จากหนังที่ลงทุนเพียง 58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นหนังฮีโร่ในกลุ่มของมาร์เวลซึ่งลงทุนต่ำสุด แต่รายได้ ณ ตอนนี้ กลับกลายเป็นปรากฏการณ์ไปแล้วเรียบร้อย เอาเฉพาะแค่ที่บ้านเรา ก็น่าจะว่ากันยาวๆ ไประดับร้อยกว่าล้าน ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาแล้วสำหรับฮีโร่ที่เพิ่งเปิดตัวบนจอเงินและหลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก หรืออย่างที่อเมริกาบ้านเกิดเมืองนอนของเกรียนเด๊ดพูล ก็ทำรายได้ในสัปดาห์เปิดตัวแบบทิ้งเรื่องอื่นชนิดแทบไม่เห็นฝุ่น รวมๆ แล้ว ถือว่าทำได้รายได้ถล่มทลายทั่วโลก และสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นหนังเรทอาร์ (R) ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดตลอดกาลไปแล้วเรียบร้อย
ครับ, ถึงนาทีนี้ เชื่อว่าหลายคนที่เป็นขาหนังโรง ก็คงจะได้สัมผัสกับความสนุกสุดเกรียนและฮาสุดติ่งของเด๊ดพูลกันไปแล้ว และเชื่อว่าน้อยท่านนักที่จักไม่ขำไปกับหนัง เว้ากันอย่างซื่อๆ นับตั้งแต่ Kick-Ass เป็นต้นมา (เอาเฉพาะภาคหนึ่งนะครับ ลืมๆ ภาคสองไปก็ดี) จนถึง เดอะ การ์เดี้ยนส์ ออฟ เดอะ กาแล็กซี่ ที่ออกไปทางเกรียนๆ เหมียนนน...กัลลล...เด๊ดพูลนี่คือฮีโร่สายเกรียนอีกตัวที่ทำออกมาได้ลงตัวมาก โดยเฉพาะในแง่ความบันเทิง
ผมขออนุญาตข้ามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวในหนังไป เพราะเชื่อว่าเล่าไป ก็ไม่มันเท่ากับไปดูเอง แต่จะพูดในเชิงบริบทของหนังที่เห็นว่าน่าสนใจ คือนอกจากเรื่องรายได้ที่กลายเป็นสถิติใหม่ในจักรวาลของมาร์เวล ซึ่งขึ้นแท่นเป็นหนังฮีโร่เปิดตัวสูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับที่สองรองจาก ดิ อะเวนเจอร์ส ภาคหนึ่ง .... เด๊ดพูล ยังนับเป็นการเปิดตัวที่ดีงามสำหรับผู้กำกับอย่าง “ทิม มิลเลอร์” คนคนนี้เคยทำหนังอะนิเมชั่นสั้นๆ มาก่อน และดูจะมีเครดิตมากในด้านการทำงานวิช่วลเอฟเฟคต์ แต่นับจากนี้แล้ว ชื่อของเขาน่าจะเป็นที่จดจำของสตูดิโอใหญ่ๆ ไปเป็นที่เรียบร้อย เช่นเดียวกับคู่หูนักเขียนบท “เร็ทท์ รีส” กับ “พอล เวอร์นิคส์” ที่น่าจะงานเข้ามากขึ้น เขาสองคนนี้ จะนับว่าเป็นดูโอคอมิดี้ก็ว่าได้ เพราะบทหนังบทละครทีวีหรือรายการเรียลิตี้อะไรต่างๆ ที่พวกเขาเคยเขียนมา ก็ดูจะหนักข้อไปทางตลกซะเป็นส่วนใหญ่ แน่นอน ถ้าคุณๆ ยังจำกันได้ หนังซอมบี้โคตรเกรียน เพี้ยน และฮา อย่างเรื่อง “ซอมบี้แลนด์” (Zombieland, 2009) ก็เป็นผลงานการเขียนบทของเขาทั้งสอง สนุกหรือไม่สนุก ก็พอจะยืนยันได้ด้วยข้อมูลที่ว่า ซอมบี้แลนด์ก็ได้รับการต่อยอดไปเป็นหนังฉายทางทีวีเมื่อปี 2013 และกล่าวสำหรับ “เด๊ดพูล” พวกเขาก็ได้ใช้ศักยภาพความฮา บวกความบ้าและเกรียนออกมาแบบเต็มแม็กซ์ คือพูดจริงๆ มันมีหนังไม่กี่เรื่องหรอกครับที่จะประเคนความตลกให้กับคนดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบ (เกือบสองชั่วโมง) ขนาดนี้
แน่นอนว่า ถึงนาทีนี้ แฟนหนังทุกท่านก็คงจะทราบกันแล้วนะครับว่า เด๊ดพูลจะมีภาคสองตามมาแน่นอน และพอพูดถึงภาคสอง ผมล่ะขอพูดถึงท้ายเอ็นด์เครดิตสักหน่อยครับ เด๊ดพูลนี่ล้มล้าง “ติ่งปลายท้ายเรื่อง” ของมาร์เวลแบบเดิมๆ ไปซะเหี้ยน เพราะความเกรียนของแก คือที่ผ่านมา เรามักจะเห็น “ภาพปริศนา” โผล่มาช่วงท้ายเครดิต เป็นปริศนาที่พาให้คิดและถกเถียงกันไปต่างๆ นานา คาดเดาว่าภาคหน้าจะเป็นงั้นเป็นงี้ แต่สำหรับเด๊ดพูล นอกจากฉากท้ายเอ็นด์เครดิต ไม่สั้นจุ๊ดจู๋ แถมยังประกาศออกชัดเจนว่าจะมีอะไรยังไงต่อใน(ภาย)ภาคหน้า แบบว่า พวกสปอยล์ให้หมด คือถ้าไม่เกรียนจริงๆ ทำอย่างนั้นก็คงไม่งาม เหมือนกับที่เด๊ดพูลทำ และสรุปก็คือ เป็นฉากหลังจากจบเครดิตที่ดูแล้วคุ้มค่าเวลารอคอยนานหลายนาที รู้สึกแตกต่างจากหนังที่ผ่านๆ มาของมาร์เวลที่รอไปห้านาทีสิบนาที แต่ท้ายเครดิตมีอยู่กะจึ๊งเดียว และเป็นกะจึ๊งเดียวที่เหนี่ยวนำแต่ปริศนาลึกลับ ให้งงเล่น...กระนั้นก็ตาม ถ้าอะไรๆ ไม่เป็นไปตามที่เด๊ดพูลบอกไว้ตอนท้ายเรื่อง ก็จะไปหาเรื่องแกไม่ได้หรอกครับ เพราะแหม...แกเกรียนซะขนาดนั้น แกอาจจะกวนหลอกเราเล่นก็เป็นได้ ใครจะรู้ จริงไหม?
ล่าสุด ผมได้คุยกับพี่ที่นับถือท่านหนึ่ง เขาว่าเรื่องของเด๊ดพูลนี่ ยังสามารถทำต่อไปได้อีกเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามองจากมุมว่า ภาคหนึ่งนี้ ภาพใหญ่ของมันยังดูเป็นหนังตลก แม้จะมีความรักเป็นตัวผลักเรื่อง เช่นเดียวกับฉากการต่อสู้ แต่เอาเข้าจริง ภาพจำหลักๆ ของเราเมื่อกล่าวถึงเด๊ดพูล ก็คือมันเป็นหนังตลกที่ดีมากๆ เรื่องหนึ่ง ดังนั้นแล้ว ในเชิงของความซีเรียสหรือจริงจัง หนังยังสามารถเล่นได้อีกเยอะในภาคต่อๆ ไป เช่นเดียวกับการต่อสู้ (ที่ไม่แน่ว่า ภาคหน้าอาจได้ทุนเพิ่ม ทำฉากแอ็กชั่นใหญ่ๆ เพิ่มขึ้น เป็นหนังฟอร์มใหญ่กว่านี้ไปเลย) ลองจับเปรียบเทียบเคียงกับหนังเกรียนใกล้ๆ กันและได้เรทอาร์เหมือนกันอย่าง Kick-Ass ภาคหนึ่ง เราจะพบว่า คิ๊กแอ๊สนั้น ใช้พลังงานไปเต็มสูบเกือบทุกด้านในภาคแรก ทั้งความเกรียน ดราม่า กระทั่งแอ็กชั่น พอภาคสอง เราจึงได้เห็นกันว่า พลังของ “เกรียนโคตรมหาประลัย” นั้นร่อยหรอลงไปมาก จนเกือบจะกล่าวได้ว่าเป็นหนังคนละสายพันธุ์ อย่างไรก็ตาม สำหรับเด๊ดพูล ยังมีอะไรให้ “เน้น” หลังจากที่ “เล่น” ค่อนข้างเยอะในภาคนี้ พูดง่ายๆ คือ “จักรวาล” ของเด๊ดพูล ยังเปิดกว้างอยู่ ไหนจะการไปรวมตัวรวมทีมกับเหล่าเอ็กซ์เม็นอีกล่ะ นั่นก็ได้หนึ่งภาคแน่นๆ แล้ว
ใกล้จบบทความ เกือบลืมไฮไลต์ตัวหลักไปเลย นั่นก็คือ “ไรอัน เรย์โนลด์” ซึ่งก็อย่างที่บอกครับว่า เด๊ดพูลนั้นส่องแสงให้กับทุกๆ คน รวมถึงนักแสดงอย่างไรอันที่รับบทเป็นเด๊ดพูล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาเคยรับบทฮีโร่มาแล้วจากเรื่อง กรีน แลนเธิร์น (Green Lantern) ซึ่งดูเหมือนเคมีแบบฮีโร่ซีเรียสจะไม่ค่อยตรงกับเขาเท่าไหร่ อีกทั้งองค์ประกอบอื่นๆ อย่างตัวเรื่องหรือคาแร็กเตอร์อะไรๆ ก็ชวนให้ดูแล้วลืม ชนิดที่แม้แต่ไรอันในเด๊ดพูลยัง “แหยง” และ “อำ” ฮีโร่บทเก่านั้น แต่นับจากจากวันนี้ไป ไรอันจะสร้างภาพจำใหม่ที่แจ่มแจ๋วได้แล้วจากบทฮีโร่เกรียนๆ บทนี้
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม