ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ตที่แฟนคลับดรามากันมากที่สุดแห่งปีอย่าง “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นท์ส มารูน ไฟว์ ไลฟ์ อิน แบงค็อก 2015” (Singha Corporation Presents Maroon 5 Live in Bangkok 2015) โดยจัดขึ้นรอบแรกเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา ณ. อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี งานนี้แฟนคลับตัวจริงเนืองแน่นเลยทีเดียว
หลังจากที่เกิดกระแสดรามากันไปพักใหญ่ๆจนต้องจัดเพิ่มรอบให้สาวกแฟนคลับได้สนุกกันถ้วนหน้า คอนเสิร์ตที่จัดขึ้นวันแรกเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา ก็ทำให้แฟนคลับหลายคนออกอาการฟินที่ได้ชมคอนเสิร์ตครั้งนี้
โดยก่อนจะเข้าสู่ช่วงการแสดงของ Maroon 5 ก็ได้วงเปิดรุ่นน้องเป็นทรีโอฝีมือดีอย่าง Dirty Loops มาเรียกน้ำย่อยแฟนๆ ก็ทำเอาแฟนๆ Maroon 5 ประทับใจกับลีลาและฝีไม้ลายมือของพวกเขาไปไม่น้อย
จนกระทั่ง 2 ทุ่มครึ่งตรงเวลาตามกำหนดการ ไฟในฮอลล์ก็ดับลงพร้อมกับเสียงหอน พร้อมกับการขึ้นเวทีของหนุ่มๆ Maroon 5 ที่อดัม เลอวีน นักร้องนำเองก็นำหอนให้แฟนๆส่งเสียงกรี๊ดกันเกรียวกราว เพื่อเข้าสู่เพลงสุดฮิตอย่าง Animals จากอัลบัม V เมื่อปี 2014
ต้องบอกว่าคอนเสิร์ตเวิล์ดทัวร์ครั้งนี้ของ Maroon5 จัดเต็มแบบ 17 เพลงรวดที่ขนมาแต่เพลงฮิตจากอัลบัมเก่า-ใหม่มากำนัลแฟนๆ ซึ่งต่อให้ไม่ใช่สาวกตัวจริงของ Maroon5 ก็ต้องเคยได้ยินผ่านหูทางคลื่นวิทยุมาบ้างอย่างแน่นอน
โดยช่วงแรกอดัม จัดเพลงที่ทำเอานั่งกันไม่ติดเก้าอี้มาแบบรวดเดียว ซึ่งหลังจากเพลง Animals แล้วก็ตามมาด้วย One More Night รวมถึง Stereo Hearts เพลงฮิตที่เคยร่วมงานกับวงแร๊ป-ร็อกสัญชาติอเมริกันอย่าง Gym Class Heroes เมื่อปี 2011 ที่เพลงนี้ก็ทำคนร้องท่อนฮุคตามกันได้ทั้งฮอลล์
จากนั้นก็ตามด้วย Harder To Breath และเพลง Lucky Strike ที่ในเพลงหลังนี้อดัมได้เรียกให้แฟนๆปรบมือตามจังหวะตั้งแต่เริ่มต้น สร้างความคึกคัก โดยช่วงกลางเพลงดูเหมือนเจ้าตัวจะร้อนจึงได้ถอดเสื้อเชิ้ตลายสก็อตของตนเองพร้อมเช็ดเหงื่อก่อนโยนกำนัลให้แฟนคลับด้านหน้าได้เก็บไปเป็นที่ระลึกทำเอาแฟนๆกรี๊ดลั่นพากันอิจฉาผู้โชคดีกันถ้วนหน้า
จากนั้นเพลงฮิต Wake Up Call ก็ตามมา ซึ่งในเพลงนี้เรายังได้ฟังโซโลกีตาร์ของ เจมส์ วาเลนไทน์ ที่ขอโชว์ในช่วงกลางเพลงแบบยาวๆ แถมอดัมยังเอนเตอร์เทนให้คนดูร้องเย้ เย ไปด้วยกัน แม้งานนี้จะให้ความร่วมมือกันทุกคนแต่ก็ยังเสียงแผ่ว จนอดัมต้องขอให้เพิ่มเสียงกันอยู่หลายรอบ
ตามต่อด้วยเพลง Love Somebody และ Maps เพลงฮิตจากอัลบั้ม V ที่ร้องตามกันสนั่นลั่นฮอลล์ ตามด้วยเพลงชาติของ Maroon 5 อย่าง This Love เพลงเปิดตัวจากอัลบัมแรก Songs About Jane เมื่อปี 2002 ที่เคยทำให้พวกเขาโด่งดังเป็นพลุแตกมาแล้วก็ไม่พลาดที่จะมาอยู่ในลิสต์ โดยเพลงนี้อดัม ยังได้คว้ากีตาร์สีชมพูนีออนเรืองแสงมาดีดโชว์แฟนๆเรียกเสียงกรี๊ดด้วย
หลังจากนั้นได้มีการแนะนำตัวสมาชิกวงและนักดนตรีแต่ละคน โดยเมื่อมาถึงเจมส์ วาเลนไทน์ มือกีตาร์ผมยาวเจ้าเสน่ห์ ผู้ชมก็ได้เห็นการหยอกล้อกันของทั้งคู่ โดยอดัม ไปยืนส่งเสียงตามทำนองกีตาร์ที่เจมส์ดีด ก่อนที่เจมส์จัดระดับความยากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่เมื่อเริ่มยากเกินไป อดัมจึงขอวัดฝีมือเจมส์ด้วยการสลับกัน บอกให้เจมส์ดีดตามเสียงร้องของเขา งานนี้เมื่อเจมส์มีหลุดจนอดัมสั่งแคนเซิล ก็ทำเอาขำกันลั่นฮอลล์ทีเดียว สุดท้ายเจมส์ต้องขอบายยอมยกมือมอบชัยชนะให้อดัม เลอวีนไป
ยังคงรำลึกความหลังให้กับแฟนพันธุ์แท้ของวงนี้เมื่อต่อจาก This Love ก็ตามมาด้วยเพลง Sunday Morning เพลงสไตล์ฟังก์-โซลจากอัลบัมแรกเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ตามด้วยเพลง Makes Me Wonder เพลงเปิดตัวจากอัลบัมที่สอง It Won't Be Soon Before Long
ส่วนเพลงจากอัลบัมที่ 4 ที่ได้ร่วมงานกับแร๊ปเปอร์ดัง วิซ คาลิฟา ในเพลง Payphone ก็นำมาร้องบนเวทีอีกครั้ง โดยช่วงเปิดเพลงอดัมได้เรียกเพื่อนร่วมวงให้วางเครื่องดนตรีพร้อมเดินออกมารวมตัวกันด้านหน้า ซึ่งแฟนๆบางส่วนที่ยืนมาตั้งแต่เพลงแรก เริ่มอาศัยจังหวะขอนั่งลงพักเบรกบ้าง จนอดัมต้องพูดแบบติดตลกว่า ยอมให้ทุกคนนั่งลงพักก่อนได้ 3 วินาทีเท่านั้นทำเอานั่งพักได้สักครู่ก็ต้องลุกขึ้นกันเป็นแถว โดยอดัมกับเพื่อนๆได้ร้อง Payphone ในเวอร์ชันประสานเสียงแบบสดๆ ก่อนจะปล่อยให้ทุกคนไปประจำเครื่องดนตรีเข้าสู่เวอร์ชันปกติ
จากนั้นตามด้วยเพลงจากอัลบัมที่ 4 เช่นกันอย่างเพลง Daylight ที่เพลงนี้แฟนๆในฮอลล์พร้อมใจกันเปิดแฟลชจากโทรศัพท์มือถือของตนเองแทนแท่งไฟทำให้ในฮอลล์สว่างไสวทีเดียว โดยหลังจากจบเพลงนี้ Maroon 5 ก็ได้ลาลงหลังเวทีไปพร้อมกับไฟในฮอลล์ที่ดับลง
ส่วนแฟนๆก็ยังคงส่งเสียงเรียกชื่อเพลง Lost Stars เพื่อให้พวกเขาออกมาอีกครั้ง และอดัมกับเจมส์ วาเลนไทน์ ก็ออกมาพร้อมกับกีตาร์เพื่อร้องเพลง Lost Stars ซาวนด์แทร็คจาก Begin Again ที่เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว โดยแฟนๆในฮอลล์ก็พร้อมใจกันเปิดแฟลชโทรศัพท์ให้เพลงนี้อีกครั้ง จนอดัมเอ่ยปากชมแฟนๆที่ร่วมด้วยช่วยกันสร้างบรรยากาศ
ส่วนเพลงช้าอีกเพลงที่ไม่พลาดไม่ได้อย่าง She Will Be Loved ก็นำมาร้องในแบบอคูสติกพอผ่านไปครึ่งเพลง เพื่อนร่วมวงก็เริ่มเดินออกมาประจำเครื่องดนตรีเพื่อเข้าสู่เวอร์ชันปกติในครึ่งเพลงหลัง โดยเพลงนี้แฟนๆก็ยังมีโปรเจ็คท์มาร่วมด้วยโดยการเปิดหน้าจอโทรศัพท์เป็นภาพแบ็คกราวนด์สีชมพูช็อคกิงพิงค์แทนแท่งไฟสีชมพูสร้างความสวยงามได้พอควรแต่น่าเสียดายที่ผู้ชมบางส่วนไม่ทราบถึงโปรเจ็คท์ดังกล่าว จึงไม่ได้เปลี่ยนฮอลล์เป็นสีชมพูได้ทั้งฮอลล์
และทันทีที่เพลงจบก็ตามด้วยอินโทรลเปิดของเพลง Moves Like Jagger ที่อดัมโชว์ลีลาการกระโดดควบคุมจังหวะแบบสุดเท่ก่อนจะเต็มเหนี่ยวไปกับเพลงนี้โดยตอนท้ายเขานำกีตาร์สีชมพูเรืองแสงกลับมาสะพายโชว์ดีดดูเอตคู่กับเจมส์ วาเลนไทน์อีกครั้ง
ปิดท้ายแบบต่อเนื่องด้วยเพลงสุดฮิตที่โด่งดังเป็นกระแสไปทั่วโลกและทุกคนรอฟังสดมากที่สุดอย่าง Sugar โดยเพลงนี้มาพร้อมแสงสีอลังการโดยแฟนๆก็ร่วมร้องกันกระหึ่มทั้งฮอลล์เช่นกัน ต้องยอมรับว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ดนตรีบางจังหวะยังมีแอบหน่วงๆอยู่บ้าง ส่วนเสียงร้องของอดัมก็ยังมาแบบไม่เต็ม มีเสียงตก เสียงหลบ เสียงหาย ให้ได้ขัดใจกันอยู่หลายครั้ง แต่ก็ได้ฟีลของการฟังสดไปอีกแบบ และเมื่อพิจารณาได้ว่าเขาต้องร้องเพลงรวดติดกันเกือบยี่สิบเพลงแทบไม่ได้พักตลอดโชว์ แถมเดินสายเปิดการแสดงทัวร์ต่างประเทศแทบจะวันเว้นวัน ก็ต้องยอมให้อภัยในความอึดของเขาเลยทีเดียว เพราะเจ้าตัวถึงจะพูดคุยทักทายกับแฟนคลับในวันแรกน้อยไปนิดแต่เขาก็พยายามเอนเตอร์เทนให้แฟนๆได้สนุกไปกับเขาตลอดโชว์จริงๆ
ส่วนทางด้านแสงสีเสียง ก็ต้องยอมรับว่าจัดแสงมาได้สวยทีเดียว แม้จะไม่อลังการงานสร้าง แต่เมื่อมองการจัดไฟให้เล่นล้อไปกับจังหวะดนตรี มีการสลับสีกันในแต่ละเพลงก็ช่วยให้ตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อยโดยเฉพาะช่วงเพลงหลังๆที่ยอมรับว่าแสงสวยมาก
ส่วนคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังคงจะมีการจัดขึ้นอีกรอบในวันนี้ ( 22 ก.ย. ) ณ. อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่ถูกเพิ่มรอบขึ้นมาและบัตรคอนเสิร์ตก็สามารถขายหมดในเวลาอันรวดเร็วไม่ต่างจากรอบแรกเช่นกัน
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม