คอลัมน์เพลงวาน โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
เงียบหายไปนาน แต่จู่ๆก็กลายเป็นข่าวโด่งดังฮือฮาขึ้นมา สำหรับ“สุรชัย สมบัติเจริญ” กับการทำศัลยกรรมผ่าตัดเปลี่ยนหน้าที่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของนักร้องลูกทุ่งชื่อดังรายนี้
งานนี้เนื่องจากคุณลุงสุรชัยมีแพลนออกอัลบั้มชุดใหม่“ใจพี่ยังหนุ่ม” ที่ไม่อยากให้แค่ใจหนุ่มเท่านั้น แต่อยากให้หน้าตาหนุ่มขึ้นด้วย จึงไปทำศัลยกรรม เฟส ออฟ (Face Off) เพื่อให้หน้าตาดูหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว เปลี่ยนจากคุณลุงวัย 60 ให้กลายมาเป็นคุณพี่ที่ดูอ่อนกว่าวัย
อย่างไรก็ดีแม้การผ่าตัดศัลกรรม เฟส ออฟ ของลุงสุรชัยจะจบ แต่ประเด็นนี้ยังไม่จบง่ายๆ เมื่อมีการฟ้องร้องคุณหมอผู้ผ่าตัดใบหน้าว่าเป็นการโฆษณาโรงพยาบาลเกินจริง ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกลายเป็นหนังชีวิตที่ต้องตามดูกันยาวๆต่อไป
สำหรับลุงแอ๊ด-สุรชัย สมบัติเจริญ ทายาทของราชาเพลงลูกทุ่ง“สุรพล สมบัติเจริญ” แม้จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง แต่บทเพลงที่ดังที่สุดของเขากลับไม่ใช่เพลงลูกทุ่งแท้ๆ หากแต่เป็นบทเพลง“ไอ้หนุ่มผมยาว”ที่มีการผสมผสานความหลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งหลังจากฮอตฮิตโด่งดัง ไอ้หนุ่มผมยาวได้กลายมาเป็นเพลงประจำตัวของลุงสุรชัยมาจนถึงทุกวันนี้
บทเพลงไอ้หนุ่มผมยาวอยู่ในอัลบั้ม “ทีเล่นทีจริง” ผลงานการสร้างสรรค์ของ “ดนู ฮันตระกูล” หรือ “อ.ดนู” เป็นหนึ่งในคนดนตรีมากฝีมือ กับผลงานอัลบั้มที่มีความแตกต่างจากผลงานเพลงอื่นๆของ อ.ดนู อยู่พอสมควร เพราะก่อนหน้านั้น อ.ดนู มักจะทำดนตรีในประเภทเพลงคลาสสิก เพลงกวี เพลงนิทาน หรือเพลงบรรเลงหวานเย็น(อ.ดนูว่าไว้อย่างนั้น) แต่ในชุดทีเล่นทีจริง อ.ดนู ทำเพลงออกมาในลีลาที่เจือความเป็นป็อบ มีความร่วมสมัย ฟังง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ทิ้งลายเซ็นในแบบของ อ.ดนู
โดยในปกของอัลบั้มชุดทีเล่นทีจริง อ.ดนู ได้เขียนอธิบายความคิดของเขาเอาไว้ว่า “หัสดนตรี ดนตรีเพื่อความหรรษา เจตนาเป็นเช่นนั้นก็เพื่อจะแก้ข้อครหาที่ว่าผมแต่งเพลงไม่เป็น เป็นเขียนแต่ประเภทเพลงกวี เพลงนิทาน ไม่ก็เพลงบรรเลงหวานเย็น ซึ่งล้วนน่าเบื่อทั้งสิ้น ฟังแล้วไม่บังเกิดความหฤหรรษ์ตรงไหนเลย เอาละ ปีนี้ผมมีเพลงใหม่ให้ฟังกัน ทว่า 10 เพลงที่เสนอในงานชุดนี้มีหลากหลายลีลาอยู่ ขอให้ท่านเตรียมรับมือให้ทันก็แล้วกัน”
