระทั่งเรื่องของประสบการณ์บนเวทีที่อาจจะน้อย ฯ แต่กระนั้นหากเรามองว่านี่คือคนที่ถูกกรรมการเลือกเข้ามาเพราะเห็น "แวว" หรือเห็น "ออร่า" ในความเป็นนักเอนเตอร์เทนของเจ้าตัว แถมเข้ามาถึงรอบลึกขนาดนี้แล้วมันก็ไม่ควรที่จะผิดพลาดอะไรถึงขนาดที่ทำผลงานออกมาโดยไม่ได้คะแนนจากคณะกรรมการเลยสักคะแนนเดียวแบบนี้มิใช่หรือ
กลายเป็นว่า แทนที่แต่ละสัปดาห์ที่ผ่านไปเราจะได้เห็นการแข่งขันที่คำตำหนิน้อยลง คำชมที่มากขึ้นจากรรมการ ได้เห็นแววคนที่จะเป็นเดอะสตาร์ในอนาคตที่ฉายแส้งเข้มข้นเรื่อยๆ แต่สัปดาห์นี้ต้องบอกว่ามันไม่ใช่
อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ 100 คะแนนจากผู้ชมในห้องส่งที่โหวตให้กับผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน
ตัดโชว์แรกออกไปเพราะแต่ละคนต่างก็ทำผลงานได้ไม่ค่อยจะดีนักพอๆ กัน มาว่ากันเฉพาะโจทย์เพลงลูกทุ่ง หากไล่กันตามลำดับผลงานที่ออกมาแล้วคนที่ได้คะแนนสูงสุดก็น่าจะเป็น ปิ่น ตามด้วย พรีม, บิ๊ก และ จัมโบ้ แต่ผลที่ออกมากลับกลายเป็นพรีมที่ได้คะแนนไปถึง 47 คะแนน โดยที่ปิ่นได้ไป 25 คะแนน
แถมจัมโบ้ที่ไม่ได้คะแนนจากกรรมการเลยกลับได้คะแนนไปมากกว่าบิ๊กอีกต่างหาก
แน่นอนว่าการให้คะแนนตรงนี้หรือแม้กระทั่งคนที่โหวตอยู่ทางบ้านเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะให้กับใครก็ได้ แต่กระนั้นในมุมหนึ่งมันก็ทำให้มองไปยังภาพที่ใหญ่กว่าได้ว่าทุกวันนี้เราให้เกียรติ หรือว่าเราให้คุณค่าใน "ความสามารถ" ของคนที่มี "ความสามารถ" จริงๆ มากน้อยเพียงใด?
มีคนในวงการบันเทิงบ้านเราหลายต่อหลายคนที่ได้รับเกียรติให้ไปถึงจุดที่ว่าหรือไม่ก็ใกล้เคียง ทั้งๆ ที่หากให้นึกถึงผลงานที่ส่งให้เขาหรือเธอขึ้นไปถึงจุดตรงนั้น บางคนนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ขณะที่หลายคนผลงานและความสามารถแทบไม่ปรากฏ แต่กลายเป็นดาราดัง มีงานมีเงินเข้ามาเพียงเพราะขยันเป็นข่าวคาวๆ ฉาวๆ
ณ ปัจจุบันด้วยการสื่อสารที่ทันสมัย หลากหลาย และสะดวกในการเข้าถึง ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยกับการที่รายการใดรายการหนึ่งจะสร้างเดอะสตาร์ของตนเองขึ้นมา หากแต่ที่น่าสนใจก็คือคำถามที่ว่าเรากำลังจะสร้างซูเปอร์สตาร์" สร้างคนบันเทิง สร้างคนดัง ในความหมายและรูปแบบไหนกันเล่า
เป็น "เดอะสตาร์" ที่มีความสามารถจับต้องได้จริงๆ หรือเป็น "เดอะสตาร์" ที่อาศัยกระแสความนิยมซึ่งเป็นเพียงภาพลวงของวงการมายาเท่านั้น...
...
"เดอะสตาร์ 12" กับตรรกะที่ย้อนแยงของกรรมการ
เสาร์นี้ทั้ง 4 ได้รับโจทย์ 2 โจทย์ คือร้องเพลงที่แต่งโดยนักแต่งเพลงชื่อดัง "บอย โกสิยพงษ์" และเพลงลูกทุ่ง ซึ่งในส่วนของโจทย์แรกกับเพลงสักวันหนึ่ง, เรื่องจริง, ห่างไกลเหลือเกิน และ ช่วงที่ดีที่สุด ที่แต่ละคนต่างก็เลือกมาร้องตามลำดับนั้นโดยภาพรวมๆ ที่ออกมาต้องบอกว่าน่าผิดหวัง
เฉพาะอย่างยิ่งในการทำหน้าที่ของหนุ่ม "จัมโบ้" ที่ร้องได้แย่มากๆ แม้กระทั่งในโจทย์ของเพลงลูกทุ่งที่อีก 3 คนทำได้ค่อนข้างดี ดี และดีมากๆ แต่สำหรับหนุ่มจัมโบ้แล้วผลงานที่ออกมามันชวนให้ถึงขนาดที่ต้องตั้งคำถามว่า เฮ้ย! เนี่ยนะคือคนที่จะมาเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ในอนาคต
อาจมีหลายปัจจัยที่เป็นเหตุผลทำให้เจ้าตัวทำผลงานออกมาได้แย่ ทั้งเรื่องความไม่ถนัดในแนวเพลง รวมไปถึงเพลงที่ร้องนั้นอาจจะค่อนข้างร้องยาก หรือแม้กระทั่งเรื่องของประสบการณ์บนเวทีที่อาจจะน้อย ฯ แต่กระนั้นหากเรามองว่านี่คือคนที่ถูกกรรมการเลือกเข้ามาเพราะเห็น "แวว" หรือเห็น "ออร่า" ในความเป็นนักเอนเตอร์เทนของเจ้าตัว แถมเข้ามาถึงรอบลึกขนาดนี้แล้วมันก็ไม่ควรที่จะผิดพลาดอะไรถึงขนาดที่ทำผลงานออกมาโดยไม่ได้คะแนนจากคณะกรรมการเลยสักคะแนนเดียวแบบนี้มิใช่หรือ
กลายเป็นว่า แทนที่แต่ละสัปดาห์ที่ผ่านไปเราจะได้เห็นการแข่งขันที่คำตำหนิน้อยลง คำชมที่มากขึ้นจากรรมการ ได้เห็นแววคนที่จะเป็นเดอะสตาร์ในอนาคตที่ฉายแส้งเข้มข้นเรื่อยๆ แต่สัปดาห์นี้ต้องบอกว่ามันไม่ใช่
อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ 100 คะแนนจากผู้ชมในห้องส่งที่โหวตให้กับผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน
ตัดโชว์แรกออกไปเพราะแต่ละคนต่างก็ทำผลงานได้ไม่ค่อยจะดีนักพอๆ กัน มาว่ากันเฉพาะโจทย์เพลงลูกทุ่ง หากไล่กันตามลำดับผลงานที่ออกมาแล้วคนที่ได้คะแนนสูงสุดก็น่าจะเป็น ปิ่น ตามด้วย พรีม, บิ๊ก และ จัมโบ้ แต่ผลที่ออกมากลับกลายเป็นพรีมที่ได้คะแนนไปถึง 47 คะแนน โดยที่ปิ่นได้ไป 25 คะแนน
แถมจัมโบ้ที่ไม่ได้คะแนนจากกรรมการเลยกลับได้คะแนนไปมากกว่าบิ๊กอีกต่างหาก
แน่นอนว่าการให้คะแนนตรงนี้หรือแม้กระทั่งคนที่โหวตอยู่ทางบ้านเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะให้กับใครก็ได้ แต่กระนั้นในมุมหนึ่งมันก็ทำให้มองไปยังภาพที่ใหญ่กว่าได้ว่าทุกวันนี้เราให้เกียรติ หรือว่าเราให้คุณค่าใน "ความสามารถ" ของคนที่มี "ความสามารถ" จริงๆ มากน้อยเพียงใด?
มีคนในวงการบันเทิงบ้านเราหลายต่อหลายคนที่ได้รับเกียรติให้ไปถึงจุดที่ว่าหรือไม่ก็ใกล้เคียง ทั้งๆ ที่หากให้นึกถึงผลงานที่ส่งให้เขาหรือเธอขึ้นไปถึงจุดตรงนั้น บางคนนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ขณะที่หลายคนผลงานและความสามารถแทบไม่ปรากฏ แต่กลายเป็นดาราดัง มีงานมีเงินเข้ามาเพียงเพราะขยันเป็นข่าวคาวๆ ฉาวๆ
ณ ปัจจุบันด้วยการสื่อสารที่ทันสมัย หลากหลาย และสะดวกในการเข้าถึง ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยกับการที่รายการใดรายการหนึ่งจะสร้างเดอะสตาร์ของตนเองขึ้นมา หากแต่ที่น่าสนใจก็คือคำถามที่ว่าเรากำลังจะสร้างซูเปอร์สตาร์" สร้างคนบันเทิง สร้างคนดัง ในความหมายและรูปแบบไหนกันเล่า
เป็น "เดอะสตาร์" ที่มีความสามารถจับต้องได้จริงๆ หรือเป็น "เดอะสตาร์" ที่อาศัยกระแสความนิยมซึ่งเป็นเพียงภาพลวงของวงการมายาเท่านั้น...
...
"เดอะสตาร์ 12" กับตรรกะที่ย้อนแยงของกรรมการ
