“สุกัญญา มิเกล” ไม่ทนให้ทรมาน เลิกอดีตสามีเพื่อลูก เผยไม่โกรธลูกสาวโทษตนเป็นสาเหตุทำให้ครอบครัวแตกแยก เหน็บอดีตสามีแมนโคตรเรียกร้องสิทธิ์ค่าเลี้ยงดู ขู่เลี้ยงลูกสาวไม่ดี จะใช้สิทธิ์ความเป็นแม่ขอลูกคืน
หลังจากมีข่าวเรื่องราวการหย่าร้างออกมาสักพักหนึ่งแล้ว ล่าสุด ร็อกเกอร์สาวอย่าง “สุกัญญา มิเกล” ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวในงานแถลงข่าว 90'S CONCERT FIRST ALBUM กำเนิดอินดี้ รุ่นพี่ออกเทป เผยถึงสาเหตุปิดฉากอดีตสามี “พรชัย ศรีขจร” หลังจากใช้ชีวิตคู่มาด้วยกันนานถึง 18 ปี ด้านลูกสาวคนโตวัย 10 ขวบ “น้องเลอร์เบียร์” ตัดสินใจไปอยู่กับพ่อ ส่วน “น้องทาร์เนียร์” วัย 6 ขวบ อยู่กับแม่ตามคำสั่งศาล ทั้งนี้ เจ้าตัวเคลียร์ชัดค่าเลี้ยงดูว่าต่างคนต่างรับผิดชอบ
“เรื่องราวที่เกิดขึ้นพอจะทราบกันแล้วเนอะว่าพี่ได้หย่าร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราเป็นฝ่ายที่แยกตัวออกมา และศาลได้ตัดสินว่าให้ลูกสาวได้อยู่กับพ่อ และลูกคนเล็กที่เป็นผู้ชายก็ได้ตัดสินให้อยู่กับเรา และแต่ละอาทิตย์เราก็จะพาลูกชายไปเจอกับเขา อาทิตย์ละครั้ง และที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ก็เพราะเราพิสูจน์มาแล้วว่า 18 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้หมายความว่า เรามีมือที่สาม หรือเขามีมือที่สาม เพราะมีแค่สองมือก็แย่แล้วนะคะ เป็นเรื่องของแนวคิดที่ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง และเป็นมานานมากแล้วและไม่สามารถหาจุดที่ลงตัวได้ ความคิดไม่เหมือนกันเลยนะ”
“อย่างเรื่องเดียวกันแต่มองกันคนละมุม ความคิดแตกต่างกันมาก และมันก็เป็นแบบนี้มาโดยตลอด ซึ่งมันก็มาหนักขึ้นเมื่อเราต้องมาใช้ชีวิตในการอบรมสั่งสอนลูก ซึ่งมันก็กลายเป็นว่าเรามาอบรมกันคนละทาง มันก็เลยกลายเป็นปัญหาที่ตกมาที่เด็ก เราก็เลยตัดสินใจว่าเราเป็นฝ่ายออกมาดีกว่า ซึ่งลูกสาวอาจจะคิดว่าเราเป็นตัวปัญหาที่ทำให้ครอบครัวแตกแยก แต่อนาคตถ้าเขาโตเขาก็จะรู้ว่าที่เราเลือกสิ่งนี้ก็เพราะว่าเราไม่อยากให้เขาแย่ไปกว่านี้”
เผยหย่าเพราะความคิดต่างกัน เคยปรับจูนแล้วแต่ไม่สำเร็จ
“ก่อนหน้านี้ก็เคยคุยกันแล้ว เคยปรับความเข้าใจกันแล้ว แต่ด้วยสไตล์ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันทั้งคุณพ่อและคุณแม่ เพราะพ่อก็เป็นนักดนตรีและเราก็เป็นนักร้องเป็นนักดนตรีเหมือนกัน และความคิดของเราทั้งคู่ก็ต่างกันสิ้นเชิง เพราะคิดว่าสิ่งที่เรารู้มานั้น ต่างคนต่างก็มั่นใจว่าคิดถูกต้อง ซึ่งพอเรื่องมันเกิดขึ้นและออกมาเป็นในรูปแบบนี้ เราสงสารลูกนะ เพราะว่าเขาทั้งสองคนโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก และเขาก็คิดถึงกันมาก แต่เราก็จะบอกกับลูกชายว่าเดี๋ยวหม่ามี๊พาไปหาพี่สาว ส่วนพี่สาวเขาก็บอกน้องเขาว่าเดี๋ยวเราเจอกัน เพราะยังติดต่อกับเขาอยู่เรื่อย ๆ ไปหาเขาทุกอาทิตย์ อย่างวันจันทร์ที่ผ่านมาท่าทีเขาก็อ่อนลง เริ่มเข้าใจมากขึ้น”
ยอมรับลูกสาวเข้าใจ แต่ไม่ถือโทษ พร้อมจะเป็นที่ปรึกษาให้ทุกเวลาไม่ว่าจะต้องการหรือไม่
“ลูกสาวรับรู้ว่าครอบครัวต้องแยกแต่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแยก ส่วนคนเล็กลูกชายยังเล็กเกินไปยากที่จะเข้าใจเพียงแต่รู้ว่าเขาต้องอยู่กับหม่ามี๊ ซึ่งการที่ลูกสาวเข้าใจผิดและไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่ต้องแยกทางกัน ซึ่งเขาเข้าใจถูกแล้วว่าเกลเป็นคนฟ้องหย่าและเป็นคนที่ไม่สามารถทำให้ครอบครัวสามารถกลับมารวมกันได้ ซึ่งข้อนี้เรายอมรับกับลูก แต่เราก็จะบอกเขาว่าทุกอย่างที่เราทำนั้นมันมีเหตุผล ซึ่งเหตุผลนั้นต่อให้เกลต้องอธิบายให้เขาได้ฟัง เขาก็ไม่เข้าใจหรอก ต่อให้เกลอธิบายไปว่าเพื่อที่จะไม่ให้เธอต้องเป็นแบบนี้ ไม่ให้เธอสับสันกับการเก็บข้อมูลเข้าสมองเข้าหัวใจอย่างงี้ เรื่องราวมันลึกเกินกว่าที่เด็กอายุ 10 ขวบจะเข้าใจ ซึ่งถ้าเขาโตขึ้นมาเขาก็จะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด เขาจะเข้าใจว่าที่เราเลือกสิ่งนี้ เพราะไม่อยากให้เขาถูกทำร้ายด้วยการที่เห็นพ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก เราก็เลยเลือกที่จะเป็นฝ่ายออกมา เป็นฝ่ายที่หย่าเอง และยอมผิดเองมากกว่า”
“มีช่วงแรกที่เครียดว่าทำไมลูกสาวไม่อยากรู้เหตุผลที่เราทำไปเนอะ เพื่อนๆ ก็พยายามมาเตือนเราว่าลูกสาวของเรายังเด็กอยู่ บางทีเราคิดกับลูกเหมือนเป็นเพื่อนมากเกินไป เลยคิดว่าอายุเท่ากันหรือไง แต่พอเขาโตขึ้นมาอีกสักหน่อย เดี๋ยวเขาก็จะเข้าใจ แต่ถามว่ากลัวไหมว่าเขาจะไม่เข้าใจเราตลอดไป เกลว่าเราเคยโกรธแม่ และเกลเองก็เพิ่งไปรับแม่มาจากสนามบิน แม่เพิ่งมาจากอิตาลี เกลเคยโกรธแม่ที่แม่ไม่ได้อยู่กับเรา มีความรู้สึกว่าเวลาที่เราเศร้า เวลาที่เราเครียด โดนล้อหรือว่าเวลาที่ต้องเจอปัญหาอะไรในชีวิตที่เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างเรา เป็นที่ปรึกษาให้เรา และเราก็เพิ่งมาเข้าใจในสิ่งที่แม่ทำเมื่ออายุ 23 ปี เราคิดว่าในชีวิตของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง เราไม่ได้คิดว่าเขาเป็นแม่ เขาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่พยายามสร้างชีวิตคู่และทำไม่ได้ แต่สำหรับเกลกับลูกสาว เราจะไม่ทิ้งเขา เรายังอยู่เพื่อที่จะให้คำปรึกษาเขาเสมอ ตราบเท่าที่เขาอยากจะได้ แต่ในกรณีที่เขายังไม่อยากได้ เราก็จะไม่ยัดเยียดให้เขา”
สอนลูกชายให้เข้มแข็ง ไม่ว่าจะเศร้ายังไงก็ต้องกอดกันไว้
“ส่วนลูกชายเขายังเล็กมากเลย เวลาที่เขาต้องจากกับพี่สาวเขา เขาก็มีอาการก็ร้องไห้ เราก็สงสารสุด ๆ แต่เขาเป็นเด็กผู้ชาย เราก็สอนเขาว่าต้องเข้มแข็งนะลูก เขาก็จะไม่มีน้ำตาออกมาให้เห็น แต่เราก็รู้ว่าเขาก็ร้องไห้อยู่ข้างใน เพราะว่าเขาไม่อยากจากพี่เขา เวลาที่เขาเจอกันก็เล่นกัน ส่วนใหญ่เขาจะพูดจาคุยเล่นกันเรื่องการ์ตูน และเราก็จะสอนลูกชายว่าเวลาโกรธกันให้ทำไงครับ เวลาที่โกรธกันให้กอดกัน เวลากลัวให้ทำไงครับให้กอดกัน เวลาที่เสียใจให้ทำไงครับก็ให้กอดกัน คือ ทุก ๆ อารมณ์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้กอดกันไว้ก่อน เวลาที่กอดกันเสร็จแล้วความรู้สึกที่มันแนบแน่นกันมันก็ยังอยู่ และเขาก็ยังจำความรู้สึกนั้น เขาก็จะไปบอกพี่สาวเขา”
ค่าเลี้ยงดูต่างคนต่างรับผิดชอบ แต่ยืนยันสิทธิ์ความเป็นแม่ยังมีอยู่ พร้อมรับลูกสาวกลับมาดูแลตลอดเวลา ถ้าอดีตสามีผิดสัญญา
“เรื่องค่าเลี้ยงดูเราไม่ได้เรียกร้องอะไรค่ะ แต่ในทางกลับกันเราเป็นฝ่ายที่ถูกทางอดีตสามีเรียกร้องมากกว่าค่ะ (หัวเราะ) แมนมากค่ะ ถามว่ามันเป็นภาระมากไหม เพราะตั้งแต่อยู่กันมาเราก็ดูแลครอบครัวมาโดยตลอดอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ได้หนักสำหรับเรา แต่ตอนนี้คุณพ่อก็ต้องรับผิดชอบลูกสาวตามที่เขาได้รับปากกับลูกเอาไว้ด้วย สองเป็นไปตามที่ตกลงเอาไว้กับศาลที่เขาต้องเป็นผู้อุปการะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็มีสิทธิ์ความเป็นแม่ มีสิทธิที่จะเข้าไปตรวจสอบความปลอดภัย และถ้าวันใดที่ลูกไม่ปลอดภัย เมื่อนั้นแหละ (หัวเราะด้วยน้ำเสียงขรึม ๆ) ถึงเวลานั้นลูกไม่อยากมาแต่ก็ต้องมาแล้วล่ะ เพราะตอนที่ศาลเขาจะตัดสิน เขาก็จะถามที่ตัวของลูกว่าอยากอยู่กับใคร ลูกสาวก็บอกว่าจะอยู่กับพ่อ”
ยอมรับวันนี้รักลูกมากกว่าสามี ไม่อยากให้ปัญหาต้องตกไปที่ตัวเด็ก
“พ่อเขาก็ไม่ได้เป็นคนเลวที่ไม่ได้ดูแลลูก และที่ผ่านเวลาที่เราต้องทำงาน เขาก็จะรับหน้าที่ในการดูแลลูก ลูกทั้งสองคนรักพ่อ และเราก็ขอตอบตรง ๆ ว่า ตลอด 18 ปี เราก็รักเขานะ แต่เราก็รู้ว่าเวลาที่เราจูนเข้าหากันและมันจะเกิดเป็นปัญหาจนไปตกกับเด็ก ขอพูดตรง ๆ นะว่าเรารักลูกมาก เรารักลูกมากกว่าสามี เราขอทำอะไรก็ได้ที่จะแก้ปัญหา อะไรที่จะทำให้เกิดปัญหาแล้วไปลงที่เด็ก ซึ่งเราเห็นแก่ตัวไปไหมว่าฉันรักเธอ เธอรักฉัน แต่ลูกเป็นไงก็ช่างมัน เราว่าถ้าเป็นแบบนี้ มันเป็นการเห็นแก่ตัวมากเกินไป และพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คนอื่นอาจจะมองว่าเราเห็นแก่ตัวนะ ซึ่งเรื่องนี้มันมองได้หลายมุม มันแล้วแต่คนจะมอง การที่คุณแยกออกมาจากครอบครัวแสดงว่าคุณเห็นแก่ตัว ไม่ยอมอดทน เลยขอถามหน่อยว่าชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งที่เกิดมาจะต้องอดทนไปจนตายเลยหรือไง และในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าปัญหาคืออะไร และหาทางแก้ทางอื่นไม่ได้แล้ว เราควรจะเสียสละตัวเองไหม”
“ถามว่าเจ็บไหม เจ็บนะไม่ใช่ว่าไม่เจ็บ ออกมาจากลูก ลูกเราไม่ได้เก็บมาจากกองขยะ มันออกมาจากตัวเราด้วยซ้ำ เราว่าเราเข้าใจปัญหาของมนุษย์ เพราะบางปัญหามันไม่สามารถแก้ได้ มันมีเยอะ แต่ถ้าคนคิดแบบโบราณว่ามันแต่งกันแล้ว มันต้องอยู่ด้วยกันจนวันตาย ทะเลาะกันไป ฟาดหัวกันไป อยู่ด้วยกันไป ชีวิตแบบนั้นมันทรมานไหม และถ้าวันใดเรามีความสุข ความสุขนั้นก็จะแพร่ไปถึงลูก แต่ถ้าวันใดที่เราอยู่ แล้วเราทุกข์ ความทุกข์นั้นก็จะแพร่ไปถึงลูกเช่นกัน”
“อยากจะบอกทุกคนว่าเราเห็นครอบครัวที่ใส่ใจเด็กน้อยมากกับประเทศไทยเรานะ เราเห็นหัวใจของเด็กดวงน้อยๆ เนี่ยน้อยเกินไป น้อยกว่าตัวเอง และเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เรามองอนาคต ว่าปัญหาอะไรจะเกิดแล้วกระทบกับหัวใจดวงน้อย ๆ ในอนาคตนั้น ความผิดถูกของมนุษย์ เราเป็นผู้สร้าง เราเป็นพ่อเป็นแม่ เราเป็นผู้หล่อหลอมสังคมให้ลูกของเรา และเรายอมให้มันหล่อหลอมไปในทางที่สับสน แสดงว่าเราไม่ได้เป็นผู้สร้างที่ดี อะไรก็ได้ที่เราทำแล้วให้เขาเป็นคนที่ดีในสังคมได้ คุณทำไปเถอะ และไอ้เรื่องที่ปล่อยปะละเลยเด็ก ข่มขืน มีทั้งเคสของเด็กผู้หญิงและผู้ชาย หรือปล่อยเขาเอาไว้เพียงเสี้ยวนาที เกลว่าเราควรจะคิดกันใหม่ เราควรจะรักเด็กมากๆ หน่อย เราไม่ควรจะรักตัวเองมากเกินไป เด็กน้อย ๆ เขาจะโตไปเรื่อย ๆ แต่จะโตแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับเรา เพราะเราอีกไม่กี่ปีเราก็ตาย เกลอาจจะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการเลี้ยงลูก อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการมีครอบครัว แต่เกลเชื่อว่าเราพยายามที่จะไม่คิดถึงตัวเอง เราจะคิดถึงลูกเราก่อน เราอยากให้ลูกเราได้รับสิ่งดี ๆ เราไม่อยากทะเลาะกันต่อหน้าลูกเรา”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม