“แหม่ม” ไม่ห่วงลูกห่างอก ส่ง “น้องแม็ค” เข้าโรงเรียนประจำที่อังกฤษ เชื่อได้ใช้ชีวิตแบบลูกผู้ชาย

“แหม่ม คัทลียา” เสียบแทน “เบนซ์ พรชิตา” ในรายการ ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 6 ไม่หวั่นเสียงโห่ น้อมรับทุกความคิด ชี้คิดต่างได้ ขอวิจารณ์ตามเนื้อผ้า รับส่ง “น้องแม็ค” เข้าโรงเรียนประจำที่อังกฤษ อยากให้ใช้ชีวิตแบบลูกผู้ชาย

ฮือฮาไม่เบา หลังรายการ ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 6 เปิดตัว “แหม่ม คัทลียา กระจ่างเนตร” ในฐานะกรรมการคนใหม่เสียบ “เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา” โดยเจ้าตัวเปิดใจว่าไม่กดดัน แต่ขอวิจารณ์ทุกอย่างตามเนื้อผ้า

“เราก็ให้เป็นไปตามสเต็ปของมัน ไม่ได้คิดว่าต้องกดดัน เกร็งหรือนอยด์อะไร ในเมื่อได้รับมาแล้วเราก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำการบ้านค่ะ ดูทั้งของไทยทั้งของประเทศ ดูคาแรกเตอร์แต่ละคน ดูวิธีการคอมเมนต์ ก็คือทำการบ้านเหมือนกัน”

“เวอร์ชั่นน้องเบนซ์ดูคร่าวๆ เฉยๆ แต่ไม่ได้ดูทุกตอน ทุกซีซั่น ทุกวีค ดูเป็นไอเดีย แล้วก็ดูของต่างประเทศคละๆ กันไป แต่สุดท้ายเนี่ยการเป็นกรรมการของเรา เราก็ต้องเป็นรูปแบบในตัวเราจริงๆ”

ลั่นถูกอวยเวอร์ว่าแซ่บ บอกกรรมการเข้าข้างกันเองเกินเหตุ ส่วนตนพูดความจริงเอาตามเนื้อผ้า
“ที่บอกว่าเราแซ่บเข้าข้างหรือเปล่าไม่รู้ พวกนี้ก็อวยซะเกินเหตุ แต่เมื่อวานก็มีการตัดสินกันไปบ้าง เราก็จะพูด บางทีเราก็คอมเมนต์ตรงๆ เขาก็บอกว่าโห พี่แหม่ม มายิ้มๆ เป็นหนูไม่ไหวเลยนะ แต่จะพูดดีๆ แต่เอาตามเนื้อผ้า เอาตามความจริงค่ะ”

“ตอนที่เขาให้เก็บเป็นความลับก็ไม่มีใครถามอะไรเลย เราก็เก็บดี๊ดีด้วยนะ เราไม่ได้บอกใครเลย เพราะเขาให้ปิดเป็นความลับก่อนยังไม่ให้เปิดเผย ก็เก็บเงียบเลยแต่มีคุยกับน้องเบนซ์ น้องเบนซ์ก็น่ารักมาก เขาก็คอยโค้ชตลอดว่าต้องทำแบบนี้ เขาก็แนะนำ น่ารักมาก”

“เรื่องตัดสินใจก็ไม่ได้เร็วแต่ไม่ได้นานมาก พอดีเป็นรายการที่เราติดตาม เราเป็นแฟนอยู่แล้ว บวกกับหนึ่งมาทำแทนเบนซ์ก็เป็นน้องที่สนิทมาก สองรายการเขาน่าสนใจ คนติดตามเยอะเป็นรายการสนุกสนานอยู่แล้ว ที่สำคัญเป็นอีกหน้าที่หนึ่งซึ่งเราไม่เคยรับมาก่อน ก็ท้าทายเป็นอีกด้านหนึ่งที่คนไม่เคยเห็นอีกรูปแบบหนึ่งของแหม่ม”

“กรรมการแต่ละคนก็ไม่เตือนนะ เขาบอกว่าตัดสินใจไปตามที่เห็น ตามเนื้อผ้า ตามของจริง ดีก็ว่าดี อะไรต้องแก้ไขก็ว่ากันไปตามนั้น การที่เป็นกรรมการเราต้องตัดสินคนอยู่แล้วล่ะตัดสินให้มีคุณค่า เหตุผลที่สุด ให้ได้ผลที่สุด”

รับได้ถ้าหากโดนคนดูโห่ น้อมรับทุกอย่าง ชี้คิดต่างได้
“ไม่กดดันหรอก แต่ถ้าคนดูกับเราใจตรงกันก็ไปในทางเดียวกัน ก็จะเฮกดเลยๆ สนุก แต่ถ้าเขาโห่ ทุกคนคิดต่างได้ เราต้องน้อมรับทุกอย่าง เตรียมพร้อมค่ะ ตั้งใจเต็มที่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ”

คิดถึงละคร รับหมั่นเขี้ยวอยากจะเล่นหลายบท แต่จังหวะไม่ได้ จากวันนี้ไปขอเลือกงานที่มีความสุข ครอบครัวแฮปปี้
“ก็มีอ่านข่าวทางช่อง 3 เรื่องเล่าเช้านี้ทุกวันศุกร์ ช่วงครอบครัวบันเทิง แล้วก็มีรายการเดอะควีนทางช่อง 3 แล้วก็มีไทยแลนด์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์เป็นกรรมการ แล้วก็มีรายการที่ช่องอัมรินทร์อีก แล้วก็เลี้ยงลูก 3 ค่ะ(หัวเราะ)”

“ละครก็มีติดต่อมาบ้าง แต่ด้วยจังหวะที่ก่อนหน้านี้เรายุ่งเรื่องลูก เตรียมตัวลูกไปเมืองนอก เราเลยไม่ได้เตรียมตัว ถามว่าคิดถึงละครไหมก็คิดถึงเสมอ คิดถึงอยู่เรื่อยๆ อยากเล่นเหมือนกัน ก็หมั่นเขี้ยวอยู่เหมือนกันว่าถ้าบทแบบนี้เราจะเล่นยังไง ก็มีติดต่อบ้าง แต่ถ้าจังหวะได้ก็เล่นนะ อย่างที่บอกอายุก็ไม่ได้น้อย จากวันนี้นับไปข้างหน้าก็อยากทำสิ่งที่เรามีความสุข ไม่ได้คิดอะไรเยอะ ขอแค่มีความสุข สนุกกับงาน เต็มที่กับครอบครัว แฮปปี้แล้ว”

“คือจริงๆ เลี้ยงลูกเป็นหลักอยู่แล้ว งานค่อนข้างเป็นตาราง มันฟิกซ์ได้ อย่างวันนี้มาออดิชั่นตอนเช้าก็ไปโรงเรียนลูกมาก่อนแล้ว ไปคุยกับครู มันจัดสรรได้ มันค่อนข้างเป๊ะๆ เป็นเวลา ลูกได้เต็มที่อยู่แล้วไม่ต้องห่วงเลย แต่มีบางเวลาที่แม่ไม่อยู่ให้พ่อไปส่ง ให้คิดถึงแม่บ้าง”

บอกคงคิดถึง “น้องแม็ค” ห่างจากอก เข้าโรงเรียนประจำที่อังกฤษ อยากให้ลูกใช้ชีวิตแบบลูกผู้ชาย มีความเป็นตัวของตัวเอง
“ก็เตรียมตัวเกือบจะเรียบร้อยครบแล้วค่ะ ก็เหลือเตรียมของเตรียมเสื้อผ้าเพราะเขาต้องไปเรียนโรงเรียนประจำที่โน่น ก็อีกไม่กี่เดือนก็คงไป ไปอังกฤษ เข้าโรงเรียนประจำ ไปส่ง ส่งแล้วเราก็กลับ มันก็ต้องห่วง คิดถึงทุกอย่าง ทุกความรู้สึกเนอะ เหมือนลูกห่างออกจากอก แต่พอบวกลบคูณหารทุกอย่างแล้ว สิ่งที่เขาจะได้คือเขาจะได้มีความเป็นตัวของตัวเอง ได้อยู่และใช้ชีวิตแบบที่ไม่มีพ่อแม่ พี่เลี้ยงคนรอบข้างคอยดูแล มันก็เป็นเรื่องสำคัญ การศึกษามันดีทุกที่แหละ ดีทุกประเทศ ดีทุกโรงเรียน เพียงแต่ว่าอยู่นี่ก็มีแม่ไปส่ง พ่อไปรับ ให้เขาได้ลองใช้ชีวิตแบบเด็กผู้ชายที่ได้ช่วยเหลือตัวเองบ้าง”

“แม็คก็เตรียมตัวมาตั้งแต่ 4 ขวบเพราะสามีเขาก็เป็นอยู่โรงเรียนประจำมาก่อน เขาไปตั้งแต่ 8 ขวบ เขาก็เห็นอะไรหลายอย่างที่เป็นข้อดีของการส่งลูกไป ก็บอกแม็คตั้งแต่ 4 ขวบ แม็คก็บอกว่าแม่สาบานไหม อีกล้านปีเราก็ไม่ไป ก็พูดตั้งแต่ 4 ขวบ ตอนนี้เขาจะ 11 ก็ค่อยๆ ซึม ค่อยๆ รับไป แต่พอไปดูโรงเรียนเขาก็ตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจอะไรใหม่ๆ เขาก็ดูตื่นเต้น ดูชอบเหมือนกัน”

เผยห่วงแค่ความปลอดภัย แต่เชื่อทุกอย่างอยู่ในสายตาครู
“ไม่เป็นห่วงหรอกค่ะ จะบอกว่าไม่เป็นห่วงก็ไม่ได้ แต่เราไปดูโรงเรียนแล้ว ทุกคนหลายคนก็ส่งลูกไปโรงเรียนประจำ โรงเรียนก็ดูมีหลักการ มีระบบระเบียบวินัยชัดเจน อาจห่วงแค่ความปลอดภัย ว่ามันจะซน จะซ่า เล่นอะไรพิเรนทร์ไหม แต่ก็อยู่ในสายตาคุณครู เขาก็คงคิดถึงอาหารไทยเพราะแม็คชอบทานส้มตำ ยำวุ้นเส้น ก็คงมีคิดถึงอาหารไทยบ้าง