“โตโน่” ลั่นหัวใจยังไม่หายด้านชา ขอเวลาพักใจเพราะแผลใจยังไม่หายดี รับคุยสาวแต่พอจะพัฒนาใจก็จะสั่งให้พอก่อน ตอนนี้โฟกัสที่งานเป็นหลัก และเลือกหาความสุขจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคืองานและการเลี้ยงสุนัข
ตั้งแต่โสดก็ฮอตเนื้อหอมเลยทีเดียวสำหรับ “โตโน่ ภาคิน คําวิลัยศักดิ์” มีข่าวกับสาวทั้งในและนอกวงการ เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยเรื่องหัวใจของหนุ่มโตโน่ เจ้าตัวก็เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงขอเวลาพักใจเพราะแผลยังไม่หายดี ยังบอบช้ำอยู่
“หัวใจมันด้านช้า มันกลายเป็น...เราก็ยังชอบมองคนสวยอยู่นะ เพียงแต่เรามีความรู้สึกว่าตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่ใจมันควรจะอยู่นิ่งๆ มันควรพัก เพราะเราใช้มันมาเยอะ ตั้งแต่เราโตมาเป็นหนุ่มเราเท่ห์ไง(หัวเราะ) เราก็เลยใช้หัวใจเปลือง รักใครก็รักมาก รักเต็มที่ตายแทนได้ จนมาถึงตอนนี้ผมอายุ 29 ปี แต่ผมใช้ใจไปเกินอายุมากๆ เลย มันไม่ได้ไปอะไรกับมันนะ แต่มันก็เป็นไปของมันเอง รู้สึกว่าอยากพัก อยากซ่อมแซมหัวใจตัวเองที่มันเหนื่อยมามาก"
"ถามว่าโสดแล้วมีคนเข้ามาไหมมีคนเข้ามาเยอะนะ แต่พอเข้ามาใจมันก็จะบอกเราแล้วว่าเดี๋ยวก่อน มันไม่ใช่กลัวนะ แต่ลองดูวิถีชีวิตของตัวผมเองแล้วผมรู้ตัวดีว่าผมเป็นคนแบบไหน ตัวเรากับชื่อเสียงมันคนละเรื่อง ชื่อเสียงคือสิ่งที่เราสร้างมีนขึ้นแล้วเขาก็มองเรา ทำให้คนอยากรู้จักโตโน่ แต่ชีวิตจริงของโตโน่คือตื่นมาทำงาน เสร็จงานคอนเสิร์ตดึกก็กลับบ้านนอน ตื่นเช้าไปทำงานแล้วก็นอน วงจรมีอย่างนี้ งานก็หนัก เรามีเงินจริง แต่เราไม่มีเวลาไปทำให้ใครเขามีความสุขด้วยได้ ถ้าเขาไม่เข้าใจเราจริงๆ ดังนั้นคนที่เขาจะมาเป็นแฟนเราเขาต้องมีความอดทนที่สูงมากๆเลยนะ แล้วใจผมเองก็ยังไม่พร้อมด้วย”
“ใจมันต้องพักเพราะมันเหนื่อยมามากแล้วจริงๆ ให้มันอยู่นิ่งๆ ของมันบ้าง ไม่อยากจะใช้ใจเปลืองแล้ว ตอนนี้ก็เลยเอาใจไปใช้กับวงดนตรีไปใช้กับเพื่อนไปใช้กับงานไปใช้กับครอบครัว คนที่เขาเข้ามาคุยกับเราเขาก็จะรู้โดยอัตโนมัติว่าเราได้แค่ไหน ง่ายๆ เลย คุยกัน 2 ประโยคแล้วผมหายไป 3 วัน บางทีเขาถามว่าหายไปไหนมาเราก็บอกว่าทำงาน รับได้ก็ได้ รับไม่ได้ก็หายไป เขาก็คงรู้ว่าช่วงนี้เราบ้าอย่างอื่น”
ยังไม่รู้ว่าตนจะพร้อมมีความรักอีกครั้งเมื่อไหร่จึงเลือกมีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก่อน
“ผมไม่ได้คิดเลยว่าจะเป็นยังไงต่อ ไม่รู้ด้วยว่าจะมีความรักอีกไหม จากเมื่อก่อนเรามีความคิดว่าเราอยากจะแต่งงานตอนที่เรายังเป็นหนุ่มมีลูกเร็วๆ จะได้สอนมวยลูก ตอนนี้มันกลายเป็น...ความสุขของผมคืออยู่กับหมาหลังเลิกงาน มีความสุขกับการได้พาหมาไปกินไอติม สิ่งที่เคยหวังเคยฝันมันไม่มีแล้ว เลือกที่จะมีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดีกว่า ผมรู้ว่าถึงคิดไปมันก็ยังไม่มี เพราะใจเรายังไม่พร้อม มันยังไม่หายดี”
