"คีธ อีเมอร์สัน" มือคีบอร์ดระดับตำนานของวงการดนตรีร็อก ผู้ได้ชื่อว่านำเครื่องดนตรีประเภทซินธีไซเซอร์มาบรรเลงดนตรีร็อกเป็นคนแรกๆ ของโลกได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 71 ปี ด้วยสาเหตุอันน่าเศร้าว่าอาจจะเป็นการฆ่าตัวตาย
สมาชิกคนสำคัญแห่งวง Emerson, Lake and Palmer ที่สร้างตำนานเอาไว้ให้กับวงการดนตรียุค 70s ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค. ที่คอนโดมีเนียมในลอสแอนเจลส โดยมีบาดแผลถูกกระสุนอยู่ที่ศีรษะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความเห็นว่าจากสภาพศพ และหลักฐานอื่นๆ ในที่เกิดเหตุได้บ่งชี้ว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย
โดยหลังมีข่าวเศร้าครั้งนี้ คาร์ล พาลเมอร์ ที่ร่วมบรรเลงดนตรีกับ คีธ อีเมอร์สัน มาตั้งแต่ต้นได้ออกแถลงการณ์ยกย่องเพื่อนร่วมวงว่าเป็นผู้บุกเบิก และริเริ่มสร้างสรรค์ ซึ่งความอัจฉริยะทางดนตรีของเขาสามารถสื่อสารไปถึงได้ทั้งโลกแห่งดนตรี ร็อก, คลาสสิก และแจ๊ซ “คีธ คือจิตวิญญาณอันอ่อนโยนของดนตรี และความหลงใหลในการเล่นคีบอร์ดของเขานั้นจะไม่มีใครเทียบเคียงได้ไปอีกหลายปี"
สุดเหวี่ยงด้วยคีบอร์ดบนเวทีคอนเสิร์ต …
คีธ อีเมอร์สัน ได้รับอิทธิพลโดยตรงจาก จิมี เฮนดริกซ์ ยอดมือกีตาร์ไฟฟ้า ที่โดดเด่นทั้งด้านการสร้างสรรค์ผลงาน และการแสดงบนเวที จนทำให้การแสดงของ อีเมอร์สัน บนเวทีไม่เหมือนมือคีบอร์ดคนใดๆ ไม่ว่าจะก่อนหน้าเขา หรือรุ่นต่อมา
โดยวง Emerson, Lake and Palmer ที่ประกอบไปด้วย อีเมอร์สัน ในตำแหน่งคีบอร์ด, คาร์ล พาลเมอร์ ตีกลอง และ เกร็ก เลก ร้องนำกับเล่นเบส คือหนึ่งในวงดนตรีแนวโปรเกรสซีฟร็อกที่ดังที่สุดในยุค 70s ด้วยการผสมดนตรีหลากหลายแนวเข้าด้วยกัน ซึ่งวง ELP ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในปี 1974 จากการได้รับเลือกให้เล่นปิดงาน California Jam เทศกาลดนตรีซึ่งต่อมาได้รับการยกย่องว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยนั้น ที่มีผู้ชมถึง 250,000 คน และถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ ABC
ในการแสดงวันนั้น อีเมอร์สัน ปิดฉากโชว์ด้วยการบรรเลงเปียโนหลังใหญ่ ที่ถูกสลิงค์ดึงขึ้นไปกลางอากาศและหมุ่นควง 360 องศาอยู่บน 15 เมตรเหนือพื้นดิน จนกลายเป็นการโชว์ที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ชมทุกคน
ซึ่งต่อมา อีเมอร์สัน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ Counterculture ถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า "มือกีตาร์คงเป็นนักดนตรีที่เคลื่อนไหวได้สดวกที่สุดบนเวที และมันคงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้แฮมมอนออแกนหนัก 350 ปอนด์เป็นส่วนหนึ่งของตังคุณ ... การแสดงตอนนั้นมันเป็นธรรมชาติมาก เป็นอะไรที่สามารถทำให้ผมแสดงออกได้มากขึ้น"
ผู้นำกระแสโปรเกรสซีฟร็อก “ดนตรีหัวก้าวหน้า”
อีเมอร์สัน เริ่มต้นเล่นดนตรีด้วยการเรียนเปียโนคลาสสิกที่ประเทศอังกฤษบ้านเกิด ก่อนจะเริ่มหันมาสนใจดนตรีแจ๊ซ แต่จุดหักเหสำคัญในเส้นทางดนตรีของเขาเกิดขึ้น เพราะการได้ฟังอัลบั้มชุด Switched-On Bach ของ เวนดี คาร์ลอส ซึ่งนำบนเพลงคลาสสิกมาบรรเลงผ่านเครื่องดนตรีซินธีไซเซอร์ของ โรเบิร์ต มูก