อัลบั้มทีเล่นทีจริง ออกมาในปี พ.ศ. 2537 ที่เป็นยุคเปลี่ยนผ่านในการฟังเพลงของบ้านเรา จากยุคเทปคลาสเซ็ท เข้าสู่ยุคแผ่นซีดี งานนี้จึงมีออกมาทั้งในแบบเทปและแบบซีดี ซึ่งในส่วนของเทปคลาสเซ็ทชุดทีเล่นทีจริงนั้นวันนี้ได้กลายเป็นของสะสมไปแล้ว
อัลบั้มชุดนี้ มีทีมงานดนตรีหลักๆที่เล่นแบ๊กอัพให้ 2 วงด้วยกัน คือ “วงไหมไทย” กับ “วงมิตรสัมพันธ์” และมีบทเพลงทั้งหมด 10 เพลง สำหรับบทเพลงเด่นๆในอัลบั้มนี้ไล่เรียงไปก็มี
“คนกันเอง”(ขับร้องโดย : คอรัส/วงมิตรสัมพันธ์) เป็นเพลงจังหวะสนุกๆ กับการขับร้องในแบบคอรัส ผสานเสียง สำเนียงพื้นบ้าน หากฟังผ่านๆจะฟังเพลินหู แต่หากฟังให้ลึกลงในรายละเอียด นี่เป็นเพลงที่มีความ“ตลกร้าย” เสียดสีผู้ปกครองบ้านเมืองในยุคนั้นได้อย่างแสบสันต์ ดังตัวอย่างบางส่วนที่ร้องว่า “...เมืองไทยแสนดี มีป่ามีเขา เมืองไทยของเราพวกเอาไปขาย...”
“วสันต์สวาทคดี” (ขับร้องโดย : ทวีพร เต็งประทีป/วงมิตรสัมพันธ์) อีกหนึ่งบทเพลงที่งดงามดังภาษากวี ขึ้นต้นมาในแบบบัลลาดช้าๆ ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์เข้าสู่โหมดของความคึกคักกับดนตรีสนุกๆในกลิ่นอายย้อนยุค แต่ว่าเนื้อหากลับฟังเศร้าโศกของหนุ่มผู้ผิดหวังในความรัก
“บีกินบอกรัก”(ขับร้องโดย ทวีพร เต็งประทีป/วงไหมไทย) เป็นเพลงสนุกๆติดกลิ่นอายย้อนยุค มีเสียงแซ็กโซโฟนเล่นนำเป็นพระเอก ฟังให้อารมณ์ต่อเนื่องกับเพลงที่แล้ว รูปแบบการร้องโดดเด่นด้วย เสียงนักร้องนำชาย-หญิง ที่สลับกันร้อง แล้วมีเสียงคอรัสเพราะๆร้องตาม น่าฟังทีเดียว
“ดอกราตรี”(ขับร้องโดย : สุภัทรา อินทรภักดี/วงไหมไทย) ลดดีกรีความสนุกคึกคักลงมานิด กับเสียงร้องใสๆของ สุภัทรา อินทรภักดี(โกราษฎร์) หรือ “สุภัทรา ไหมไทย” ที่แม้เธออาจจะไม่โด่งดังในตลาดเพลงไทยพิมพ์นิยมกระแสหลัก แต่คุณสุภัทราเธอเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงคุณภาพของบ้านเรา
เพลงนี้ฟังเพลิดเพลินไปกับลีลาการร้องอันไพเราะ ใสเย็น กับเนื้อหาว่าด้วยผู้หญิงที่ดูสวย สง่า ดูสูงส่งเป็นผู้หญิงในอุดมคติ แต่อันที่จริงแล้วเธอก็มีจริตจะก้านในแบบผู้หญิง บอกกับหนุ่มที่มาเลียบๆเคียงๆว่าถ้าจะมาจีบก็ให้กล้าๆหน่อย โดยมีดอกราตรีเป็นตัวผูกเรื่อง ฟังน่ารักมาก
“โอ้แม่มารตี” (ขับร้องโดย อนุชา ปาทาน/วงไหมไทย) เป็นอีกหนึ่งเพลงเด่นของอัลบั้ม มาในสำเนียงดนตรีภาระ ขับร้องโดยคุณอนุชา นักร้องนำวงแฮมเมอร์ ซึ่งเลือกนักร้องได้เหมาะกับเพลงมาก เนื้อหาฟังได้อารมณ์หนังอินเดีย ที่ ชายหนุ่ม หญิงสาว พวกบอกรักกันแล้วก็ร้องเพลง วิ่งขึ้นเขา ข้ามเขา หรือไม่ก็ไปแอบตามต้นไม้ อันเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของหนังอินเดียในยุคสมัยหนึ่ง
“ไอ้หนุ่มผมยาว” (ขับร้องโดย : สุรชัย สมบัติเจริญ/วงมิตรสัมพันธ์) เพลงเอกที่ดังและโดดเด้นที่สุดของอัลบั้ม ซึ่งที่ไม่เพียงสร้างชื่อให้อัลบั้มชุดนี้ หากแต่สร้างชื่อให้ อ.ดนู และ สุรชัย สมบัติเจริญ ด้วย
เพลงนี้ดังมากในยุคนั้น ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง โดยเฉพาะในวงเหล้านี้ พอเหล้าเข้าปากเป็นต้องร้องเพลงนี้กัน ไม่ต่างจากเหล่าเพลงดังของวงคาราบาว
ไอ้หนุ่มผมยาว มาในแนวสามช่ากลิ่นอายลูกทุ่ง แต่ก็เจือไว้ด้วยสรรพสำเนียงของความเป็นดนตรีคลาสสิกจากวงดนตรีที่เล่นแบ๊กอัพ และท่วงทำนองที่มีความเป็นป็อบฟังติดหูง่าย เรียกผสมผสานความแตกต่างเข้ากันไว้ได้อย่างลงตัว
ขณะที่เนื้อเพลงนี้ มีสัมผัสในในแบบกลอนแปดสละสลวย และมีความแตกต่างไปจากเพลงอื่นๆของ อ.ดนู เพราะฟังง่าย ติดหูง่าย เข้าใจง่าย ว่าด้วยไอ้หนุ่มช้ำรักที่ถูกสาวทิ้งไปหาไอ้หนุ่มผมยาว ซึ่งก็ไม่รู้ว่า อ.ดนู แต่งเพลงนี้ให้ใคร เพราะแกก็เป็นคนไว้ผมยาวเหมือนกัน
นอกจากนี้บทเพลงที่เหลือก็ยังมี “คู่ลีลาคู่ขวัญ” และ “หาเดือน” 2 บทเพลงสบายๆฟังเพลิน, “เพลงไตเติ้ล” เพลงบรรเลงจังหวะสนุกๆโจ๊ะๆ และ “Remembrance” มีเสียงเปียโนเล่นนำ ฝีมือของอีกหนึ่งยอดคนดนตรีของบ้านเรา คือ “สินนภา สารสาส” อดีตสมาชิกวงบัตเตอร์ฟลาย โดยมีวงไหมไทยเล่นแบ๊กอัพ กับบทเพลงบรรเลงเพราะๆส่งท้ายอัลบั้มทีเล่นทีจริง อีกหนึ่งผลงานเพลงไทยที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง
ทีเล่นทีจริงเป็นการผสมความเป็นไทยและความเป็นตะวันออก เข้ากับความเป็นตะวันตกของดนตรีคลาสสิกแล้วสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างลงตัวน่าฟัง ผ่านท่วงทำนองที่เจือสำเนียงป็อบในเมโลดี้แบบไทยๆที่ฟังติดหูง่าย
ขณะที่ด้านของเนื้อเพลงต่างๆนั้นก็ใช้ภาษาอันงดงาม หลายเพลงงดงามไปด้วยภาษากวี ขณะที่บางเพลง อย่างเช่น ไอ้หนุ่มผมยาวนั้นก็เป็นการใช้ภาษาที่เรียบง่าย ชัดเจน แต่ก็มีความสละสลวยของสัมผัสในกลอนแปดอยู่ให้ฟังกันอย่างระรื่นหู ซึ่งถือว่านี่เป็นอัลบั้มที่ฟังง่ายกว่าผลงานทั่วๆไปของ อ.ดนู อีกทั้งยังเป็นดังอัลบั้มที่เหมาะสำหรับคนที่จะเริ่มฟังเพลงคลาสสิก หรือคนที่ชอบฟังเพลงคลาสสิกแบบสบายๆฟังไม่ยาก
นับได้ว่าอัลบั้มชุดนี้ที่แม้ชื่ออัลบั้มจะใช้ว่า“ทีเล่นทีจริง” แต่นี่ถือเป็นหนึ่งในอัลบั้ม“ของจริง”ของวงการเพลงบ้านเรา รวมถึงเป็นอัลบั้มที่สร้างตำนานไอ้หนุ่มผมยาวขึ้นมา ทำให้สุรชัย สมบัติเจริญ ข้ามฟากจากฝั่งลูกทุ่งมามีชื่อเสียงทางฝั่งเพลงไทยสากล อีกทั้งยังทำให้เพลงไอ้หนุ่มผมยาวกลายเป็นเพลงเอกประจำของของเขาไปโดยปริยาย
มาวันนี้แม้คุณลุงสุรชัย จะไปผ่าตัดศัลยกรรมเฟส ออฟ ให้หน้าดูอ่อนกว่าวัยขึ้น เป็นคุณลุงหน้าอ่อน แต่กระนั้นก็ยังมีหลายๆคน ยังคงคุ้นกับความเป็นไอ้หนุ่มผมยาวของสุรชัย สมบัติเจริญ จากบทเพลง“ไอ้หนุ่มผมยาว”ของอัลบั้ม “ทีเล่นทีจริง” อยู่ไม่สร่างซา
เงียบหายไปนาน แต่จู่ๆก็กลายเป็นข่าวโด่งดังฮือฮาขึ้นมา สำหรับ“สุรชัย สมบัติเจริญ” กับการทำศัลยกรรมผ่าตัดเปลี่ยนหน้าที่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของนักร้องลูกทุ่งชื่อดังรายนี้
งานนี้เนื่องจากคุณลุงสุรชัยมีแพลนออกอัลบั้มชุดใหม่“ใจพี่ยังหนุ่ม” ที่ไม่อยากให้แค่ใจหนุ่มเท่านั้น แต่อยากให้หน้าตาหนุ่มขึ้นด้วย จึงไปทำศัลยกรรม เฟส ออฟ (Face Off) เพื่อให้หน้าตาดูหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว เปลี่ยนจากคุณลุงวัย 60 ให้กลายมาเป็นคุณพี่ที่ดูอ่อนกว่าวัย
อย่างไรก็ดีแม้การผ่าตัดศัลกรรม เฟส ออฟ ของลุงสุรชัยจะจบ แต่ประเด็นนี้ยังไม่จบง่ายๆ เมื่อมีการฟ้องร้องคุณหมอผู้ผ่าตัดใบหน้าว่าเป็นการโฆษณาโรงพยาบาลเกินจริง ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกลายเป็นหนังชีวิตที่ต้องตามดูกันยาวๆต่อไป
สำหรับลุงแอ๊ด-สุรชัย สมบัติเจริญ ทายาทของราชาเพลงลูกทุ่ง“สุรพล สมบัติเจริญ” แม้จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง แต่บทเพลงที่ดังที่สุดของเขากลับไม่ใช่เพลงลูกทุ่งแท้ๆ หากแต่เป็นบทเพลง“ไอ้หนุ่มผมยาว”ที่มีการผสมผสานความหลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งหลังจากฮอตฮิตโด่งดัง ไอ้หนุ่มผมยาวได้กลายมาเป็นเพลงประจำตัวของลุงสุรชัยมาจนถึงทุกวันนี้
บทเพลงไอ้หนุ่มผมยาวอยู่ในอัลบั้ม “ทีเล่นทีจริง” ผลงานการสร้างสรรค์ของ “ดนู ฮันตระกูล” หรือ “อ.ดนู” เป็นหนึ่งในคนดนตรีมากฝีมือ กับผลงานอัลบั้มที่มีความแตกต่างจากผลงานเพลงอื่นๆของ อ.ดนู อยู่พอสมควร เพราะก่อนหน้านั้น อ.ดนู มักจะทำดนตรีในประเภทเพลงคลาสสิก เพลงกวี เพลงนิทาน หรือเพลงบรรเลงหวานเย็น(อ.ดนูว่าไว้อย่างนั้น) แต่ในชุดทีเล่นทีจริง อ.ดนู ทำเพลงออกมาในลีลาที่เจือความเป็นป็อบ มีความร่วมสมัย ฟังง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ทิ้งลายเซ็นในแบบของ อ.ดนู
โดยในปกของอัลบั้มชุดทีเล่นทีจริง อ.ดนู ได้เขียนอธิบายความคิดของเขาเอาไว้ว่า “หัสดนตรี ดนตรีเพื่อความหรรษา เจตนาเป็นเช่นนั้นก็เพื่อจะแก้ข้อครหาที่ว่าผมแต่งเพลงไม่เป็น เป็นเขียนแต่ประเภทเพลงกวี เพลงนิทาน ไม่ก็เพลงบรรเลงหวานเย็น ซึ่งล้วนน่าเบื่อทั้งสิ้น ฟังแล้วไม่บังเกิดความหฤหรรษ์ตรงไหนเลย เอาละ ปีนี้ผมมีเพลงใหม่ให้ฟังกัน ทว่า 10 เพลงที่เสนอในงานชุดนี้มีหลากหลายลีลาอยู่ ขอให้ท่านเตรียมรับมือให้ทันก็แล้วกัน”
อัลบั้มทีเล่นทีจริง ออกมาในปี พ.ศ. 2537 ที่เป็นยุคเปลี่ยนผ่านในการฟังเพลงของบ้านเรา จากยุคเทปคลาสเซ็ท เข้าสู่ยุคแผ่นซีดี งานนี้จึงมีออกมาทั้งในแบบเทปและแบบซีดี ซึ่งในส่วนของเทปคลาสเซ็ทชุดทีเล่นทีจริงนั้นวันนี้ได้กลายเป็นของสะสมไปแล้ว
อัลบั้มชุดนี้ มีทีมงานดนตรีหลักๆที่เล่นแบ๊กอัพให้ 2 วงด้วยกัน คือ “วงไหมไทย” กับ “วงมิตรสัมพันธ์” และมีบทเพลงทั้งหมด 10 เพลง สำหรับบทเพลงเด่นๆในอัลบั้มนี้ไล่เรียงไปก็มี
“คนกันเอง”(ขับร้องโดย : คอรัส/วงมิตรสัมพันธ์) เป็นเพลงจังหวะสนุกๆ กับการขับร้องในแบบคอรัส ผสานเสียง สำเนียงพื้นบ้าน หากฟังผ่านๆจะฟังเพลินหู แต่หากฟังให้ลึกลงในรายละเอียด นี่เป็นเพลงที่มีความ“ตลกร้าย” เสียดสีผู้ปกครองบ้านเมืองในยุคนั้นได้อย่างแสบสันต์ ดังตัวอย่างบางส่วนที่ร้องว่า “...เมืองไทยแสนดี มีป่ามีเขา เมืองไทยของเราพวกเอาไปขาย...”
“วสันต์สวาทคดี” (ขับร้องโดย : ทวีพร เต็งประทีป/วงมิตรสัมพันธ์) อีกหนึ่งบทเพลงที่งดงามดังภาษากวี ขึ้นต้นมาในแบบบัลลาดช้าๆ ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์เข้าสู่โหมดของความคึกคักกับดนตรีสนุกๆในกลิ่นอายย้อนยุค แต่ว่าเนื้อหากลับฟังเศร้าโศกของหนุ่มผู้ผิดหวังในความรัก
“บีกินบอกรัก”(ขับร้องโดย ทวีพร เต็งประทีป/วงไหมไทย) เป็นเพลงสนุกๆติดกลิ่นอายย้อนยุค มีเสียงแซ็กโซโฟนเล่นนำเป็นพระเอก ฟังให้อารมณ์ต่อเนื่องกับเพลงที่แล้ว รูปแบบการร้องโดดเด่นด้วย เสียงนักร้องนำชาย-หญิง ที่สลับกันร้อง แล้วมีเสียงคอรัสเพราะๆร้องตาม น่าฟังทีเดียว
“ดอกราตรี”(ขับร้องโดย : สุภัทรา อินทรภักดี/วงไหมไทย) ลดดีกรีความสนุกคึกคักลงมานิด กับเสียงร้องใสๆของ สุภัทรา อินทรภักดี(โกราษฎร์) หรือ “สุภัทรา ไหมไทย” ที่แม้เธออาจจะไม่โด่งดังในตลาดเพลงไทยพิมพ์นิยมกระแสหลัก แต่คุณสุภัทราเธอเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงคุณภาพของบ้านเรา
เพลงนี้ฟังเพลิดเพลินไปกับลีลาการร้องอันไพเราะ ใสเย็น กับเนื้อหาว่าด้วยผู้หญิงที่ดูสวย สง่า ดูสูงส่งเป็นผู้หญิงในอุดมคติ แต่อันที่จริงแล้วเธอก็มีจริตจะก้านในแบบผู้หญิง บอกกับหนุ่มที่มาเลียบๆเคียงๆว่าถ้าจะมาจีบก็ให้กล้าๆหน่อย โดยมีดอกราตรีเป็นตัวผูกเรื่อง ฟังน่ารักมาก
“โอ้แม่มารตี” (ขับร้องโดย อนุชา ปาทาน/วงไหมไทย) เป็นอีกหนึ่งเพลงเด่นของอัลบั้ม มาในสำเนียงดนตรีภาระ ขับร้องโดยคุณอนุชา นักร้องนำวงแฮมเมอร์ ซึ่งเลือกนักร้องได้เหมาะกับเพลงมาก เนื้อหาฟังได้อารมณ์หนังอินเดีย ที่ ชายหนุ่ม หญิงสาว พวกบอกรักกันแล้วก็ร้องเพลง วิ่งขึ้นเขา ข้ามเขา หรือไม่ก็ไปแอบตามต้นไม้ อันเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของหนังอินเดียในยุคสมัยหนึ่ง
“ไอ้หนุ่มผมยาว” (ขับร้องโดย : สุรชัย สมบัติเจริญ/วงมิตรสัมพันธ์) เพลงเอกที่ดังและโดดเด้นที่สุดของอัลบั้ม ซึ่งที่ไม่เพียงสร้างชื่อให้อัลบั้มชุดนี้ หากแต่สร้างชื่อให้ อ.ดนู และ สุรชัย สมบัติเจริญ ด้วย
เพลงนี้ดังมากในยุคนั้น ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง โดยเฉพาะในวงเหล้านี้ พอเหล้าเข้าปากเป็นต้องร้องเพลงนี้กัน ไม่ต่างจากเหล่าเพลงดังของวงคาราบาว
ไอ้หนุ่มผมยาว มาในแนวสามช่ากลิ่นอายลูกทุ่ง แต่ก็เจือไว้ด้วยสรรพสำเนียงของความเป็นดนตรีคลาสสิกจากวงดนตรีที่เล่นแบ๊กอัพ และท่วงทำนองที่มีความเป็นป็อบฟังติดหูง่าย เรียกผสมผสานความแตกต่างเข้ากันไว้ได้อย่างลงตัว
ขณะที่เนื้อเพลงนี้ มีสัมผัสในในแบบกลอนแปดสละสลวย และมีความแตกต่างไปจากเพลงอื่นๆของ อ.ดนู เพราะฟังง่าย ติดหูง่าย เข้าใจง่าย ว่าด้วยไอ้หนุ่มช้ำรักที่ถูกสาวทิ้งไปหาไอ้หนุ่มผมยาว ซึ่งก็ไม่รู้ว่า อ.ดนู แต่งเพลงนี้ให้ใคร เพราะแกก็เป็นคนไว้ผมยาวเหมือนกัน
นอกจากนี้บทเพลงที่เหลือก็ยังมี “คู่ลีลาคู่ขวัญ” และ “หาเดือน” 2 บทเพลงสบายๆฟังเพลิน, “เพลงไตเติ้ล” เพลงบรรเลงจังหวะสนุกๆโจ๊ะๆ และ “Remembrance” มีเสียงเปียโนเล่นนำ ฝีมือของอีกหนึ่งยอดคนดนตรีของบ้านเรา คือ “สินนภา สารสาส” อดีตสมาชิกวงบัตเตอร์ฟลาย โดยมีวงไหมไทยเล่นแบ๊กอัพ กับบทเพลงบรรเลงเพราะๆส่งท้ายอัลบั้มทีเล่นทีจริง อีกหนึ่งผลงานเพลงไทยที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง
ทีเล่นทีจริงเป็นการผสมความเป็นไทยและความเป็นตะวันออก เข้ากับความเป็นตะวันตกของดนตรีคลาสสิกแล้วสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างลงตัวน่าฟัง ผ่านท่วงทำนองที่เจือสำเนียงป็อบในเมโลดี้แบบไทยๆที่ฟังติดหูง่าย
ขณะที่ด้านของเนื้อเพลงต่างๆนั้นก็ใช้ภาษาอันงดงาม หลายเพลงงดงามไปด้วยภาษากวี ขณะที่บางเพลง อย่างเช่น ไอ้หนุ่มผมยาวนั้นก็เป็นการใช้ภาษาที่เรียบง่าย ชัดเจน แต่ก็มีความสละสลวยของสัมผัสในกลอนแปดอยู่ให้ฟังกันอย่างระรื่นหู ซึ่งถือว่านี่เป็นอัลบั้มที่ฟังง่ายกว่าผลงานทั่วๆไปของ อ.ดนู อีกทั้งยังเป็นดังอัลบั้มที่เหมาะสำหรับคนที่จะเริ่มฟังเพลงคลาสสิก หรือคนที่ชอบฟังเพลงคลาสสิกแบบสบายๆฟังไม่ยาก
นับได้ว่าอัลบั้มชุดนี้ที่แม้ชื่ออัลบั้มจะใช้ว่า“ทีเล่นทีจริง” แต่นี่ถือเป็นหนึ่งในอัลบั้ม“ของจริง”ของวงการเพลงบ้านเรา รวมถึงเป็นอัลบั้มที่สร้างตำนานไอ้หนุ่มผมยาวขึ้นมา ทำให้สุรชัย สมบัติเจริญ ข้ามฟากจากฝั่งลูกทุ่งมามีชื่อเสียงทางฝั่งเพลงไทยสากล อีกทั้งยังทำให้เพลงไอ้หนุ่มผมยาวกลายเป็นเพลงเอกประจำของของเขาไปโดยปริยาย
มาวันนี้แม้คุณลุงสุรชัย จะไปผ่าตัดศัลยกรรมเฟส ออฟ ให้หน้าดูอ่อนกว่าวัยขึ้น เป็นคุณลุงหน้าอ่อน แต่กระนั้นก็ยังมีหลายๆคน ยังคงคุ้นกับความเป็นไอ้หนุ่มผมยาวของสุรชัย สมบัติเจริญ จากบทเพลง“ไอ้หนุ่มผมยาว”ของอัลบั้ม “ทีเล่นทีจริง” อยู่ไม่สร่างซา