"ตุ๊กกี้" ยันไม่ได้แซงคิว แค่ไม่ได้ต่อแถว แจ้งนกแอร์ไว้แล้ว ไม่เอาเรื่องคนโพสต์ข้อความเพราะเคลียร์กันเรียบร้อยแล้วเป็นเรื่องเข้าใจผิด
มีข่าวเป็นเรื่องเป็นราวอีกแล้ว สำหรับตลกสาวร่างเล็ก "ตุ๊กกี้ ชิงร้อย" สุดารัตน์ บุตรพรม ที่มีคนออกมาโพสต์แฉว่า ได้รับสิทธิพิเศษจากสายบินนกแอร์ ลัดคิวขึ้นเครื่องทำให้เกิดการไม่พอใจ มีเสียงโห่ร้องกันออกมา ซึ่งล่าสุดได้เจอสาวตุ๊กกี้ในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง หลวงพี่แจ๊ส 4G เจ้าตัวก็ยอมรับว่าตกใจกับข่าวไม่น้อย แต่ยืนยันเป็นการเข้าใจผิด
"ตุ๊กกี้มารู้ประมาณเกือบๆ 11 โมง ตกใจมาก คืออ่านหัวข้อไม่เท่าไหร่นะ อาจจะเข้าใจผิด ก็มองในแง่บวกไว้ ไม่ได้โทษใครทั้งสิ้น แต่พออ่านคอมเม้นท์บอกว่ามีคนโห่บ้าง แต่ทำไมฉันไม่ได้ยิน หูฉันเพี้ยนไปเหรอ คือเรื่องมีอยู่ว่าหนูบิน 8 ไฟท์ในสัปดาห์นั้น บินขึ้นบินลง เราก็รู้กันอยู่ว่าสายการบินมีปัญหาอยู่ ณ ช่วงนั้นและช่วงนี้ด้วย ก็ไม่พูดถึง ณ กรณีนั้น แต่กรณีนี้คือเช้าบินมาทำงาน 2 ทุ่มบินกลับแบบนี้มา 4 วัน 8 เที่ยวบิน ปรากฎว่ามีปัญหาเรื่องเที่ยวบินตลอด อาจจะเป็นเรื่องยกเลิกไฟท์บ้าง เปลี่ยนสายการบินบ้าง มีปัญหามาตลอด"
"ครั้งนี้คือซีเรียสตรงที่ว่าต้องกลับมาอัดรายการตุ๊กกี้ ตุ๊กกี้ โชว์ ไม่อัดไม่ได้เลทไม่ได้ตกเครื่องไม่ได้ เดินทางกลับมาวันที่ 26 คืนวันที่ 25 ก็เลยโทรไปหาสายการบินว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไฟท์ไหมเพราะเราซีเรียสนะ เพราะต้องกลับมาอัดรายการ ถ้าไม่มีงานเราก็ไม่ซีเรียสสบายมากเพราะข้อความก็ไม่มีส่งมา อะไรก็ไม่มีเตือนมา อีเมล์ก็ไม่มีบอกมา ก็เลยโทรไปเอง ปรากฎว่าสายการบินที่อุดรฯ ที่สนิทสนมกัน คือหนูสนิทสนมกับทุกสายการบิน ก็เลยบอกเขาว่าถ้าเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกเที่ยวบิน เช็คอินให้เราหน่อย พี่จะออกจากโรงพยาบาลประมาณเกือบ 7 โมงแล้วจะรีบมาเลย พอป้อนข้าวพ่อเสร็จพี่จะรีบมา ถ้าเป็นไปได้เช็คอินให้พี่หน่อยนะ ทุกอย่างก็จบ"
บอกไม่ติดใจคนโพสต์ แต่เสียใจคนที่แชร์มากกว่า
"พอมาถึงก็ไปเอาบัตร หลังจากไปเอาบัตรก็ขึ้นไปนั่งกินข้าว ก็เป็นเรื่องเป็นราวไป เราก็คิดในใจว่าเขาเห็นยังไงเขาก็คงคิดแบบนั้น เราก็ไม่ได้ใช้สิทธิความเป็นตุ๊กกี้ ทุกคนใช้สิทธิตรงนี้ได้ ถ้ามีปัญหาสายการบินเขาไม่ใจดำ เขาช่วยทุกคน อันนี้เราก็ขอความช่วยเหลือเขาไป แต่พอเจอข่าวนี้มาหนึ่งสิ่งที่รู้สึกคือ ไม่ได้เสียใจคนโพสต์นะ เข้าใจเขาทุกอย่างเลย เพราะเขาอยู่ในแถวเราเข้าใจเขา แต่เสียใจคนแชร์ ไม่รู้ไม่เห็นแชร์ดีแชร์เท็จอันดับหนึ่งเลย แชร์ดอทคอมมาก เราก็คิดนะเสียใจจังเลย แต่ไม่เป็นไร ก็หาเบอร์น้องเขาจนเจอ ก็เลยถามน้องเขาว่าคิดอะไรถึงโพสต์ไปแบบนั้น ถ้าคิดตามภาพที่เห็นก็โอเคให้อภัย ก็เล่าแบบนี้ให้น้องฟัง น้องก็ตกใจมาก บอกว่าเสียใจจังที่มองพี่ตุ๊กกี้แบบนี้ไป"
"บอกเลยว่าชีวิตนี้ไม่เคยเอาเปรียบใคร แม้กระทั่งเรื่องคิว การแซงคิว การตัดหน้ากันซีเรียสมาก แม้กระทั่งร้านสบาย บาร์ก็ยังมีคิว เพราะจะเป็นคนซีเรียสเรื่องนี้ เพราะคนไทยเซนซิทีฟเรื่องนี้ ตุ๊กกี้ไม่เคยทำ สายการบินนั่งมานานแล้ว ถ้าจะแซงคิวใครจะปาดหน้าใครคงทำมานานแล้ว แต่จะบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป อย่าอารัดเอาเปรียบคน พอเรื่องนี้มาไม่ใช่แค่เขาที่ซีเรียส เราก็ซีเรียสเหมือนกัน แต่ตุ๊กกี้บอกเลยว่าไม่เป็นไร คนเรามองกันแค่แว๊บเดียวอาจจะเข้าใจผิดกันได้ แต่ถ้ามีโอกาสได้พูดก็จะพูดให้ฟังว่าให้มันผ่านไป ไม่เอาเรื่อง เพราะว่าเขาก็โพสต์ขอโทษแล้ว ตุ๊กกี้ก็ไม่เอาเรื่อง ไม่แจ้งความ ไม่อะไรทั้งสิ้น เข้าใจกันแล้ว"
"ทั้งนี้ทั้งนั้นฝากบอกผู้ที่มาสนับสนุนข้อความ มาสนับสนุนเพจที่เขียนไป หนูสร้างชื่อหนูมาหลายสิบปี หนูไม่เอาเรื่องแค่นี้มาทำให้ตัวเองดูแย่ ดูมีปัญหา ฉะนั้นเราเห็นใจกัน อ่านได้ วิเคราะห์ได้ แต่อย่าสร้างอีกประเด็นขึ้นมา เราไม่โทษใคร โทษวาระและโอกาส ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเราต่อแถวก็ไม่มีปัญหา แต่นี่เราได้วางแผนไว้แล้ว กลัวผิดพลาด ฉะนั้นเราก็ไม่โทษใคร ไม่โทษน้อง ตอนนี้ก็คุยกัน ขอโทษกัน อภัยกัน"
"ตอนแรกที่เห็นคือนกแอร์ส่งให้ผู้ใหญ่ แล้วผู้ใหญ่ส่งให้ตุ๊กกี้ เพราะปกติตุ๊กกี้ไม่เคยเข้าไปอ่านอะไรพวกนี้ ดูแต่อินสตาร์แกรม ดูแต่แฟนเพจตัวเอง ไม่เคยอ่านอย่างอื่น ก็มารู้ตอนที่เวิร์คพ้อยท์โทรมาว่าไปแจ้งความเลย หนูเลยบอกไม่เป็นไรพี่ เอาเบอร์มาเดี๋ยวหนูเคลียร์กับน้องเอง หนูอยากรู้ว่าน้องคิดอะไรอยู่ พอเคลียร์เองปุ๊บไม่เห็นน้องมีอะไรเลย มันเป็นการเข้าใจผิด ถามน้องว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้ให้พี่ยังไง น้องบอกว่าผมโพสต์เอง ผมจะขอโทษเอง ตุ๊กกี้ก็ให้อภัย ก็จบเลย"
"คือวันนั้นเครื่องออก 7.35 ตุ๊กกี้มาถึง 7.05 น. อีก 5 นาทีต้องขึ้นเครื่องแล้ว เราก็ลืมไปว่าที่ยืนต่อแถวนั้นคือนกแอร์ เพราะ 7.35 ออก 2 เที่ยวบินคือแอร์ เอเชียร์ และไลออน แอร์ แล้วก็นกแอร์มันออกพร้อมกัน ก็เลยเข้าใจความรู้สึกเขา แต่ไม่เป็นไร คนเราเข้าใจผิดกันได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการให้อภัย ยอมรับผิดและขอโทษกัน ก็ฝากพี่ๆ สื่อมวลชนเลยว่าหนูไม่มีปัญหากับใคร แล้วก็อย่าโทษใคร ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยระยะเวลาและโอกาส เป็นการเข้าใจผิดกันได้ น้องขอโทษ ตุ๊กกี้ให้อภัย เรื่องทุกอย่างก็จบลงได้ด้วยดีค่ะ (ยิ้ม)"
เผยอาการพ่อเรื้อรังมาเรื่อยๆ เพิ่งผ่าตัด ยังอยู่ในช่วงกายภาพบำบัด
"หมอให้สัญญาว่าจะออกวันพรุ่งนี้นะ แต่พอโทรหาพ่อ พ่อบอกไม่อยากออก (หัวเราะ) ก็ไม่เป็นไร ไป-กลับๆ ถ้าคนที่ยืนอยู่บนจุดที่ตุ๊กกี้ยืน ก็ต้องทำแบบตุ๊กกี้นี่แหละ คืออันดับแรกคุณพ่อเป็นโรคเก๊า เรื้อรังมาจนนอนทับเส้นตัวเอง เรื้อรังจนมาเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเส้นที่ 4 และ 5 ซึ่งคนแก่ส่วนมากก็จะหนักหน่อย ปรากฎว่าด้วยการที่ไม่ให้คุณพ่อผ่า ด้วยความที่คิดเยอะมาก ปรากฎว่าหนักขึ้นๆ ก็เลยให้ผ่า พอผ่าเสร็จตอนนี้ก็อยู่ในเรื่องของการกายภาพบำบัดค่ะ"