ซินธีไซเซอร์ หรือ เครื่องดนตรีที่สร้างเสียงสังเคราะห์ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับการพัฒนาโดย โรเบิร์ต มูก ให้สามารถนำไปใช้เล่นกับดนตรีร่วมสมัยได้ในช่วงปลายยุค 1960s จนมีศิลปินดังๆ หยิบเครื่องดนตรีแนวนี้ไปใช้มากขึ้น อาทิ ในอัลบั้มชุด Abbey Road ของ The Beatles ในปี 1969 แต่ อีเมอร์สัน คือผู้ที่ได้ชื่อว่าสร้างสรรค์เพลงร็อกที่เน้นการบรรเลงด้วยซินธีไซเซอร์เป็นคนแรก
โดยเมื่อวง The Nice ที่เขาเป็นสมาชิกอยู่ได้ยุบวงไปในปี 1970 อีเมอร์สัน ได้ก่อตั้งวงขึ้นกับ พาลเมอร์ และ เลก จน Emerson, Lake and Palmer กลายเป็นหัวหอกของกระแสโปรเกรสซีฟร็อกในยุค 1970s ร่วมกับ Yes และ Genesis ที่ได้ชื่อว่าเป็นวงดนตรีที่พยายามพัฒนาดนตรีร็อกให้ขยายขอบเขตไปสู่ความก้าวหน้ามากขึ้น
Emerson, Lake and Palmer ได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น และอังกฤษ นอกจากนั้นก็ยังมีผลงานออกมาหลายอัลบั้ม อาทิ Tarkus, Trilogy และ Brain Salad Surgery ที่ขึ้นไปติดอันดับ TOP 5 ของชาร์ตเพลงอังกฤษทั้งหมด
โดย Tarkus เป็นงานแนวทดลองที่เฉพาะเพลงแทร็คแรกก็มีความยาวถึง 20 นาทีแล้ว ส่วนเนื้อหาเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวละคร "ทาร์คุส" เจ้าตัวนิ่มจักรกลที่บางครั้งก็จะปรากฏตัวขึ้นมาบนเวทีคอนเสิร์ตด้วย ส่วนผลงานชุด Pictures at an Exhibition เป็นการทดลองนำดนตรีคลาสสิกมาบรรเลงเป็นเพลงร็อกที่เน้นเรื่องดนตรีออแกน
….
ก่อนหน้าจะเสียชีวิต อีเมอร์สัน ไม่เคยแสดงออกว่ามีปัญหาด้านสุขภาพจิตใดๆ เลย และยังมีกำหนดไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้นก่อนหน้านี้เขาเองก็เพิ่งจะเขียนไว้อาลัยให้กับศิลปินร็อกระดับโลกที่เสียชีวิตลง ไม่ว่าจะเป็น เดวิด โบวี หรือ เลมมี แห่ง Motorhead
แต่ อีเมอร์สัน ก็เคยมีปัญหาสุขภาพจนถึงขั้นทีต้องยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตเมื่อปี 2010 มาแล้ว
โดยการแสดงครั้งสุดท้ายของเขาเกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ค. ปีก่อนที่ลอนดอน ซึ่ง อีเมอร์สัน ได้ขึ้นโชว์เพื่อรำลึกถึง โรเบิร์ต มูก ผู้พัฒนาเครื่องดนตรีประเภทซินธีไซเซอร์คนสำคัญ โดยเขาได้ร่วมเล่นดนตรีกับวง BBC Concert Orchestra แต่สุดท้ายกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ อีเมอร์สัน ที่ปกติเป็นคนสุภาพเรียบร้อยได้ออกมากล่าวแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง เมื่อเขารู้สึกว่าไม่ได้รับเกียรติจากนักดนตรีคลาสสิกที่บางคนใช้ที่อุดหู และบางคนก็ลุกออกจากเวทีไประหว่างเขาทำการแสดง
"ลองจิตนาการดูว่าคุณกำลังคุยกับผมอยู่บนโต๊ะเดียวกัน แล้วจู่ๆ ผมก็เอานิ้วขึ้นมาอุดหู" อีเมอร์สัน กล่าวแสดงความไม่พอใจในพฤติกรรมของนักดนตรีคลาสสิกบางคน ที่เขาบอกว่าไร้มารยาทและไม่มีความเป็นมืออาชีพ "นักดนตรีร็อกจะไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่นอน"
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม