ขณะที่คู่ของ “โตโน่-แตงโม” ฝ่ายชายตอบชัด จัดเต็ม แบบไม่คลุมเครือ ส่วนฝ่ายหญิงก็ขยันตัวทำให้เป็นข่าวอยู่ตลอดเวลา แต่คู่ของพระเอกนักร้องปากกว้าง “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” กับภรรยา “พลอย-พลอยพรรณ ทวีรัตน์” กลับตรงกันข้าม เพราะเป็นฝ่ายหญิงที่พยายามเร่งรัดขอความชัดเจน ส่วนฝ่ายชายก็พยายามบ่ายเบี่ยงเลี่ยงบาลี เลี่ยงที่จะเผชิญหน้าอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็มีข่าวให้ต่อมเผือกของชาวออนไลน์ทำงานอยู่เสมอๆ
ถ้ายังจำกันได้ นับตั้งแต่มีข่าวว่าครอบครัวนี้มีปัญหาระหองระแหง ส่อเค้าว่าเตียงจะหักอยู่รอมร่อ ก็มีตัวละครสมทบฝายหญิงเข้ามาพัวพันกับปีเตอร์อยู่ไม่ได้ขาด นับตั้งแต่ไบค์เกอร์สาว “แอนนี่-ปริศนา” มาจนถึง “โบว์” สาวชาวบุรีรัมย์ ที่ว่ากันว่าเป็นกิ๊กสาวตัวจริง ที่ถูกซุกไว้ ฝั่งภรรยาตีทะเบียน ก็อยู่อย่างหวานอมขมกลืน พร้อมกับพยายามถามหาความชัดเจนจากสามี ว่าจะ “อยู่” หรือ ”หย่า” แต่ฝั่งปีเตอร์เองต่างหากที่ทำตัวคลุมเครือ ขณะเดียวกันก็ทิ้งให้ฝ่ายภรรยาก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงินเลี้ยงดูลูกน้อยตาดำๆ 2 คน
ข่าวคราวที่ทำท่าว่ากำลังทรงๆ ก็ทรุดหนักลงอีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่าฝั่งพลอยนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ฝั่งปีเตอร์กับมีภาพที่กำลังออกทริปบิ๊กไบค์เริงร่าหรรษาอยู่ในหมู่เพื่อนๆ และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้น มีโจทก์เก่า คือแอนนี่-ปริศนารวมอยู่ด้วย งานนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่โลกออนไลน์ออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงตำหนิติเตียนทั้งปีเตอร์กันแอนนี่จนยับเยิน จนแอนนี่ที่ตกเป็นจำเลยสังคมอีกครั้งต้องออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านไอจี ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ว่าภาพนั้นเป็นทริปที่ไปทำบุญไปกันเป็นร้อยคน ปีเตอร์ไปทำงานกับฮาเล่ย์ ส่วนตนเองไปทริปกับเพื่อนๆ แล้วมาร่วมทำบุญด้วยกัน ไม่ได้ไปสองต่อสอง พร้อมทั้งวอนให้สังคมหยุดปั่นกระแส เรื่องที่เธอไปยุ่งกับผัวคนอื่นเสียที
เมื่อมีข่าวว่าพลอยเข้าโรงพยาบาลรอบสอง คนก็เลยปักธงไปว่า ป่วยเพราะตรอมใจ
“ไม่เลยค่ะ เราดูแลตัวเอง ไม่ดีมากกว่า คือตอนแรกเป็นติดเชื้อในกระแสเลือดก่อน ต่อมาแพนเตอร์ป่วยเป็นไวรัสเด็ก เลยติดเชื้อจากลูกอีก เลยต้องแอดมิท นอนให้น้ำเกลือเพื่อให้มีแรงมาทำงานต่อ บางทีก็คิดว่าทำไมต้องเป็นเราคนเดียวมานั่งดูแลทั้งวันทั้งคืน ถ้ามีคนพอที่จะช่วยก็จะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ซึ่งตอนที่ลูกป่วย คนที่รู้จักก็ไปบอกปีเตอร์ แต่ก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย
ถามว่าเห็นรูปที่ไปทริปแล้วรู้สึกยังไง ก็ไม่ค่ะ มันนานแล้ว จะมีผู้หญิงอะไรยังไงมันปลงแล้ว อาจไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวก็ได้ หรือมีผู้หญิงคนอื่นอยู่ดี เลยไม่มานั่งคิดมาก ตอนนี้จิตใจเข้มแข็งมาก”
แต่ที่กลายเป็นประเด็น Talk of the town ก็คือคำสัมภาษณ์ของพลอย ที่ “พลั้งปาก” ออกมาว่า
“คำว่าครอบครัวพลอยให้ความเป็นพ่อของลูกดีกว่า แต่ครอบครัวเป็นสามีภรรยาไม่เป็นไร อยู่บ้านเดียวกันได้ พลอยไม่ซีเรียส เค้าอยากจะมีแฟนใหม่พามาอยู่บ้านเดียวกัน พลอยก็ไม่ซีเรียส งานหลักของพลอยคือดูแลลูก ทำงานหาเงิน เค้าอยากจะทำอะไรก็โอเค. แต่ถ้ามาช่วยดูแลลูกได้ หรือทำงานหาเงินมาซัพพอร์ตพลอย โอเค. หมดค่ะ”
งานนี้เลยเกิดเป็นกระแสสองฝักสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งชื่นชมในแง่ที่ว่าพลอยใจกว้างเป็นแม่น้ำ กับอีกฝ่ายที่ต่อต้าน เพราะมองในเรื่องของ “ศักดิ์ศรี” และการเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของลูก กระทั่งพลอยต้องออกมาโพสต์ขอโทษที่ให้สัมภาษณ์แล้วทำให้คนรู้สึกแบบนั้น พร้อมทั้งย้ำว่า เธอหมดความรู้สึกกับคำว่าสามีภรรยาไปแล้วจริงๆ แต่ยังไงก็คิดถึงลูกเป็นหลักเสมอ พร้อมตอกกลับว่า หากสามีรักลูกจริง ๆ อย่างที่ปากว่า ก็คงไม่ทำอะไรน่าเกลียดอย่างที่เธอพูด
แต่ประเด็นที่พลอยดูจะ “รับไม่ได้” มากที่สุด ก็คือการถูกจับตามองว่า เธอยังคงรัก และรอการกลับมาของสามีอยู่
กระทั่งต้องขอชี้แจงซ้ำ พร้อมกับย้ำว่า ไม่อยากให้เขียนข่าวไปในเชิงที่ทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงอ่อนแอ เพราะทุกวันนี้เธออยู่แบบรอวันหย่า
“ตอนนี้ต้องขออนุญาตสื่อทุกสำนักเลย รบกวนไม่พาดหัวข่าว โดยมีคำว่าโอด วอน รอ เพราะว่าไม่ได้โอดไม่ได้รอไม่ได้ครวญหาอะไรมานานมากแล้ว วันนั้นที่ให้สัมภาษณ์อาจจะเป็นเพราะมันปากไปนิดหนึ่งที่พูดว่าอยากให้กลับมาบ้าน โดยจะมีอะไรติดสอยห้อยตามมาก็ได้ แต่เอาจริง ๆ ที่ตั้งใจจะพูดเนี่ยไม่อยากได้อะไรจากเขาอีกแล้ว ยกเว้นให้กลับมาเคลียร์ ใครที่ไม่พอใจกับการที่พลอยพูดตรงนั้นก็ขอโทษด้วย
ถามว่าไหวมั้ยที่มันคาราคาซัง คือพลอยเป็นความอดทนสูงมาก แต่ว่าความอดทนมันก็มีจำกัด แต่ว่าตอนนี้ก็ถือว่าทนได้อยู่ในการที่ให้เขามาเคลียร์ ใครที่คิดว่ากลับมาเป็นสามีภรรยากันก็ต้องตรงนี้เลยว่ามันไม่ใช่แล้ว ถามว่าอยากให้จบดี ๆ หรือจบที่หย่า ที่อยากให้คุยกันดี ๆ ก็คือให้เข้ามาเคลียร์เฉย ๆ ว่าอยากจะได้อะไรบ้าง ถ้าเกิดพี่เขาสะดวกใจอยากจะหย่าก็หย่า ถ้าเกิดพี่เขาไม่อยากหย่าก็ไม่เป็นไรค่ะ เขาย้ำให้พลอยฟังเสมอตอนก่อนแต่งงานกับแต่งงานแล้ว คือเขาบอกว่าคือเขาจะแต่งงานครั้งเดียว พี่เขาไม่อยากหย่าคือไม่พร้อมหรืออะไรอย่างนี้ ไม่เป็นไรค่ะ แต่เราต้องมาเคลียร์ปัญหากันว่าเรื่องลูกเราจะเอายังไงบ้าง ถ้ากลับมาก็คงเป็นเรื่องลูกประเด็นหลักๆ เลย เขายังมีอนาคตอีกไกล
ค่าเลี้ยงดู ขอเก็บเอาไว้ดีกว่าเพราะว่าพลอยไม่อยากให้ไปกระทบกับใคร ส่วนเรื่องกลับไปเป็นแอร์ฯ คงกลับไปบินช่วงประมาณเดือนมีนาคม เลือกบินในโซนประเทศไทย โซนประเทศใกล้ ๆ จะได้ห่างลูกวันเดียวแล้วกลับวันเดียว ยอมบินเหนื่อยหน่อยแต่ว่าได้เจอลูกทุกวันค่ะ
ครั้งที่แล้วรู้สึกเสียใจมากที่ให้สัมภาษณ์ไปด้วยความมันปากตัวเองด้วย ต้องยอมรับผิดไปค่ะ แต่ว่าเหมือนบางทีพลอยลงรายละเอียดไปแล้วว่าพลอยไม่ต้องการใช้คำว่ารอ ใช้คำว่าโหยหาอะไรก็ตาม เพราะว่ามันทำให้ความเข้มแข็งที่มีอยู่กลายเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอไปเลย”
เรียกว่างานนี้ฝั่งภรรยา ดู “แมน” กว่าสามีเสียอีก
ที่มานิตยสาร ASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 313 7-13 พฤศจิกายน 2558