xs
xsm
sm
md
lg

จบกัน! จิ้นพังพินาศ “ฌอห์ณ” ยอมรับไม่สนิท “เอสเธอร์” เหมือนเดิม เหตุผลพูดไม่ได้!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ฌอห์ณ” ปลอบ “ยิปซี” วันที่ “เจษ” เลิก โต้เลือกข้างแค่เพื่อนต้องไม่ทิ้งกัน ยอมรับไม่สนิท “เอสเธอร์” เหมือนเดิม ไม่ฟันธงแม่ฝ่ายหญิงมีเอี่ยว บอกเหตุผลพูดไม่ได้ ไม่ยุ่งเกี่ยว “ยิปซี - เอสเธอร์” ปิดประตูเคลียร์ใจ ไร้อิจฉา “ดีเจพุฒ” ดังกว่า ชี้ยิ่งอิจฉาชีวิตยิ่งตกต่ำ

เคลียร์ชัด ๆ ตรงประเด็นสมเป็น “ฌอห์ณ จินดาโชติ” หลังจากเจอข้อหาหนักเป็นมือที่สามแทรกกลางความสัมพันธ์คู่รัก “ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์” และ “เจษ เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์” โดย หนุ่มฌอห์ณ เผยว่า อีกฝ่ายเป็นเพื่อนสนิท ยืนยันไม่เลือกข้าง

“สำหรับยิปซี ก็คือ เขากับผมสนิทกันตั้งแต่ตอนที่เล่นละครเรื่องเล่ห์รตี บวกกับวัยใกล้เคียงกัน และที่สำคัญเรารู้จักกันมาเกือบ 6 ปีแล้วด้วย พ่อแม่ยิปกับพ่อแม่ฌอห์ณไม่ได้รู้จักกันนะครับ เหมือนกับว่าฌอห์ณรู้จักพ่อแม่เขา แม่ฌอห์ณก็รู้จักยิป เพราะว่าวันเกิดฌอห์ณหรือเวลาเลี้ยงปาร์ตี้สังสรรค์ยิปก็มา เจษก็เคยมา ก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องพ่อแม่รับรู้ว่ามันเป็นกลุ่มก้อนกัน ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียดเลย ไปห้าง เรามาเขามาก็มาเจอกัน ไม่ได้มาจับหน้าจับหัว ไม่ใช่ เราบริสุทธิ์ใจ แล้วเขาก็แมน ๆ ใส่ผม ไปเที่ยวกันอยู่ดี ๆ จะไม่ให้ลงรูปเขาเลยมันก็น่าเกลียด เพราะเราลงรูปทุกคน แต่คนดันมาโฟกัสอันนี้ คนถามทำไมรูปเหมือนกัน ก็เอามาจากกล้องเดียวกัน ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมัน”

“เรื่องโดนโยงนี่คิดแล้วว่าวันหนึ่งมันต้องเป็นแบบนี้ เพราะว่าเคยคุยกัน คนเรามันไม่มีอะไรแน่นอน มันก็เป็นคำถามในวงกินข้าวว่า ถ้าวันหนึ่งมันมีอะไรเปลี่ยนไปคนกลางอย่างเราจะทำยังไง เราก็บอกว่าก็คนไหนที่พีคกว่าเราก็ต้องไปประคบเขา แต่ผมเชื่อว่าผู้ชายยังไงมันมีความแข็งแรง เราก็ไม่ได้เลือกข้างว่าคนนี้เจ็บคนนี้ไม่เจ็บ เราดูแลคนเจ็บเราไม่ดูแลเขาไม่ใช่ ใครโทร.มาเราให้ความเป็นเพื่อนหมด แต่เผอิญเราสนิทกับยิปเป็นทุุนเดิมอยู่แล้ว เราก็รู้สึกว่าเฮ้ย…ผู้หญิงอ่ะ วันที่มันไม่โอเคอะเขาต้องกลับไปหาผู้ปกครอง ไม่ก็เพื่อนที่สามารถเล่าได้ แล้วเพื่อนเขาหนึ่งในนั้นก็เป็นผม แล้วผมรู้สึกว่ามันก็เป็นหน้าที่ของเพื่อนอะ”

“ไม่ได้โทรคุยกันทุกวัน ทุกเวลาขนาดนั้น ไม่ไหวอะไรโทร.มา ผมมีอะไรปรึกษาก็โทร. เบื่อทำงานเบื่อมากเลยก็โทร. แ-งไม่ไหวร้อนมากเลย เราก็จะแบบเฮ้ยใจเย็นๆ ก่อนเว้ยทำงานก่อนก็ว่ากันไป เป็นเพื่อนที่ช่วยสนับสนุนด้านการทำงานมากกว่า”

ลั่นไม่ตัดเพื่อนหรือเฟดตัวเพราะถูกจับตามองว่าเป็นคนมาอาสาดามอก แคร์คนนอกเยอะความสุขจะหายไป
“เรื่องเป็นมือที่สามหรือเปล่าคนรอบตัวผมเขารู้ แต่คนนอกเนี่ย เราไม่ได้ไปสัมผัสเขา ซึ่งผมก็แล้วแต่ ห้ามไม่ได้ ห้ามคนคิดไม่ได้จริงๆ ก็หนึ่งเราโสด สองคือภาพในไอจีที่ลงก็คือผลัดกันถ่ายไปมา แต่ถ้าคือดูก่อนหน้านี้มันก็จะมีบุคคลที่สามสี่อยู่ในเฟรม เขาก็ไม่ได้ไปสนใจตรงนั้น มันห้ามไม่ได้ ซึ่งผมรู้สึกว่ายังไงผมก็จะเป็นเพื่อนเขาต่อไป ไม่ใช่จะเอาเหตุผลนี้มาเลิกความเป็นเพื่อน แต่มีแบบเฮ้ย ยิปแ-งคนเริ่มมองเราเยอะแล้ววะ เฟดกันหน่อยดีกว่า”

“อาจจะแค่พูดว่าลงรูปอะไรต้องคิดนิดหนึ่งแล้วละ ก็ปรึกษาเพื่อนๆ ว่ารูปแบบนี้มันลงดีไหม แต่ผมจะไม่เอาเรื่องนี้มาตัดความเป็นเพื่อน มันไม่แฟร์สำหรับผู้หญิง ในเมื่อเขาก็ชัดเจนกับผม นี่เพื่อนฉัน เรียกมึงๆ กูๆ กันด้วยซ้ำ ซึ่งผมรู้สึกว่าแคร์คนภายนอกเยอะความสุขมันก็จะหายไป คนเขาไม่แข็งแรง ช่วงเราแย่เขาก็เป็นเพื่อนที่คอยเตือนสติผม เพราะฉะนั้นเพื่อนจะไม่ทิ้งกันแบบนี้ ผมทำไม่ได้ฉะนั้นผมก็ไม่ได้เครียดมาก เพราะรู้สึกว่าคนภายนอกเปิดไปดูแค่สองรูปก็ตัดสินเลยอันนั้นไม่ถูก แต่ถ้าคุณย้อนไปดู 52 สัปดาห์ที่แล้ว เราก็ถ่ายกันแบบนี้ ผมบริสุทธิ์ใจ แล้วผู้หญิงเขาก็บริสุทธิ์ใจ เขาตอบอะไรผมก็ฟัง เขาชัดเจนในทางของเขา”

โต้ตีซี้ “ยิปซี” หวังจีบ “แป้งโกะ” บอกโตแล้ว จีบใครไม่ต้องใช้คนกลาง
“ผมเป็นผู้ชายครับ ชอบใครจีบเลยไม่ต้องผ่านคนกลาง เราโตๆ กันแล้ว และมันไม่ใช่เรื่องด้วย ถ้าผมชอบ ผมก็จะเข้าไปบอก ถ้าเขาอยากคุยก็คุยกัน ถึงเวลาชัดเจนก็เปิดเผยให้เกียรติอีกฝ่าย ง่ายๆ ครับ ไม่มีขั้นตอนอะไรเยอะแยะ กับแป้งโกะ เราก็เป็นเพื่อนจากแก๊งจุดนัดฝันเหมือนกัน วัยใกล้เคียงกัน ดังนั้นเวลาจะชวนไปเที่ยวหรือไปอะไรมันก็ไม่ได้น่าเกลียด ผู้ใหญ่รับทราบ รวมถึงทุกครั้งที่ไปก็จะมีบุคคลที่สามที่สี่อยู่ด้วยเสมอครับ ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย”

“เรื่องเจ้าชู้ผมว่าความเป็นจริงทุกคนก็น่าจะรู้กันดีนะครับ และผมก็คิดว่าคนไม่น่าจะมองกันไปในทิศทางนั้นด้วย ปล่อยไปตามสบายครับ”

ยอมรับไม่สนิท “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” เหมือนเดิม เหตุผลพูดไม่ได้ ไม่กล้าฟันธงแม่ฝ่ายหญิงมีเอี่ยว
“ก็ไม่ได้สนิทเหมือนเมื่อก่อน เหตุผลบางอย่างมันพูดไม่ได้ ผมอยู่ในความเป็นพี่ในการทำงาน มันคุยกันในพาร์ตหน้าที่ในการทำงาน ไม่มีไลน์นอกเหนือจากนั้น ไม่มีการโทร. ไม่มีอะไร เป็นแบบนี้นานแค่ไหนแล้วก็ไม่ได้นับเวลา มันเป็นการแปรเปลี่ยนไปตลอดเวลา (ที่เราดูเฮิร์ต ๆ อยู่ช่วงหนึ่งหรือเปล่า? ) ผมไม่ (หัวเราะ) ไม่พูดดีกว่า ผมเงียบแล้วกัน(หัวเราะ) คือทุกอย่างมันต้องมีขอบเขต มันไม่ใช่เรื่องของเด็ก มันจะมีเรื่องของรายละเอียดยิบย่อย”

“ส่วนเรื่องที่บอกว่าเป็นเพราะแม่น้องอยากให้ไปสนิทกับดีเจพุฒมากกว่า ผมเคยได้ยินมาพอสมควร ผมก็ไม่กล้าฟังธง แล้วนิสัยผมก็ไม่ใช่ว่าจะอะไร ผมก็แค่บอกได้ว่าผมไม่ได้สนิทกับคุณแม่เขา แต่ยังให้ความเคารพ อย่างดีก็แค่บ๊ายบาย ไม่มีการคุยอะไรนอกเหนือจากนั้น มันเป็นสิทธิ์ของเขาว่าเขาอยากจะให้ลูกอะไร ในทางเดียวกันผมก็ไม่ได้แตะต้องพื้นที่ตรงนั้น ผมรู้สึกว่าเวลาเราทำอะไร เราทำดีให้คนอื่น ถึงแม้อยากรับ แต่ถ้าคนรอบตัวเดือดร้อน ผมทำไม่ได้ นั่นคือสโลแกนของผม”

เผยกลืนไม่เข้าคายไม่ออก บอกใครไม่ได้ ห่างกันเพราะมีปัญหา แต่ให้เกียรติทุกฝ่าย
“มันพูดยากนะครับ มันไม่เหมือนผมกับยิปที่ตอบได้ง่าย ๆ มันมีหลายองค์ประกอบ ประเด็นเรื่องที่พูดไปผมก็ได้ยินมาเยอะ แต่ผมไม่เคยถามแม่เขาตรง ๆ ว่ายังไง เราแค่รู้สึกว่าก็แล้วแต่ คุณแม่ก็เป็นเหมือนเมเนเจอร์ เขามีสิทธิ์ที่จะเลือกรับงาน และเลือกความสัมพันธ์ ผมในการเลี้ยงดูมันคนละแบบ คุณแม่ผมคือดูอยู่ห่างๆ มีอะไรปรึกษากัน แต่ไม่ได้มาตีสโคปอะไรเยอะ ฉะนั้นผมก็เลยให้เกียรติ”

“ที่ทำให้ห่างกันคือเหมือนผมรับรู้ถึงปัญหา รับรู้ว่าอยู่แบบนี้ ทำแบบนี้จะไม่ดีนะ ก็เลยให้เกียรติดีกว่า คือเป็นพาทเนอร์ งานคู่จิ้นก็เป็นส่วนของงาน ในงานเท่านั้น คุณมั่นใจได้เลยว่าหน้าเซ็ตเราจะทำงานกับคุณได้ดี เราหวังดีไม่มีเหตุผลที่จะไปพูดอะไรไม่ดี (เฮิร์ตนานมั้ย?) มันไม่รู้ ก็ทำงานเจอกันอยู่เรื่อยๆ ผมรู้สึกว่า เอ่อ...มันเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำอะไรไม่ได้ พูดกับใครได้ยากและคนภายนอกไม่เข้าใจ คนภายนอกเลือกที่จะเชื่อแบบนั้น เราก็ได้แต่ทำให้ดี สิ่งที่ผมถูกสอนมา สุดท้ายไม่ว่าอะไรเราต้องให้เกียรติ ก็ตอบได้แค่เราให้เกียรติในเรื่องของผู้ร่วมงาน เป็นน้องที่ประสบความสำเร็จด้วยกัน ไม่เคยพูดได้เต็มปากเลยว่าดังเพราะตัวเอง ไม่เคยเลย”

“เจอหน้ากันถามว่าเรารู้สึกอะไรมั้ย เกร็งมั้ย ไม่มีเกร็งครับ มีแต่รู้สึกว่าเขาคือน้อง เวลาเขาลำบาก ถ่ายละครเริ่มงองแงหรืออะไรก็จะถามว่า โอเคมั้ย ไหวมั้ย ไหวไม่ไหวโอเคนะ ในพาร์ตของคนที่เราทำงานกันมาปีหนึ่งเต็มๆ (เหมือนพอเรารู้ตัวเราก็เบรกความรู้สึกตัวเอง จัดการความรู้สึกด้วย แล้วทำทุกอย่างให้เป็นเหมือนเดิม?) คือที่เบรกก็เพราะว่ามันต้องเบรก มันเป็นรีแอ็กชั่น ไม่ใช่ว่าเบรกละ มันไม่ใช่”

โต้น้อยใจดังไม่เท่า “ดีเจพุฒ” บอกไม่รู้เอาอะไรมาวัด ย้ำไร้อิจฉา ยิ่งอิจฉายิ่งทำให้ชีวิตตกต่ำ
“ไม่น้อยใจที่ถูกมองว่าดังไม่เท่าคนอื่น เรื่องของความดังผมไม่เคยเห็นว่าสเกลวัดคืออะไร (คนเทียบพุฒกับณอห์ณ) ผมไปไหนก็เจอพี่พุฒ ผมเคารพพี่พุฒในฐานะเพื่อนเราทำงานช่องเดียวกัน เขาเป็นพิธีกรกับผม เราเคยทำงานด้วยกันมาก่อน เขาได้ดี เราดีใจ เราไม่ได้อยู่ในสายเดียวกันเลย คาแรกเตอร์ บุคลิก เขาเป็นหนุ่มหน้าหยก ผมหนุ่มหน้าคมมันคนละทาง แต่ผมรู้สึกว่าการที่เรายิ่งอิจฉา มันยิ่งไปกดตัวเองให้ต่ำลงไม่ได้ช่วยอะไร”

“ผมทำอาชีพเขียนหนังสือ เขาเป็นดีเจ คนละสายอาชีพ แต่ผมรู้สึกว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่อยากจะทำงานร่วมกับใคร หรืออยากจะไปต่อกับใคร อันนั้นมันเป็นสิทธิ์ แต่ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้คิดแบบนั้นอะ เรื่องงานก็คืองาน ความรู้สึกก็คือความรู้สึก ให้เกียรติคือให้เกียรติ ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ถ้ามันทำให้ให้คนรอบข้างเดือดร้อน ผมทำไม่ได้ ผมถอยดีกว่า”

“ผมเป็นคนไม่โยงปากกาไปลิงก์ใครเลยนะ ข่าวนี้ไม่ได้มาจากผม ผมทำงานของผม ปีนี้ผมอาจจะเจอพี่พุฒด้วยซ้ำ อย่างนั้นค่อยมาลิงค์กันได้ แต่ผมไม่เคยมาพูดว่าหวงคู่จิ้น ไม่เคยหลุดปาก ข่าวว่าฝั่งโน้นอยากจับคู่จิ้นนี่ก็ไม่เคยหลุดปากจากผม น้อยใจคู่จิ้น เปลี่ยนอะไรก็ไม่เคยมาจากผม”

ยอมรับ “ยิปซี” ปิดห้องเคลียร์ใจ “เอสเธอร์” เหตุอีกฝ่ายอันฟอลโลว์ไอจี
“เรื่องข่าวว่าเอสเธอร์มีปัญหากับยิป เพราะเรื่องฌอห์ณอันนี้ผมก็ไม่รู้จริง ๆ เรื่องอันฟอลโลว์ไอจีกันผมไม่ทราบนะ มันเป็นสิทธิ์ของเขา ผมไม่เคยเช็ก แล้วเขาจะอันฟอลโลว์ผมหรือไม่อันผมไม่ทราบ เพราะว่าผมพอรักนะเป็ดโง่ออนแอร์ ผมแท็กให้น้องตลอด มันเป็นสิทธิ์ของเขา ส่วนเรื่องของยิป ยิปเป็นผู้หญิงที่โตมากแล้ว อีกไม่กี่ปีก็ 30 เขาไม่ใช่มาแบบเธอทำอะไรเพื่อนฉัน ไม่ใช่ เขาเป็นคนชัดเจน”

“เขาจะสนิทเหมือนเดิมหรือไม่สนิทเหมือนเดิมอันนี้มันเรื่องของเขา แต่ผมรู้สึกว่ายิปมันทำอะไรที่ตัวเองสบายใจ ส่วนเรื่องยิปซีปิดห้องเคลียร์เรื่องอันฟอลโลว์ไอจี เรื่องมีเข้าหูเราครับ แต่เราไม่ถาม เขาก็ไม่ได้พูดถึง หนึ่งเรื่องส่วนตัว สองเพื่อนผมมีอะไรจะเป็นคนบอกเอง แล้วผมเชื่อว่าจะสนิทหรือไม่สนิทมันดูออกได้อยู่แล้ว ฉะนั้นผมรู้สึกว่าเราจะไม่มีคุยถึงปัญหา เชียร์อัปให้มีความสุขในการทำงานดีกว่า”

“ทุกคนมีปัญหาของตัวเองอยู่แล้ว ยิปจะลงรูปใครหรือจะสบายใจคุยไม่คุยกับใคร เป็นเพื่อนใครก็เป็นเรื่องของเขา ตราบใดที่ผมกับเขาเป็นเพื่อนกันอยู่ก็โอเคอยู่แล้ว ส่วนน้องจะลงรูปจะแท็กหรือไม่แท็ก จะอันฟอล มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา มันเป็นสิทธิ์ทางความเหมาะสมของเขาว่าควรจะคู่ควรกับมิสเตอร์จินดาช่วงนี้มั้ย เพราะว่าสุดท้ายแล้วเหมือนที่ผมบอกว่า ผมไม่ได้ดังด้วยตัวเอง ผมมาจากเขาครึ่งหนึ่ง และผู้ใหญ่เป็นคนวาง ผมทำงานให้ดี ผมให้เกียรติผู้ใหญ่ของเขา แม่ผมให้เกียรติเพื่อนร่วมงานของผมทุกคน ไม่มีว่าใครดีกว่ากัน มาด้วยกันไปพร้อมกันได้ดีด้วยกัน”

ถอยมาในฐานะของพี่ อีกฝ่ายสนิทหรือไม่สนิทใครไม่เกี่ยวกับตนแล้ว
“แต่ถ้าย้ำบทสรุปบรรทัดสุดท้ายว่าสนิทเหมือนเดิมมั้ย มันมีระยะของมัน ผมถอยออกมาอยู่ในฐานะของความเป็นพี่ ขีดเส้นใต้อย่างชัดเจน ว่ามันเป็นเรื่องของเขาแล้วว่าจะสนิทกับใคร จะคบใครมันไม่ได้เกี่ยวกับเราครับผม ยังไงทำงานให้ดีก็พอ”

โอดหุ่นไม่พร้อมขายภาพลักษณ์เซ็กซี่ หน้าตาแบบนี้คงไม่มีใครซื้อ
“อันนี้ไม่ครับ อันเดอร์ไลน์เซ็กซี่ไม่ได้จริง ๆ ผมเป็นหนุ่มติดใส่สูท คุณแม่ผมครอบครัวใหญ่ด้วยอาจจะไม่ใช่สายนี้ แต่มีติดต่อมาเราก็บอกชัดเจน หุ่นผมไม่ได้พร้อมที่จะเอาไปขายได้ (หัวเราะ) เอาเสื้อคอกลมหรือคอเต่าให้ผมใส่ยังดีใจกว่า แหวกโชว์กล้ามอะไรอย่าเล่น ในละครมันก็มีถอดนะ แต่มันจะเร็วมาก (หัวเราะ) ผมก็พยายามแค่ไม่ให้อ้วน ผมถนัดปั่นจักรยานแต่ไม่ชอบฟิตเนส ไม่ชอบยกดัมเบล ชอบเล่นบาส เตะบอล ออกกำลังกาย มีซิตอัปแต่ไม่ได้อยากให้มันใหญ่ ซึ่งผมว่าทาร์เก็ตของคนซื้อหนังสือเห็นหน้าผมก็คงไม่ซื้อ เขาอยากอ่านคอลัมท์สัมภาษณ์มากกว่า”







ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
กำลังโหลดความคิดเห็น